ตอนที่4
“เชนทร์ ทำไมนายไม่จีบณิชาให้เป้นเรื่องเป็นราวไปเลยหล่ะ” คำถามของมินตราทำให้ณิชารู้สึกอึดอัด คำพูดที่แสนดูถูกจากโชนยังดังก้องอยู่ในสมอง
“อย่าคิดมาหลอกไอ้เชนทร์”
“ไม่กล้าจีบหรอก กลัวเสียเพื่อน”
“คือ..ยังไงอ่ะ นายไม่ได้ชอบณิชาหรอ”
“กลัวผิดหวัง ฉันไม่ใช่สเปกณิชาหรอก”
“ณิชา ไม่ชอบเชนทร์หน่อยหรอ”
“แก้ม ถามอะไรเนี่ย”
“ก็ไหนๆ เชนทร์ก็พูดแล้วอ่ะ เปิดใจกันไปเลย”
“เพื่อนกันก็ดีอยู่แล้วเนอะ” คำตอบของณิชาไม่ได้ผิดจากที่เขาคิดไว้เท่าไร เขาเพียงแค่รู้สึกดีกับณิชาในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
ภาพพี่ชายฝาแฝดลูบผมณิชาพร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนใสซื่อของเธอทำไห้ใครบางคนเกิดความไม่พอใจ ครั้งหนึ่งเขาเคยหลงรักผู้หญิงนิสัยแบบนี้ แต่มันก็เป็นแค่ภาพลวงตาที่ผู้หญิงคนนั้นสร้างขึ้นมาหลอกเขา
.....
“โชนมันไปไหนของมัน ไม่ใช่ไปแอบร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกแล้วนะ” กวินนาชะเง้อหาเพื่อนอีกคนแต่ก็ไร้วี่แวว
“ถ้าอยู่กรุงเทพนะ ป่านนี้เมาหัวทิ่มไปแล้ว”
“โชนเคยร้องไห้ด้วยหรอแก้ม” ณิชาถามขึ้นด้วยความสงสัย คนเย็นชาอย่างโชนเคยเสียใจกับเขาด้วยหรือ
“ณิชาต้องไม่เคยรู้ความลับนี้มาก่อนแน่ๆ โชนเคยโดนผู้หญิงหลอกให้รักด้วยนะ”
“แล้วโชนก็รักเขาหรอ”
“หัวปักหัวปลำเลยแหละ แต่ยัยนั่นเข้าหาโชนเพราะพนันกับเพื่อน” มินตราพูดเสียงเบาหวิวกลัวเจ้าตัวเขาจะมาได้ยิน ณิชาเพิ่งได้รู้ความลับของเขาก็นิ่งงันไปชั่วขณะ คนฉลาดอย่างเขาไม่น่าจะโดนใครหลอกได้เลย
“ยัยนั่นน่ะท่าทางนุ่มนิ่ม คล้ายๆ เธอแหละณิชา”
“แต่เราไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นซะหน่อย”
“หื้ม? เธอพูดว่าไงนะ” กวินนาเงี่ยหูฟังใกล้เธอเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ไม่ถนัด
“ปะ..เปล่า เราไปรอที่โรงนอนนะ จะไปหาสัญญาณโทรหาแม่ด้วย”
“อย่าเดินไปไกลนะ มืดแล้วเดี๋ยวหลง”
หญิงสาวเดินไปตามทางที่มีแสงจากหลอดไฟโซล่าเซลล์ที่ชาวบ้านห้อยไว้ตามต้นไม้เพื่ออำนวยความสะดวกให้เหล่านักศึกษา จนก่อนจะถึงโรงนอนเธอหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อดูว่าพอจะมีสัญญาณบ้างหรือเปล่า
“อื้อออออ” จู่ๆ เธอก็ถูกบุคคลปริศนาปิดปากด้วยมือหนาและลากเธอหายไปในความมืด ณิชาพยายามดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของใครก็ไม่รู้ หากต้องโดนข่มขืนเธอยอมตายเสียดีกว่า
ปึก!
“ช่วยด้ว...อื้ออออ” ทันทีที่ถูกเหวี่ยงจนแผ่นหลังกระแทกกับต้นไม้ใหญ่เธอก็ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ เธอถูกเขาคนนั้นบดจูบอย่างป่าเถื่อน หญิงสาวไม่สนใจคาวเลือดที่คละคลุ้งในโพรงน่าสะอิดสะเอียน เธออยากหลุดพ้นจากการกระทำต่ำทรามนี้ แต่ก็เป็นไปได้อยาก เพราะเธอถูกเบียดกับต้นไม้ใหญ่จนแทบจะหายใจไม่ออก อีกทั้งสองมือถูกขึงพรืดอยู่เหนือหัว ไหนจะปากที่ไม่มีโอกาสได้ร้องเพราะกำลังถูกคนใจทรามจูบอย่างรุนแรง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลราวเม็ดฝนแต่ไม่มีใครมีโอกาสได้เห็นมันจากความมืดในป่าแห่งนี้ ที่ไม่ได้ไกลจากทางเดินไปโรงนอนเลย
พรึ่บ!
จู่ๆ ชายคนนั้นก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ หญิงสาวรีบวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อให้ถึงหลอดไฟที่ส่องสว่างระหว่างทางโดยไม่สนว่าต้องฝ่าดงกิ่งไม้และหนามแหลมคมมากมายขนาดไหน
.....
ชายที่ยืนอยู่ในความมืดรู้สึกได้ว่าหญิงสาวร้องไห้เพราะกลัวเขาจับใจจึงยอมปล่อย ณิชาที่ยืนอยู่ใกล้หลอดไฟส่องสว่างมองกลับมาที่เขาทั้งที่ยังหอบหายใจพลางปาดน้ำที่ใบหน้าก่อนจะวิ่งกลับไปที่โรงนอนของผู้หญิง
หญิงสาวนอนร้องไห้อย่างเสียขวัญแต่ก็ไม่มีใครรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเพื่อน เพราะที่โรงนอนมีแต่ความมืดมิด
เช้าวันต่อมา.....
หญิงสาวไม่ได้บอกใครเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อคืน อาจจะเป็นนักศึกษาด้วยกัน หรือเป็นชาวบ้านที่นี่ก็ได้ แต่บาดแผลที่ขาเรียวขาวคงต้องหาเหตุผลมาแก้ต่างกับเพื่อนสาทั้งสองคน
“เดินยังไงให้ร่วงเข้าไปในป่ากันนะ นี่ขนาดเธอใส่กางเกงขายาวยังเจ็บขนาดนี้” กวินนาบ่นอุบขณะที่ใช้ก้านลำลีชุบยาทาที่แผลให้เธอ
“อย่าบ่นเลยนะจะได้ไปช่วยเขาทำงานกัน”
.....
งานซ่อมบำรุงอาคารเอนกประสงค์ขนาดเล็ก และห้องเรียนบางห้องที่เสียหายเพราะความรุนแรงของพายุเมื่อหลายเดือนที่แล้วจะต้องแล้วเสร็จภายในวันนี้ ทุกคนจึงช่วยกันจนแทบไม่มีเวลาพัก
“ณิชาขอตะปูหน่อยสิ” ณิชาวางแปรงทาสีในมือลงเมื่อเพื่อนชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนบันไดวานให้เธอหยิบตะปูให้
“แหม นั่งกันอยู่ตั้งสามคนเรียกใช้แต่ณิชานะ” ขายหนุ่มรับถุงตะปูจากณิชาด้วยรอยยิ้ม เธอน่ารักดีในความคิดของเขา
“ต้องการอะไรอีกก็เรียกเราได้เลยนะ”
“ครับ”
ปัก!
“อะไรของมึงวะโชน ตอกเสียหมดแล้วน่ะ ลงมาเลยกูทำเอง” โชนกระโดดลงจากบันไดจนคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นใจหายวาบ
“ส่งค้อนกับตะปูมาให้กู” โชนยื่นกระเป๋าคาดเอวที่ใส่อุปกรณ์ให้เพื่อนที่ทำหน้าที่แทนตัวเอง
“เป็นอะไรของมึง ไปดูทำอย่างอื่นไป” แฝดพี่ว่าอย่างนั้นชายหนุ่มจึงเดินเลี่ยงออกมาห่างจากกลุ่มเพื่อน
“คืนก่อนเอากับไอ้เชนทร์ วันนี้อ่อยอีกคน เหอะ”
.....
หลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้น เดย์พยายามขอเบอร์มือถือของณิชา แต่ก็ถูกปฏิเสธ กระนั้นคนมีอคติก็ยังมองว่าเธอเพียงแค่เล่นตัวให้ผู้ชายอยากได้เธอมากขึ้นเท่านั้น
“ไม่ให้จริงๆ หรอ”
“เดี๋ยวกลับมหาลัยก็ได้เจอกันแล้ว”
“จะกลับกันได้ยังอี๋อ๋อกันอยู่นั่นแหละ” จากที่ไม่กล้าสู้หน้าเขาอยู่แล้วณิชาก็ยิ่งไม่มองหน้าเขาเลย เธอส่งยิ้มเล็กๆ ให้เดย์ก่อนจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าไปที่รถของเชนทร์
“ไปนั่งเป็นเพื่อนฉัน”
“เดี่ยวฉันไปนั่งกับนายเองก็ได้โชน”
“แก้มเธอไม่ต้องมา ให้ณิชามานั่งกับฉัน”
“อะไรของนายวะโชน”
“ณิชามานั่งเป็นเพื่อนฉัน” หญิงสาวเกรงว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุให้เพื่อนทะเลาะกันจึงเดินไปขึ้นรถที่โชนขับอยากจำใจ