ตอนที่ 3 หนูอยากเป็นน้องไม่แท้ของพี่ชายจะได้ไหม

1309 Words
ไป๋เยว่ชิงจ้องเข้าไปในดวงตาของบิดาตนเองอย่างจริงจังก่อนที่จะกล่าวประโยคต่อไป "ท่านพ่อคิดว่าบุรุษเช่นองค์ชายสามจะทำให้ลูกมีความสุขได้จริงๆ เช่นนั้นหรือ หลังจากที่ลูกได้ล้มป่วยลงในคลานั้น ก็ทำให้ลูกฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าแท้ที่จริงแล้วลูกต้องการสิ่งใด และบุรุษประเภทใดกันแน่ที่ลูกต้องการ แต่ในตอนนี้นั้นความรู้สึกของลูกยังไม่อาจตัดใจจากองค์ชายสามได้ ลูกจึงต้องการจะเดินทางไปสงบจิตใจและคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อให้จิตใจของลูกได้เข้มแข็งขึ้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง หนทางมันอาจจะไกลสักหน่อย แต่ลูกคิดว่าการไปในครั้งนี้จะทำให้ลูกเติบโตขึ้นเจ้าค่ะ " "แล้วลูกคิดว่าจะไปนานแค่ไหนเล่า" "ลูกก็ยังตอบไม่ได้เจ้าค่ะ เมื่อจิตใจลูกเข้มแข็งดีแล้ว เมื่อนั้นลูกก็จะกลับมา" "เฮ้อ ถึงอย่างไรพ่อคงจะห้ามเจ้ามิได้ใช่หรือไม่" เขาทำได้แค่เพียงจ้องเข้าไปใน ดวงตาของบุตรสาว ที่ในตอนนี้มีความแน่วแน่เพียงใด "แค่เพียงท่านพ่อยอมออกหน้าเอ่ยปากกับท่านแม่ เรื่องนี้ให้ลูกก็พอใจแล้วเจ้าค่ะ" "เฮ้อ! เดี๋ยวพ่อจะให้องครักษ์และเหล่าทหารติดตามเจ้าไปมากหน่อยก็แล้วกัน เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการเดินทางของตัวเจ้าเองด้วย" 'สำเร็จ! ' "ขอบคุณท่านพ่อมากเจ้าค่ะลูกรักท่านพ่อที่สุดเลย" พร้อมกับโผเข้าไปก่อนบิดาอย่างรักใคร่ด้วยความดีอกดีใจ "ท่านพี่ ท่านจะตามใจนางมากเกินไปหรือไม่ สตรีเดินทางไกลถึงเพียงนั้น จะไม่เป็นอันใดแน่หรือ น้องล่ะอดห่วงลูกไม่ได้จริงๆ " "เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย ถึงอย่างไรที่นั่นก็มีไป๋เลี่ยงซูบุตรชายคนโตของเรา ที่ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพประจำการอยู่ที่นั่น พี่ได้ส่งข่าวไปบอกแก่ลูกแล้ว" "ข้าว่าบุตรสาวของท่านไม่ได้ต้องการที่จะไปสงบจิตใจอย่างที่นางกล่าวหรอก นางแค่เพียงต้องการที่จะไปพบพี่ชายของนาง และออกเที่ยวก็เท่านั้นเอง ท่านทำอย่างกับมิรู้จักนิสัยของบุตรีของตนเองเสียอย่างนั้น ท่านก็รู้ว่าดินแดนทางใต้ เป็นแหล่งรวมของชาวยุทธในยุทธภพ ข้าว่าการไปในครั้งนี้เกิดจากวัตถุประสงค์อื่นเสียมากกว่า" "ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่ก็คิดเช่นนั้น แต่หากว่าการไปในครั้งนี้จะทำให้ลูกเติบโตขึ้น พี่ก็คิดว่ามันก็คุ้มค่าแล้ว เจ้ามิคิดเช่นนั้นหรือ" สองสามีภรรยาได้แต่มองหน้ากันอย่างเข้าใจ และแล้วก็ถึงวันที่ไป๋เยว่ชิงจะต้องออกเดินทาง ก่อนจะออกเดินทางนางยังไม่ลืมที่จะให้คนของตน ไปกระพรือข่าวว่าตนเองนั้นเสียใจเป็นอย่างมากที่โดนคู่หมั้นและพี่สาวต่างมารดาร่วมมือกันหักหลัง ถึงขั้นต้องไปสงบจิตใจที่วัดฮุ่ยเหอ ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก ณ ดินแดนทางใต้ เพื่อรักษาอาการป่วยไข้ทางใจของตน ซึ่งเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพระสนมกุ้ยเฟย ซึ่งเป็นพระมารดาขององค์ชายสามเป็นอย่างมาก ที่บุตรชายของตน หันไปพึงใจกับสตรีไร้ค่าเช่นคุณหนูใหญ่ไป๋ฟางเซียน ที่มีมารดาเป็นเพียงบ่าวรับใช้ในเรือนเพียงเท่านั้น แตกต่างกันกับคู่หมั้น ที่เป็นถึงบุตรีที่เกิดจากฮูหยินเอก ที่สามารถใช้เป็นฐานอำนาจในการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทของตนได้นั่นเอง 'กลับมาเดี๋ยวหนูจะจัดชุดใหญ่ให้กว่านี้อีกนะ แค่นี้นะเขาเรียกว่าเรียกน้ำย่อยค่ะแม่ รอหนูกลับมานะคุณคู่หมั้นสุดที่รัก...' เมื่อคุณหนูรองไป๋เยว่ชิงมองกลับไปยังเส้นทางที่ตนพึ่งได้จากมา ก็ให้นึกไปถึงเจ้าคู่หมั้นหน้าปลาดุกนั่นเสียมิได้ การเดินทางไปดินแดนทางใต้ของไป๋เยว่ชิงในครั้งนี้ ถือว่าราบรื่นเป็นอย่างมาก เพราะได้รับการอำนวยความสะดวกจากหัวเมืองต่างๆ ที่บิดาของนางได้ส่งสารล่วงหน้า ไม่ว่านางจะแวะเข้าไปพักที่เมืองใด ก็จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ด้วยฐานะของบุตรีคนโปรดของเสนาบดีไป๋ซือเฉิง ท่านเจ้าเมืองตามหัวเมืองต่างๆ จึงให้ความเคารพยำเกรงเธอเป็นอย่างมาก การเดินทางในครั้งนี้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางร่วมหนึ่งเดือนเศษ เพราะตลอดระยะเวลาการเดินทางไป๋เยว่ชิง มักจะแวะยังสถานที่สำคัญตามหัวเมืองนั้นๆ จึงทำให้การเดินทางอาจจะล่าช้าไปกว่ากำหนดเดิมไปบ้าง เมืองหนานเปียน ตั้งอยู่ในอาณาเขตของดินแดนทางใต้ที่มีภูมิประเทศติดกับทะเล และยังมีอาณาเขต ส่วนหนึ่งติดกับแคว้นเจียงหนาน เป็นเมืองที่ถือว่าสงบเมืองหนึ่ง มิเคยเกิดสงครามอย่างเช่นหัวเมืองต่างๆ ที่มีอาณาเขตติดกับต่างแคว้น สาเหตุหลักที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องด้วยว่า เมืองนี้เป็นแหล่งรวมของผู้มากฝีมือจากทั่วทั้งยุทธภพจึงทำให้เป็นที่หวาดเกรงในความมากฝีมือนี้ ประชาชนที่อยู่ติดกับชายแดนทั้งสองแคว้นจึงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเรื่อยมา "ลี่จู เจ้าแน่ใจหรือว่าเมืองนี้เป็นแหล่งรวมของชาวยุทธอย่างเดียว แต่ข้าคิดต่างไปจากนั้น" "หือ ต่างอย่างไรหรือเจ้าคะ" "เจ้าก็ดูรอบๆ นี้สิ ข้าว่ามันคือแหล่งรวมของบุรุษรูปงามโดยเฉพาะล่ะไม่ว่า" 'อร๊ายคะแม่! คมเข้ม หล่อล่ำบึก ดูกล้ามแต่ละคนสิค่ะแม่ หนูนี่อยากเข้าไปสัมผัสดูเสียจริงว่ามันจะแน่นขนาดไหน รีบโตค่ะหนูฟ้าใส ทำไมต้องมาเกิดในร่างเด็กด้วยเนี่ย โอ๊ยอยากกินผู้ค่ะ รอหนูนะคะทุกคน หนูสัญญาว่าหนูจะรีบโตแล้วมาจัดพวกพี่ให้ครบทุกคนเลย คิดแล้วใจสั่นค่ะแม่' "คุณหนูเช็ดน้ำลายของท่านด้วยเจ้าค่ะ เดี๋ยวผู้อื่นมาเห็นเข้า จะเข้าใจว่าท่านเป็นสตรีวิกลจริตเอาได้" โธ่ คุณหนูช่วยเก็บอาการด้วย ไยท่านถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนเช่นนี้ได้ล่ะเจ้าคะ สาวใช้คนสนิทอย่างลี่จู ได้แต่โอดครวญในใจถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเจ้านายของตน ในขณะที่ไป๋เยว่ชิงกำลังตาลาย ด้วยความหล่อของบุรุษเพศนั้น ก็มีบุรุษผู้หนึ่งตรงดิ่งเข้ามากอดนางเอาไว้แน่น จนนางไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน "พี่ชายใหญ่ เป็นท่านจริงๆ ด้วย มิเจอกันแค่เพียงห้าปี ไยท่านถึงได้เปลี่ยนไปมากเช่นนี้เล่า ดูดีขึ้นผิดหูผิดตาเสียจนน้องจำแทบจะไม่ได้เลย" เมื่อได้เห็นว่าบุรุษที่เข้ามาสวมกอดตนนั้นเป็นผู้ใด ไป๋เยว่ชิงก็ให้ดีใจยิ่งนัก หลังจากที่พี่ชายใหญ่ของเธอที่อายุได้ 22 หนาว มาประจำการอยู่ที่นี่ รั้งตำแหน่งรองแม่ทัพ ควบคุมอาณาเขตทางทิศใต้ นี่ก็ล่วงเข้ามาได้ 5 ปีแล้ว ที่ไป๋เยว่ชิงผู้เป็นเจ้าของร่างเดิมมิได้เจอพี่ชายของตนเองเลย ไป๋เลี่ยงซู ถือว่าเป็นบุรุษที่รูปงามหล่อเหลาผู้หนึ่ง ดวงตาสีอำพันดูแปลกตา คิ้วดกดำรูปกระบี่ จมูกรับกับใบหน้าคมเข้มนั้น องคาพยัพทั้งห้าโดยรวมแล้วคือบุรุษที่สตรีต้องหันหลังมองเมื่อเดินผ่าน 'แม่ค่ะนี่มันผู้ในฝันหนูเลยค่ะ หนูไม่อยากเป็นน้องสาวแท้ๆ ได้ไหม แต่หนูอยากเป็นน้องไม่แท้ที่หน้าท้องชนกันได้ไหมคะแม่ หนูอยากได้อ่ะค่า'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD