ตอนที่ 1.

1470 Words
  ด้านหน้าปากซอยแห่งหนึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดสดขนาดใหญ่ มีแผงขายสินค้ามากกว่าสองร้อยแผง และรอบๆ มีอาคารห้องแถวให้เช่ามีผู้เช่าเต็มทุกห้อง เจ้าของตลาดและห้องแถวในย่านนี้มีคฤหาสน์หลังงามอยู่ท้ายซอย “ป้าครับ รู้จักบ้านคุณนายแพรพรรณกับคุณสมเกียรติไหมครับ” รถกระบะคันหนึ่งแล่นมาจอด แล้วเปิดกระจกฝั่งคนขับหยุดถามแม่ค้าขายกล้วยทอดหน้าทางเข้าตลาด “ขี่รถไปจนสุดซอยนู้นเลยค่ะ บ้านหลังใหญ่ๆ ตรงนั้นแหละ บ้านคุณแพรพรรณกับคุณสมเกียรติ” “ขอบคุณครับป้า ออ ผมขอกล้วยทอดกับมันทอดร้อยนึงครับ” คำขอบคุณมาพร้อมกับธนบัตรสีแดงถูกส่งให้แม่ค้า เมื่อได้รับถุงกล้วยทอดรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่คันนั้น ก็แล่นเข้าไปในซอยตามทางที่แม่ค้าบอก แล้วไปจอดอยู่ข้างรั้วบ้านไม่ไกลจากประตูทางเข้า รถจอดนิ่งอยู่แบบนั้นนานร่วมสิบนาที ก็เห็นประตูบ้านเปิดออก รถยนต์หรูสีดำคันหนึ่งแล่นออกมาจากด้านในจอดรออยู่หน้าบ้าน ใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเคราของคนมอง ปรากฏรอยเหยียดบนมุมปากเล็กน้อยก่อนจะคลายลง ดวงตาคมกริบใต้เรียวคิ้วดกหนาจ้องมองอย่างตั้งใจ ครู่ต่อมาร่างระหงของหญิงสาวคนหนึ่ง ในชุดกระโปรงยาวสีขาวก็ออกมาจากด้านใน พร้อมกับหญิงวัยกลางคนเดินตามมาด้วย ทั้งสองหยุดพูดคุยอะไรกันหน้าบ้านครู่หนึ่ง ก่อนที่หญิงสาวคนนั้นจะขึ้นรถที่จอดรออยู่ออกไป คนซุ่มมองรีบขยับลงจากรถเดินตรงมาหาคนที่กำลังจะปิดประตูบ้าน “ป้าครับ ขอถามอะไรหน่อยครับ” คนพูดมองสภาพของชายหนุ่ม ที่สวมเสื้อเชิ้ตเก่ากับกางเกงยีนส์สีซีด ด้วยสายตาระแวง ท่าทางอีกฝ่ายดูไม่น่าไว้ใจ “ที่นี่ บ้านคุณนายแพรพรรณกับคุณสมเกียรติใช่ไหมครับ” “ใช่ ที่นี่ไม่ซื้อของเร่ขายหรอกนะ” แกโบกมือปฏิเสธเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายมาขายของ ผลักประตูรั้วปิดเตรียมหันหลังกลับเข้าไปในตัวบ้าน แต่ชายหนุ่มเรียกไว้อีกครั้ง “เดี๋ยวก่อนสิป้า ผมไม่ได้มาขายของ ผมมาสมัครงานครับ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ออ ที่นี่คนงานเต็มแล้ว ไม่รับเพิ่มหรอกจ้าพ่อหนุ่ม” “ผมได้ยินคนที่ตลาดบอกว่า ถ้าอยากได้งานให้มาลองสมัครดู” เขายังไม่ละความพยายาม “ที่นี่คนงานเต็มแล้วจริงๆ ไปหางานที่อื่นเถอะ แถวอู่รถหน้าปากซอยเหมือนติดป้ายรับสมัครคนงาน ลองไปถามดูสิ บอกว่าป้าแววแนะนำมาก็ได้” ท่าทางหวาดระแวงคลายลง เมื่อเห็นท่าทีซื่อๆ ของของฝ่ายตรงข้าม นางแววแม้บ้านของที่นี่ จึงแนะนำด้วยความหวังดี “น่าเสียดาย ผมอยากทำงานที่บ้านใหญ่ๆ แบบนี้ คงอยู่สุขสบายดี” คำพูดนั้นทำให้คนฟังยิ้มขำในความซื่อ “เป็นคนใช้เขาจะสบาย ได้ยังไง แม้แต่หลานในไส้คุณนายแกยังเรียกใช้ หัวไม่วางหางไม่เว้น” ในสายตาคนภายนอกอาจคิดว่าการได้ทำงานในคฤหาสน์หลังใหญ่สบาย แต่ความจริงแล้วคนงานที่นี่มีน้อยมากเพียงสามคนเท่านั้น ประกอบด้วยตัวนางเองที่มีหน้าที่เป็นแม่บ้าน นายมั่นสามีของนางทำหน้าที่เป็นคนขับรถและควบตำแหน่งคนสวน และมีเด็กชาวเขาชื่ออาหมี่คอยช่วยทำความสะอาดในบ้าน รวมถึงหลานสาวของเจ้าบ้านที่โดนใช้งานราวกับคนรับใช้อีกคน พอเรียนจบมัธยมก็ไม่ยอมให้เรียนต่อบอกว่าสิ้นเปลือง แต่ลูกสาวตัวเองกลับส่งให้เรียนมหาวิทยาลัยเอกชน คิดแล้วน่าเวทนานัก “เห็นว่าคุณนายแพรพรรณแกมีลูกสาวสวย ผมอยากเห็นเป็นบุญตา” คนพูดชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน “ก็เพิ่งออกไปเมื่อกี้ไม่เห็นหรือไง หน้าอย่างเอ็งได้แค่มองไฟท้ายรถก็บุญหัวแล้ว อย่าคิดไปหมายปองดอกฟ้าเลย เพราะคุณหนูของฉัน เธอกำลังจะแต่งงานกับเศรษฐี  นี่เดือนหน้าก็จัดงานแล้ว เห็นว่าเจ้าบ่าวเตรียมงานใหญ่โต” นางแววพูดข่มเกทับเจ้าหมาข้างถนนให้เลิกฝันกลางวัน เมื่อครู่คุณหนูของนางกำลังจะออกไปข้างนอก จึงเรียกนายมั่นคนขับรถไปส่ง นางเลยขอให้พาคุณมัสลินไปส่งที่หน้าปากซอยด้วย ไม่อยากให้เดินตากแดดร้อนๆ ออกไปเก็บค่าเช่าให้คุณนาย “อ้อ คนเมื่อกี้ในรถ” เขาพยักหน้าทำท่านึกออก “ฉันจะเข้าบ้านแล้ว จะไปไหนก็ไปเถอะ” พูดจบนางแววก็พาร่างค่อนข้างท้วมของตนเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน ปล่อยให้ชายหนุ่มคนนั้นมองอยู่นอกรั้ว โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูภาพที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อครู่ “นี่สินะลูกสาวนายสมเกียรติ นางแพรพรรณ หึ สวยน่ารักขนาดนี้ ช่างเลือกไม่เบานี่ ไอ้ภานุ” ร่างสูงใหญ่หมุนกายเดินออกมาจากหน้าประตูรั้ว เดินกลับมานั่งบนรถกระบะก่อนจะสตาร์ทเครื่องขับออกมา เมื่อบรรลุเป้าหมายในการสืบดูประวัติของว่าที่เจ้าสาวของภานุ อัศวนาวิน ใบหน้าคร้ามคมรกเรื้อด้วยหนวดเคราหนา มีรอยยิ้มหยันเมื่อปรายตามองหญิงสาวในรูป “ไอ้ภานุ เกมของเรากำลังจะเริ่มต้น ฉันไม่ปล่อยให้แกมีความสุขหรอก” /// รถยนต์หรูคันงามแล่นมาจอดหน้าปากซอย ประตูด้านข้างคนขับเปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวก้าวลงมา ไม่ทันจะเดินออกไปกระจกรถตรงที่นั่งด้านหลังก็เปิดออก “ยายมัส ฝากซื้อพายมะพร้าว เอามาสองกล่องนะ แช่ตู้เย็นไว้ให้ด้วยเดี๋ยวเย็นนี้จะกลับมากิน” ธนบัตรสีเทาถูกยื่นส่งให้ “ค่ะ พี่ป่าน” มัสลินยื่นมือไปรับธนบัตรของพี่สาวมาเก็บไว้ ลินินปรายตามองไปยังตึกแถวข้างตลาดนิดหนึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูร้านขายขนมออกมาก็รีบกดปิดกระจกรถ แล้วสั่งให้คนรถขับออกไปทันที “สงสัยวันนี้ฝนจะตก ยายคุณหนูป่านยอมให้นั่งรถมาด้วย” “พอดีพี่ป่านมีธุระ เลยให้มัสติดรถมาด้วย พี่ปอนด์อย่าไปแขวะพี่ป่านเลยค่ะ เดี๋ยวพี่ป่านรู้เข้าจะพาลเกลียดขี้หน้าพี่ปอนด์มากกว่าเดิม” มัสลินรีบบอกเกรงว่าปรัชญ์จะเหน็บแนมพี่สาวเธอมากกว่านี้ เขากับลินินเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เรียนมัธยม ปรัชย์อายุมากกว่าลินินสามปีแก่กว่ามัสลินห้าปี เขาย้ายมาเรียนโรงเรียนเดียวกับเธอและพี่สาว เขาย้ายมาพร้อมกับมารดามาเช่าตึกแถวเปิดร้านขายขนมที่ตลาดทรัพย์เจริญแห่งนี้ เปรมใจแม่ของปรัชญ์เป็นลูกศิษย์เก่าของคุณยายของมัสลิน จึงมักพาลูกชายแวะไปหาท่านที่บ้านบ่อยๆ พลอยให้เด็กทั้งสองสนิทสนมกัน “ช่างสิ ใครจะสน มาเข้ามาก่อน ข้างนอกร้อนจะตาย เดี๋ยวแดดเผาดำหมด” ปรัชญ์เปิดประตูร้านให้หญิงสาวเดินเข้าไปด้านใน กลิ่นหอมของขนมปังลอยฟุ้งชวนน้ำลายสอทันทีที่เข้ามา ทำเอาคนได้กลิ่นท้องร้องเสียงดัง “หิวใช่ไหม มานั่งตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่เอาอะไรมาให้กิน” ลูกชายเจ้าของร้านได้ยินเสียงท้องร้องก็จูงมือมัสลินมานั่งที่เก้าอี้ แล้วเดินหายเข้าไปด้านใน ก่อนจะกลับมาพร้อมข้าวผัดและน้ำหวานมาวางตรงหน้า “ข้าวผัดไส้กรอกของชอบของมัสไง แม่พี่ทำไว้ให้ นี่น้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ จะได้สดชื่น” “ขอบคุณค่ะ น่ากินมากเลย มัสกินก่อนนะคะ” มัสลินเอ่ยขอบคุณแล้วลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ตั้งแต่เช้าเธอได้กินข้าวต้มไปชามเดียว หลังจากป้อนข้าวป้อนยาให้คุณยายที่นอนป่วยอยู่ ก็ต้องมาช่วยเด็กอาหมี่ทำความสะอาดบ้าน กว่างานจะเสร็จก็บ่ายคล้อย ไม่ทันจะได้กินอะไรคุณป้าแพรก็ใช้ให้มาเก็บค่าเช่า โชคยังดีที่นางแววฝากเธอติดรถของพี่สาวออกมาด้วย หากปั่นจักรยานออกมาเหมือนทุกครั้งคงลำบากกว่านี้ “พี่สงสารมัสเหลือเกิน ทำไมต้องทนให้เขาใช้งานราวกับทาสแบบนั้น มัสเรียนจบมีวุฒิปริญญาน่าจะหางานทำแล้วย้ายออกมาอยู่ข้างนอก” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD