08

898 Words
ณ ล็อบบี้โรงแรม อมราวดี ปทุมวัน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรวมทั้งบัทเลอร์ที่สวมชุดเรียบหรูเพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่โรงแรมเพราะเป็นคนที่ลูกค้าเจอด่านแรก ครั้งก่อนมีคนบ้าเสียสติวิ่งเข้ามาโรงแรมพวกเขาก็สกัดกั้นไว้ได้ก่อนเข้าไปห้องโถงที่เต็มไปด้วยนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวตลาดบนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของโรงแรม แม้มีประสบการณ์มากทว่าพวกเขากลับทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นเด็กวิ่งกรูเข้ามา พวกเขาไม่ได้สกัดกั้นในทันทีเพราะไม่มีใครคิดว่าเด็กวัยอนุบาลเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตราย ที่สำคัญคนที่วิ่งนำหน้าเพื่อนมาด้วยสายตามุ่งมั่นนั้นก็คุ้นหน้าคุ้นตาพวกเขาเหลือเกิน ยังไม่ทันที่พวกเขาจะตัดสินใจอะไร ก้อนกลมๆ สี่ก้อนก็วิ่งตัดหน้าพวกเขาไปที่ล็อบบี้เสียแล้ว "เฮ้ย ไม่รู้เด็กๆ มาจากไหน ตามไปดูหน่อยเดี๋ยวไปกวนแขก" หนึ่งในสองพนักงานที่เฝ้าประตูโรงแรมอยู่เอ่ยบอกเพื่อนแล้วพวกเขาก็รีบตามไป "นั่นใช่คุณหนูอิคคิวไหม" พวกเขาคุยกันขณะเดินตามกลุ่มเด็กๆ ไป "คุณหนูอิคคิวเพิ่งเสียไปเมื่อปีที่แล้วนะ" พวกเขามองหน้ากันแล้วก็นิ่วหน้า รีบวิ่งตามเด็กๆ เหล่านั้น แต่ก็ต้องชะงักขาเมื่อเห็นว่าท่านประธานใหญ่กำลังย่อตัวลงแล้วนั่งชันเข่าเพื่อคุยกับเด็กเหล่านั้น "ซวยแล้วเรา" พนักงานเฝ้าประตูและบัทเลอร์มองหน้ากันก่อนที่คนตำแหน่งสูงกว่าเพื่อนจะเดินเข้าไปหาท่านประธานใหญ่แล้วรายงาน "เอ่อ ท่านครับ พอดีเด็กๆ วิ่งเข้ามากะทันหัน พวกผมกำลังจะมาดูพอดีครับ" มือหนาของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเด็กๆ ยกมาห้ามไม่ให้พนักงานพูดอะไรอีก เขามองหน้าน้องไนน์แล้วมองเลยไปยังเด็กอีกสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังแล้วย้อนกลับมามองน้องไนน์อีกอย่างพิจารณา เหมือนเหลือเกิน แต่ถึงแม้จะเหมือนแค่ไหนเขาก็รู้ดีว่าไม่ใช่ ปนปกเสื้อของเด็กชายปักชื่อไว้ว่า ‘ไนน์’ ไม่ใช่ ‘อิคคิว’ เขาถอนหายใจก่อนจะพูดกับเด็กชายอีกครั้ง เพื่อทบทวนสิ่งที่เจ้าตัวต้องการ "เมื่อกี้หนูบอกฉันว่า หนูมาหาแม่ที่ทำงานอยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอ?" "ใช่ครับ แม่บอกว่าที่ทำงานอยู่ข้างๆ โรงเรียน ถ้ามีปัญหา เราก็มาหากันได้" "แล้วหนูมีปัญหาอะไรเหรอ" น้องไนน์ทำท่าคิด แม่บอกว่าเรื่องหาพ่ออย่าเพิ่งพูดออกไป แม่จะจัดการเอง เขาเลยบอกแค่เพื่อนสนิทแต่ไม่บอกคนอื่น โดยเฉพาะคนตรงหน้าที่หน้าตาดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่... "ไนน์บอกคนแปลกหน้าไม่ได้" "ต้องบอกแม่คนเดียวสินะ" เขาทวนคำ เด็กชายจึงพยักหน้าหงึกหงัก คนที่อายุมากกว่าจึงถามน้องไนน์ "แล้วแม่ของหนูชื่ออะไร ฉันจะให้คนไปตามหาให้" "แม่นีราครับ นีนนีรา" แววตาของคนตรงหน้าน้องไนน์เบิกกว้างขึ้น แววตาของเขาแสดงออกหลากหลายความรู้สึกประเดประดัง "นามสกุลของแม่หนูคืออะไร..." ยังไม่ทันที่น้องไนน์จะได้ตอบ คุณครูและพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนก็รีบเข้ามาตามประกบเด็กที่หนีออกมาจากโรงเรียน "ขอประทานโทษค่ะคุณ พอดีเด็กนักเรียนของโรงเรียนเราหนีออกมา ดิฉันมารับตัวเด็กกลับ ขอโทษจริงๆ นะคะ ที่อาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้น" คุณครูประจำชั้นเห็นเด็กกลุ่มนี้แล้วก็รีบขอโทษขอโพยไว้ก่อน เจ้าเด็กอนุบาลแก๊งนี้ทำให้ชีวิตความเป็นครูของเธอยากลำบากเหลือเกิน วันแรกที่พวกเขาเข้าเรียนก็ทำให้ได้เชิญผู้ปกครอง วันนี้ก็คงต้องเชิญคุณพ่อคุณแม่เด็กๆ มาคุยกันอีกรอบ เฮ้อ... "ไม่เป็นไรครับคุณครู" อรรถ อมรเทพหันไปยิ้มให้คุณครูโรงเรียนอนุบาล เขาลุกขึ้นยืนแล้วถอยออกมาเพื่อปล่อยให้คุณครูกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปจูงแขนเจ้าสี่แสบกลับโรงเรียน เสียงคุยของครูกับนักเรียนยังแว่วมาให้ได้ยิน "เด็กๆ ทำไมแอบออกมานอกโรงเรียนกันล่ะคะ คุณครูตกใจมากเลยรู้ไหม" "ไนน์อยากมาคุยกับแม่ เลยมาที่ทำงานแม่ เดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ" น้องบีบอกคุณครู "ตอนเย็นคุณแม่ก็มารับอยู่แล้วไม่เห็นต้องรีบออกมาคุยเลย" "..." เด็กๆ เงียบไปพร้อมกันทั้งสี่คนเพราะลืมไปว่าตอนเย็นก็จะได้เจอผู้ปกครอง ก่อนนี้พวกเขาแค่คิดว่าไนน์ควรคุยกับแม่แล้วก็พาไนน์มาหาแม่เลย "ถ้าอย่างนั้นคุณครูโทรหาแม่ให้ไนน์หน่อยได้ไหมครับ" แต่กระนั้นน้องไนน์ก็ใจร้อนอยู่ดี "ได้ค่ะ แต่ต้องกลับโรงเรียนก่อนนะคะ" "แต่แม่ไนน์ทำงานที่นี่นะครับ" "คุณครูอีกคนโทรหาผู้ปกครองพวกเราแล้ว ไว้ไปเจอกันที่โรงเรียนดีกว่านะคะน้องไนน์" "ก็ได้ฮะ" เด็กชายพยักหน้ารับ อรรถมองตามน้องไนน์จนสุดสายตา ความสงสัยผุดขึ้นในหัวแต่เขาไม่ได้ตามไปถามเด็กชายที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเพราะคนที่ให้คำตอบเขาได้กำลังจะมาที่นี่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD