EP1.1 ll พี่มิ้งคนงง [1]

1373 Words
“ผิดที่พ่อมึงลืมใส่ถุงยางเนี่ยแหละ มึงถึงได้เกิดมาเนี่ย!” ฉันพูดหยาบเพื่อฟีลลิ่งก่อนจะกุมขมับเหนื่อยๆ ผัวก็ไม่มี มีเพื่อนก็โง่อีก โอ๊ย ชีวิตอีอาร์ตบัดซบไปไหน ฉันเบะปากมองหน้านางที่กำลังระรื่นกับทีวีอย่างมีความสุข เกิดเป็นมันก็ดีนะ ชีวิตไม่ต้องคิดเหี้ยอะไร ลอยชายไปวันๆ โดนหลอกด่าก็ไม่รู้ตัวด้วย ยัง... มันยังนิ่งอยู่ =______=! “วันนี้ขออยู่ด้วยนะ ไอ้ต้นมันพาแฟนมาที่ห้อง” อีมิ้งว่าเหมือนขออนุญาต แต่ฉันว่าคงไม่ต้องขอแล้วมั้ง มันบุกรุกคุกคามห้องกะเทย หยิบขนมบนหัวเตียงมานั่งแดก พร้อมหมอนเป็ดมากอดนั่งดูทีวียังกับจะปักหลักปักฐานอยู่ยันเช้าซะขนาดนี้ อีชะนีปีสองพันสิบหก อีแพะภูเขา! เกลียดดดดดดดดด! “จะยอมมันทำไมนักหนา มันน้องแกนะ ทำตัวให้สมเป็นพี่หน่อย” “ก็นี่ไง พ่อฉันบอกว่าเป็นพี่ต้องเสียสละ” อีมิ้งว่าหน้าตาย ก่อนจะเหล่ตาต่ำดราม่าเหมือนละครหลังข่าวช่องเจ็ด “แต่พ่อฉันตายแล้วว่ะแก” เออ พอ ขอกันดีๆ ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องดราม่า แค่นี้ก็น่าสงสารจะตายแล้วจ้า มาซะเป็นนางเอกหนังโศกเลยนะ พจมานก็ขยาด ดาวพระศุกร์ก็ไม่สู้ความรันทดของนางหรอก =_=; “เออ กะเทย มีอะไรจะเม้าส์” อีมิ้งว่าก่อนจะผายมือขึ้นสี่สิบห้าองศามองมาทางฉันพร้อมท่าทีเสือกเต็มพิกัด ทำให้ฉันพุ่งเข้าไปใกล้อย่างว่องไว ไอ้ท่าทีแบบนี้น่ะมันเม้าส์เรื่องผู้ชายชัวร์ๆ “ยังไงคะ ชะนี” “เมื่อกี้ ฉันไปซื้อถุงยางกลิ่นสตอเบอรี่ชนิดมีขีดมีปุ่มผิวขรุขระราคาหกสิบห้าบาทให้ไอ้ต้นที่เซเว่นหน้าปากซอยหอดีเรนเจอร์มา” “มันจำเป็นต้องละเอียดขนาดนั้นมั้ย มิ้ง =_=” ฉันมองหน้านางอย่างเพลียๆ นี่ไม่มีอะไรจะพูดแล้วใช่มั้ย ดีเทลนางเยอะเหลือเกิน “เออน่า ฟังก่อน” “เออ เล่าๆๆๆๆ” “คืองี้... แป๊ป ขอกินขนมก่อน” อีมิ้งว่าให้ฉันตื่นเต้นจนลุ้นแล้วมันก็เบรกอารมณ์ด้วยการหยิบฮานามิมาแดก =_=“เออ คือฉันเดินเข้าไปในเซเว่นใช่มั้ยแก ละฉันก็...” “ก็... ก็อะไรอีมิ้ง!” “แป๊ป ขอกินอีกคำ” โอ๊ย อีชะนีภูเขา!!!!!! ลูกเล่นเยอะนักนะ กะเทยลุ้นอยู่ รู้บ้างมั้ยเนี่ย! “โอ๊ย อีนี่ ลีลาเหลือเกิน =_=!”” ฉันเบ้หน้าทำท่าจะกัดหัวมันทำให้คนกวนประสาทหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างน่าถีบ นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าเคยเป็นผู้ชายมาก่อนนะ จะเตะมันตกเตียงสะโพกเคลื่อนเลย! “แกรู้ใช่มั้ย ไอ้ถุงยางเหี้ยเนี่ย แม่งวางหน้าเคาน์เตอร์ ฉันก็ไปยืนด้อมๆ มองๆ ไงแก ฉันเป็นผู้หญิงก็อายปะวะ” “ต๊าย อายเป็นด้วย กะเทยพึ่งรู้” ฉันยกมือทาบอกจิกตามองมันอย่างไม่เชื่อหู อีมิ้งอายเป็นด้วยค่า คุณผู้ชม ความรู้ใหม่เลยนะคะ นอกจากเรื่องที่มันโง่แล้วมันยังมียางอายด้วย! ปกตินี่โง่จนไม่เข้าใจว่าจะอายทำไม เดี๋ยวนี้นางมีการพัฒนานะคะ อยากจะปรบมือรัวๆ “เออ นั่นแหละ แล้วน้องพนักงานก็มาทักแล้วก็ช่วยฉันเลือก ฉันโคตรอายเลยแก” “สาระคือ?” ฉันกลอกตารัว ตั้งแต่ฟังมาก็ยังจับใจความสิ่งที่มันต้องการสื่อไม่ได้ คือไง ฉันงงเอง หรือมันที่สื่อสารไม่รู้เรื่อง “พนักงานกะดึกหล่อวัวตายควายล้มเลยแกกกกกกกกกกกกกก” “อ๋อ ที่เล่ามายาวๆนี่คือไง จะบอกว่าพนักงานหล่อแค่นั้นใช่มั้ย อีมิ้ง” “เออ ใช่” มันพยักหน้า ต๊าย อีนี่เคยเรียนจับใจความบ้างมั้ยเนี่ย มันจะยาวไปเพื่อใคร “น้องน่ารักมากเลยอ่ะ” “จอง” ฉันชิงพูดขึ้นก่อนทำให้อีมิ้งย่นคิ้วอ้าปากหวอ “ฮะ?” “คนหล่อๆ อย่างนาง ไม่เหมาะจะเป็นน้องนะอีมิ้ง นางเหมาะจะเป็นผัวกู ดังนั้นกูจอง” ฉันเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นมาปลัดบลัชออนสีชมพูเบาๆ ที่แก้มพอเป็นธรรมชาติ ถึงอีมิ้งมันจะโง่ แต่เรื่องผู้ชายหล่อมันไม่เคยทำให้กะเทยผิดหวัง ถ้ามันบอกว่างานดี แสดงว่าเด็ด แต่ของแบบนี้ต้องไปพิสูจน์ให้เห็นด้วยตา จะได้รู้ว่าหล่อจริงหรือไม่จริง “เขาจะเอาแกเหรอ?” อีมิ้งถามหน้าซื่อ ให้ตาย อีชะนีนี่หลอกด่าฉันปะวะ แต่หน้าตาดูโง่เกินที่จะหลอกด่าชาวบ้านเป็นทำให้ฉันรู้สึกสับสนขึ้นมาหนึ่งระดับ “ไม่รู้ กูจอง กูเกิดหลังมึงสองวันนะ กูเป็นน้อง มึงเป็นพี่ ดังนั้นมึงต้องเสียสละให้กู” ฉันขึ้นกูมึงทุกครั้งที่ต้องการฟีลลิ่งก่อนจะทำหน้าติดจริต พูดไปก็เท่านั้นแหละ เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาอีมิ้งตลอด มันทำหน้ามึนๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเหมือนเข้าใจ แต่ไม่รู้เข้าใจจริงรึเปล่า “ไป อีมิ้ง ไปเซเว่นกัน ไปดูให้รู้ว่าหล่อจริงไม่อิงตลก” มันไปไม่ไปไม่รู้ แต่กะเทยเปิดประตูแล้วค่า! ไม่นาน พวกฉันก็ยืนอยู่ที่เซเว่น อีมิ้งทำหน้าเนือยๆ สไตล์มัน ฉันพยายามทำตัวแมนๆ เพื่อไม่ให้ไก่ตื่นแอบลอบมองเข้าไปในเซเว่นก็เห็นร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบ ผมสีดำสนิทมาไกลๆ หุ่นก็ใช้ได้ กล้ามแน่นน่าเจี๊ยะสุดๆ ว้ายยยย พนักงานเซเว่นนี่เขาคัดหน้าตามารึเปล่า หล่อเหลาเอาการ ให้สามผ่านค่ะ แค่เดินผ่านประตูเข้าไปได้ยินเสียงติ๊งหน่อง สองตาของคนร่างสูงก็หันมาสบพร้อมรอยยิ้มหวาน ฉันเอาศอกกระทุ้งเอวอีมิ้งเบาๆ ก่อนจะกระซิบ “แก นางมองฉัน นางต้องอยากได้ฉันแน่” “เขามองเฉยๆ รึเปล่า” “โอ๊ย อีนี่ ชอบเบรกทุกที ช่วยเออออตามเพื่อนอ่ะเป็นมะ?” “อ้าว พี่มาอีกแล้ว” คนร่างสูงว่าก่อนจะมองหน้าอีมิ้งแล้วเลื่อนมามองฉันนิ่งๆ “หูย เหงื่อซ่กกันมาเลย” แหงสิ นี่วิ่งมาเพื่อเจอหน้าน้องเลยนะ! “เป็นไงบ้างพี่?” อีเด็กนั่นคุยกับอีมิ้งโดยไม่แยแสฉันเลยสักกะผีก หนอย อีชะนีนี่เล่นของรึเปล่าเนี่ย อีมิ้งหัวเราะเขินๆ ให้เดาเพราะว่าน้องเขาหล่อมันเลยเหล่สายตาไปทางอื่น “ก็ดีนะลูก” แรด แรด แรด! “ทำหน้าฟินกันมาเชียว ฮั่นแน่ ทำอะไรกันมา” น้องพนักงานสุดหล่อแซวก่อนจะมองหน้าอีมิ้งอย่างกะลิ้มกะเหลี่ยพลางเลื่อนสายตามามองฉันด้วยท่าทีมีเลศนัย ไม่รู้ทำไมทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ =_=;;; “ก็นั่งกินกันเรื่อยเปื่อย” อีมิ้งตอบนิ่งๆ ทำให้น้องพนักงานชะงักแล้วกลอกตามองบน “...” “อร่อยดีนะ ยี่ห้อนี้” “...” น้องเขานิ่งแล้วกลอกตามองบนอีกรอบ ฉันว่าบรรยากาศชักจะทะแม่งๆ ทำให้ฉันนึกถึงคำที่อีมิ้งพูดก่อนหน้านี้ ‘เมื่อกี้ ฉันไปซื้อถุงยางกลิ่นสตอเบอรี่ชนิดมีขีดมีปุ่มผิวขรุขระราคาหกสิบห้าบาท’ มันเป็นชั่ววินาทีที่ฉันสบตากับน้องหน้าคม แต่ก็ตอบได้หมดทุกคำถามที่เกิดขึ้นในหัว ขณะที่เจ้าตัวคนพูดไม่ได้รู้ส้นตีนอะไรเลย อีคนฟังก็คิดไปถึงไหนต่อไหน เดี๋ยวๆ อีมิ้ง กูว่านางไม่ได้ถามถึงขนมฮานามิที่มึงแดกนะคะ นางน่าจะหมายถึงถุงยางกลิ่นสตอเบอรี่ที่มึงพึ่งซื้อไปนะ อ๊ายยย ตอบอย่างนี้ได้ยังไง กะเทยเสียหายหลายแสนนะ! “ไม่นะน้องคืองี้... ” ฉันพูดเสียงแมนพยายามจะแก้ตัวหากแต่ว่า “แฟนพี่หล่อดีเนอะ” “...” แฟนพี่... แฟนพี่ = แฟนอีมิ้ง แฟนอีมิ้งในสายตาน้องพนักงาน = กู กู = กะเทย น้องคะ ไม่นะ อีชะนีนี่ไม่ใช่แฟนพี่นะ ผิดผีค่ะน้อง ไม่ๆๆๆๆ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD