#1

1547 Words
‘... วันประชุมของสถานีโทรทัศน์...’ ‘...เช้าตรู่...ณ ห้องชุดคอนโด ชั้นสูงสุด ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร’ ร่างเปลือยเปล่าของชายและหญิงที่ร่วมมือรวมร่างดั่งเสมือนเป็นคนคนเดียวกัน ของกิจกรรมสร้างความหวาบหวามให้กันและกัน “อ้า...อ้า...” เสียงครางของริต้าดังออกมาไม่ขาด เมื่อเธอเป็นฝ่ายรับอารมณ์ความรุนแรงของคริสต์ที่ทุ่มแรงไม่มีกักเก็บไว้ให้กับริต้า ที่ปล่อยเสียงครางออกมาบ่งบอกถึงความสุขกายที่ได้รับอย่างล้นเหลือ ริต้าปฎิเสธไม่ได้ว่า เธอหลงใหลการเสพเซ็กส์ของชายผู้นี้เหลือเกิน   คริสต์ยังคงมอบพลังความต้องการของตนเองให้กับเธอผู้นี้ ตอบสนองให้กับเธอต้องการอย่างถึงใจ เป็นการหยุดและปิดฉากความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอเป็นการถาวร  เพราะนี้จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของผู้หญิงคนนี้ คนในอดีตที่ผู้ชายแบบเขาคิดว่า เขา‘รัก’เธอ... “คริสต์  ถ้าคุณรักฉันจริง! คุณก็ควรจะปล่อยฉันไป  ให้ฉันไปมีชีวิตที่ดีกว่า” คำพูดสุดท้ายของริต้า ที่ทิ้งเขาไปตอนที่เขายังเรียนปริญญาโทที่อเมริกา  “อืมมมม....” เสียงครางในคอของคริสต์ที่ดังออกมาในที่สุด เมื่อถึงจุดปลดปล่อย คริสต์ถอดถอนแก่นกายที่ยังคงความแข็งแรงสมชายด้วยวัยเพียงสามสิบหมาดๆ มือใหญ่ดึงเครื่องป้องกันออกจากความแข็งแรงทิ้งลงถังขยะ และเดินเข้าห้องน้ำไปทันที โดยที่ไม่หันมามองริต้าที่นอนหอบหายใจหมดแรงอยู่บนเตียงใหญ่ของเขา... ยี่สิบนาทีต่อมา คริสต์เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่เขาชำระร่างกายของตัวเองแล้ว เขาสวมเพียงเสื้อคลุมที่ห่อหุ้มร่างกายไว้ และเดินไปเปิดลิ้นชักเล็กที่หัวเตียงและหยิบบางอย่างออกมา... “รับเงินนี้ไป...และไม่ต้องกลับมาทีนี้อีก” คริสต์โยนเงินสดที่เป็นแบ้งค์พันจำนวนสองปึกให้กับริต้าที่ยังคงนอนหอบหายใจบนเตียงใหญ่ที่มีผ้าห่มคลุมร่างเปลือยเปล่าอยู่ “อะ...อะไรคะ...คริสต์...ริต้าไม่เข้าใจ” ริต้าที่สายตามองเงินสดบนเตียงกับชายตรงหน้าสลับกัน  “เวลาของเธอหมดแล้ว...มันถึงเวลาที่เธอต้องออกไปจากชีวิตฉัน...อย่างถาวร...” คริสต์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ  “คริสต์!...”  “ออ!...เธอมีเวลาหนึ่งชั่วโมง...เพราะเดี๋ยวแม่บ้านจะมาทำความสะอาดและรื้อเตียงเซตนี้ออกจากที่นี่” “คริสต์!....ไม่จริงใช่มั้ย...ก็เราสองคนเข้าใจกันแล้วไม่ใช่เหรอคะ?...” ริต้าที่ช็อคกับสถานการณ์ปัจจุบัน พูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ของเธอไม่ได้แตกต่างกับหญิงสาวที่ผ่านๆมาของชายตรงหน้าเลย “ถูก!...ฉันเข้าใจเธอเป็นอย่างดี...แต่เราสองคนก็จบกันเพียงเท่านี้...ฉันก็ทำตามข้อเสนอของเธอไงว่า ‘ลอง’ ให้โอกาสเธอ...และฉันก็ให้แล้ว...แต่สุดท้ายเราสองคนก็ไปต่อกันไม่ได้...” “ไม่จริง!!!...คุณแก้แค้นริต้าใช่มั้ยคะ...ที่ริต้าเคยทิ้งคุณไป” ริต้าพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ถึงแม้เธอจะรับรู้ได้ว่าชายตรงหน้าเปลี่ยนไป จาก ‘ผม’ เป็น ‘ฉัน’ จาก ‘คุณ’ เป็น ‘เธอ’ สรรพนามที่ใช้ก็ห่างเหินและไม่มีให้เกียรติเธอเลย เพียงแค่ช่วงเวลายี่สิบนาทีที่เขาเข้าห้องน้ำและกลับมาเขากลายเป็น คริสต์อีกคนที่เธอไม่เคยรู้จัก “ฉันไม่ได้แก้แค้นอะไรทั้งนั้น...อย่าสำคัญตัวเองมากไป...ผู้หญิงหิวเงินอย่างเธอไม่มีความหมายกับฉันเลยสักนิด” คริสต์โกหกคำโตกับหญิงสาวตรงหน้า เพราะตลอดเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เขา ‘ลอง’ ให้โอกาสเธอนั้น ก็เพราะว่าเขาต้องการเอาคืนเธอที่’ทิ้ง’เขาไปหาผู้ชายคนอื่นที่เธอคิดว่ามีมากกว่าเขา สุดท้ายธาตุแท้ของผู้ชายคนนั้นก็ออกมา....ทำให้ริต้าต้องกลับเมืองไทยและพบกับความจริงว่า แท้จริงแล้วเขาเป็นใคร เพราะตลอดเวลาที่เขาได้รู้จักและคบเธอเขาไม่เคยบอกว่าตัวเองเป็นใคร  “คริสต์!!!...คุณเลวมาก!!...สักวันหนึ่งคุณจะต้องเสียใจที่วันนี้คุณทำกับ   ริต้าแบบนี้...” ริต้าเสียใจและคาดไม่ถึงว่าชายตรงหน้าจะใช้วาจาหยามเธอได้ถึงเพียงนี้ “เสียใจ!...ฮึม!...เธอคงลืมไปว่าฉันผ่านและมาไกลความรู้สึกนั้นแล้ว...กับผู้หญิงแบบเธอฉันไม่มีทางให้มันเกิดขึ้นกับฉันแน่ๆ...” คริสต์พูดพร้อมด้วยรอยยิ้ม สายตามองริต้าอย่างที่เขาไม่เคยให้มันกับใครมาก่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาไม่ไว้วางใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย ยกเว้นแม่เขาเพียงคนเดียว “ฮือ ฮือ ฮือ....” ริต้าได้แต่ร้องไห้ฟูมฟาย เพราะสำหรับเธอทำได้เพียงเท่านี้ เธอเป็นใคร แล้วเขาเป็นใคร ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้ว  คริสต์แสยะยิ้มมองหญิงสาวที่ก้มหน้าร้องไห้กับหมอนที่เธอหนุนนอน ก่อนที่จะเดินไปเพื่อแต่งตัว เพราะวันนี้เขามีประชุมกับทีมงานที่เกี่ยวข้องที่ทางช่องของแม่เขาจะนำนวนิยายที่กำลังเป็นที่ต้องการของช่องต่างๆที่จะนำไปทำเป็นละคร รวมถึงเจ้าของบทประพันธ์ที่ยินยอมเพียงสี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ช่องของแม่เขาจะได้บทประพันธ์เรื่อง ‘พ่ายกลซาตาน’ มาร่วมเข้าประชุม เพื่อขอดูตัวนักแสดงและรับฟังแนวทางของผู้กำกับ ‘...เช้าตรู่...ณ ห้องชุดคอนโด ชั้นที่25 ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร’ กอหญ้า ดาร์เมี่ยน ที่ลืมตาเปิดรับแสงรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ เธอค่อยๆลุกจากนอนมานั่งพร้อมบิดกายเล็กน้อย วันนี้เธอต้องไปประชุมกับทีมงานของสถานีชื่อดังเพื่อดูตัวนักแสดงของทีมงานที่ต้องการนำบทประพันธ์เรื่อง ‘พ่ายกลซาตาน’ งานเขียนเรื่องแรกของเธอนำไปทำเป็นละคร ทั้งๆที่ช่วงนี้เธอไม่ค่อยอยากจะไปไหนเลย เพราะอีกสามวันข้างหน้าเป็นช่วงสอบปลายภาคของภาคเรียนสุดท้ายของเธอ แต่เธอจะให้เหตุผลแบบนี้กับสถานีไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้จักตัวจริงของเธอ ว่าเจ้าของบทประพันธ์ ‘พ่ายกลซาตาน’  เป็นเพียงนักศึกษาปีสี่ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย  กอหญ้า เดินเข้าห้องน้ำหลังจากที่เก็บเตียงเรียบร้อย และอีกสามสิบนาทีต่อมาเธอก็ออกมาโดยการสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ และแน่นอนเธอจะต้องเสียเวลาจัดการตัวเองอีกหนึ่งชั่วโมง  กอหญ้าหยิบคอนเทคเลนส์สีดำขึ้นมาเพื่อปิดบังดวงตาที่แท้จริงของเธอที่เป็นสีน้ำตาล และต่อด้วยการจัดการทรงผมที่ยาวให้หยิกเป็นลอน เธอแต่งแต้มแก้มใสเนียนให้มีกระ บ้างเล็กน้อย ส่วนปากได้รูปเธอใช้ลิปกลอสแต่งแต้มเพียงเล็กน้อย และเดินไปยังตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อเชิ้ตลายสก็อตมาสวมทับเสื้อกล้ามด้านในตามลำดับ และชิ้นสุดท้ายกระโปรงยีนส์ที่ยาวจนถึงตาตุ่มเพื่อปิดบังเรียวขายาวสวยงามของเธอตามสัญชาติลูกเสี้ยวไทย-อิตาเลี่ยน และก่อนออกจากห้องนอนเธอไม่ลืมที่หยิบแว่นตากรอบดำอันใหญ่พร้อมกับกระเป๋าสะพายใบเล็กที่ย้ายของจำเป็นที่ต้องใช้ยัดใส่ไว้ข้างใน  กอหญ้าเดินมายังโซนครัวขนาดพอเหมาะ เธอหยิบโจ๊กในช่องฟรีสในตู้เย็นที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ย้ายไปใส่ในไมโครเวฟ... “ปี๊ด  ปี๊ด...” เสียงเตือนของไมโครเวฟ เมื่อโจ๊กพร้อมทาน กอหญ้าผละออกจากเก้าอี้ตัวสูงหน้าท๊อป ที่ตอนนี้มีน้ำส้มที่เหลือครึ่งแก้วกับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว “…อันโต...หญ้าคิดถึงอันโตจัง!...” กอหญ้าพึมพำออกมา เมื่อมือเล็กกำลังคนโจ๊กไปมาอย่างเบื่อๆ เพราะเธอต้องฝากท้องกับอาหารพวกนี้เป็นประจำ หากเธอไม่ได้ออกไปกินนอกบ้านกับเพื่อนๆ ของเธอ Grrrrr Grrrr กอหญ้าขมวดคิ้ว เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพาย และเมื่อเธอหยิบออกมาก็ไม่เกินคาดที่เธอคิดไว้  “กิ๊ก!...” “หญ้า...แกไปคนเดียวได้จริงๆนะ...” เสียงปลายสาย เอ่ยออกมาทันที โดยไม่ต้องมีการทักทายอย่างมีพิธีรีตอง “เออ...ไปได้ กิ๊กไม่ต้องห่วง นอนพักรักษาตัวให้หายเร็วๆ อีกสามวันก็เป็นวันสอบแล้วนะ...ไปนอน กินยา และอาหารที่เป็นประโยชน์ ซะ...” กอหญ้าตอบกลับเพื่อนสาวที่สนิทที่สุด กิ๊ก โสภิตา ที่เป็นหนึ่งในสามคนที่รู้ว่าตัวจริงของนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ‘กอหญ้า’ ซึ่งวันนี้เพื่อนสาวคนนี้จะต้องไปกับเธอในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของเธอ แต่กิ๊ก ป่วยเป็นไข้หวัด  “คุณกอหญ้า...” กอหญ้าหันไปตามเสียงเรียก เมื่อเธอเดินออกจากลิฟท์ที่มาจอดชั้นจอดรถ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD