บทที่ 1 เนเน่ เนตรนภา

2844 Words
หญิงสาวถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ทุก ๆ ครั้งที่มหาวิทยาลัยมีโครงงานศึกษาดูงาน เนเน่จะเป็นตัวเลือกคนแรกที่ถูกอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกเข้าพบ แม้เธอจะไม่ต้องการก็ตาม ลำพังแค่ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยจนขึ้นปีสองคนเดียวก็ยากแล้ว เพื่อนในสาขาที่เรียนด้วยกันยังเหมือนจะไม่ชอบเธออีก เธอจึงชอบตัดปัญหาโดยการไม่สุงสิงกับใคร “นะ เนตรนภา เธอก็รู้ว่ายังไงถ้าไม่อ้างอิงตามคะแนนของรายวิชา เธอก็ผ่านไปได้อยู่แล้ว” เนตรนภาคือชื่อจริงของเนเน่ เธอเรียกว่าเป็นตัวท็อปอันดับต้น ๆ ของสาขาเลยก็ว่าได้ อีกอย่างก็เป็นเด็กกิจกรรมที่เข้าร่วมไม่เคยขาดจนเป็นที่เอ็นดูของเหล่าอาจารย์ ครั้งนี้มหาวิทยาลัยสามารถพานิสิตไปศึกษางานเกี่ยวกับอดีตและยุคสมัยได้ถึงสิบคน ที่ไม่รวมกับอาจารย์ที่ปรึกษาของรายวิชาและอาจารย์อีกสองท่าน อาจารย์กมลนิลจึงเรียกเธอเข้ามาพูดคุย “อีกตั้งหลายวันจะมีการทำงานกลุ่มน่าจะเป็นงานสุดท้ายที่ตัดสินหรือเปล่าคะ? หนูขอกลับไปถามครอบครัวก่อนเพราะประเทศจีนต้องเดินทางไกล ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก หนูกลัวว่าที่บ้านจะไม่อนุญาตค่ะ” “ได้ ๆ” เพราะสามารถพาไปได้หลายคนเหล่าอาจารย์จึงปรึกษากันว่าคะแนนเก็บใครเยอะสุดคนนั้นจะได้ไป แต่ถ้าไม่ต้องการที่จะไปก็สละสิทธิ์ให้คนอื่นได้ ถึงต้องนับคะแนนเก็บแต่เนเน่ก็เป็นตัวเลือกที่เหล่าอาจารย์จะพาไปต่อให้คะแนนน้อย ครอบครัวของเนเน่มีเชื้อสายคนจีนที่รักลูกชายมากกว่าลูกสาว และเนเน่ก็เกือบจะไม่ได้ต่อในระดับมหาวิทยาลัยเหมือนกัน หากไม่ใช่เพราะพี่ชายกับน้องชายต่อรองกับอาป๊าและหม่าม้าให้ ครอบครัวของเธอมีร้านอาหารที่ไม่ใหญ่แต่ก็ไม่ได้เล็ก เพราะอาป๊ากับหม่าม้าสามารถทำงานส่งเฮียนราเรียนจบถึงปริญญาโท ตอนนี้กำลังหาเงินต่อปริญญาเอกเอง น้องชายคนเล็กก็ขึ้นปีหนึ่งในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอ และส่งเธอเรียนในระดับปริญญาตรี นอกจากค่าเทอมแล้วยังต้องให้เธอใช้ต่อเดือนอีก เดือนละเป็นหมื่น แต่ถึงท่านทั้งสองจะรักลูกชายมากกว่าลูกสาวอย่างที่หลาย ๆ บ้านเป็น แต่ทั้งสองก็ไม่ได้บังคับเนเน่เรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ อยากเรียนก็เรียนไปแต่ถ้าเรียนจบปริญญาตรีก็คงไม่ส่งเรียนต่อแล้ว “ม้าคะ หนูกลับมาแล้วค่ะ” เนเน่ส่งเสียงบอกหม่าม้าที่นั่งเล่นอยู่กลางบ้าน หม่าม้าของเธออายุจะหกสิบแล้วเลยหยุดทำงานในร้าน ให้ลูกจ้างทำงานแทน ส่วนอาป๊าก็อายุเท่ากันแต่ชอบไปนั่งดูร้าน “กลับมาแล้วรึอาเนเน่ ตี๋เล็กล่ะ กลับมาพร้อมลื้อหรือเปล่า” หญิงสาวถอนหายใจออกมา ที่บ้านก็แบบนี้แหละ ถ้าเฮียนราอยู่บ้านไม่ออกไปอยู่คอนโด หม่าม้าก็จะถามหาเฮียกับตี๋เล็ก “ไม่ค่ะม้า ตี๋เล็กคงอยู่กับเพื่อน” “เหรอ” “งั้นเน่เอาของขึ้นไปเก็บก่อนนะคะ” “อือ” มหาวิทยาลัยกับบ้านห่างกันเป็นสิบ ๆ กิโลเมตร สมัยที่เฮียนรายังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยก็เรียนที่เดียวกับเธอ และอาป๊ากับหม่าม้าก็เช่าคอนโดให้อยู่ใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย โดยให้เหตุผลว่าจะได้ไปเรียนสะดวก ตี๋เล็กก็เหมือนกัน ยกเว้นเธอที่ต้องไปกลับระหว่างบ้านและมหาวิทยาลัย ทั้งที่ได้เงินเดือนน้อยกว่าพี่ชายกับน้องชายเกือบเท่าตัว “เอาละ นิสิตสามารถเดินดูได้แต่อย่าไปไกลมาก อาจารย์ขอคุยกับคนดูแลที่นี่ก่อน ไม่ก็ขึ้นไปรอบนรถ” อาจารย์กมลนิลเอ่ยบอกหลังพากันเดินดูภายในหมู่บ้านเก่าแก่ อาจารย์กมลนิลกลัวว่าเธอจะไม่ได้มาด้วยเลยติดต่อไปหาอาป๊าว่าต้องการที่จะพาเธอไป อาป๊าก็เลยอนุญาต แต่ถึงจะไม่ติดต่อมาหาเนเน่ก็มีสิทธิ์ที่จะไปอยู่แล้ว เพราะเธอมีคะแนนรวมติดท็อปหนึ่งในสามของสาขา นี่เป็นวันที่สองที่เธอได้เข้ามาศึกษาที่นี่ เนเน่รู้สึกได้ว่าเธอชอบที่นี่มาก ภายในหมู่บ้านเป็นหมู่บ้านร้างไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่ถูกดูแลทำความสะอาดทุกเดือน เป็นหนึ่งในที่สถานที่ที่หลายมหาวิทยาลัยเลือกเป็นโครงงานศึกษางาน ถึงเพื่อนร่วมสาขาจะมีท่าทีว่าไม่ชอบเธอแต่เนเน่ก็ทำอะไรไม่ได้ ใครใช้ให้เธอมีคะแนนเก็บที่มากกว่าคนอื่นล่ะ กว่าจะพยายามได้ขนาดนี้ไม่ใช่ง่ายเลย ตอนนี้มันใกล้มืดแล้วพรุ่งนี้เช้าพวกเธอก็ต้องกลับไปยังมหาวิทยาลัย และไม่ใช่ว่ามาศึกษางานเปล่า ๆ ใครที่มาในครั้งนี้ต้องเขียนรายงาน และบอกเล่ารายละเอียดของที่นี่ส่งให้อาจารย์ประจำคณะ ใครที่อธิบายให้เข้าใจได้ง่ายก็มีโอกาสได้ไปศึกษางานหน้า “เนเน่” เสียงเรียกชื่อของเธอทำให้เนเน่ต้องหันไปมอง เป็นกลุ่มหญิงสาวที่สวยที่สุดในสาขาของพวกเธอ และกลุ่มนี้มีทั้งหมดสี่คน แต่มาโครงงานนี้แค่สามคนเพราะอีกคนคะแนนไม่ถึง “ทอแสงมีอะไรหรือเปล่า” ทอแสง แพรฝัน วาดหวาน และน้ำตาลเป็นกลุ่มนักศึกษาสาวที่มีหลายคนพูดถึง และเป็นกลุ่มหญิงสาวที่ติดท็อปความสวยของมหาวิทยาลัย เธอก็ไม่ค่อยได้คุยกับคนในกลุ่มนี้เท่าไร หรือบางทีเรียกได้ว่าไม่เคยคุยก็ว่าได้ “เธอรู้จักฉันด้วย?” ทอแสงชี้นิ้วใส่ตัวเองพร้อมตั้งคำถาม “อืม” เนเน่พยักหน้า ก็คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนดังนี่ เธอจะไม่รู้จักก็ไม่แปลก อีกอย่างในสาขาของเธอก็มีไม่ถึงสามสิบคนด้วยซ้ำ “อ๋อ พอดีอาจารย์ออดี้มีเรื่องจะคุยกับเธอ เราเลยอาสามาบอกให้ อาจารย์รออยู่ท้ายหมู่บ้านนะ” “เหรอ แต่อาจารย์บอกว่าไม่ให้ไปไกลนี่” เนเน่ลังเล เธอไม่เห็นอาจารย์ออดี้อยู่บริเวณนี้มาสักพักแล้ว แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะไปหาเพราะอาจารย์ให้รออยู่ตรงนี้ “ไม่เชื่อเหรอ? ให้เราพาไปก็ได้นะ” “ได้สิ” เนเน่เดินตามหลังเพื่อนร่วมสาขาโดยที่ไม่เอะใจเลยว่าไม่มีแพรฝันกับวาดหวานที่ตัวติดกับทอแสงไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ทั้งสามเดินมาด้วยกัน เธอรู้แค่ว่าอาจารย์เรียกก็เท่านั้น “กรี๊ดดดดด” เสียงหัวเราะด้านนอกทำให้เนเน่สับสน เธอเรียกให้ทอแสงช่วยแต่กลับไม่ช่วยเธอ เมื่อกี้เธอหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านเก่าหลังหนึ่งแล้วอยู่ ๆ ก็เหมือนกับมีคนผลักเข้ามา ปัง! ปัง! “ช่วยด้วย!” แม้จะเป็นบ้านที่เก่าแก่แต่ไม่รู้ว่าทำไมประตูบ้านถึงแข็งมากขนาดนี้ ทั้งที่มันควรจะพังลงเพราะเธอเขย่ามัน เนเน่น้ำตาไหลนองใบหน้า เธอเป็นคนที่กลัวความมืดมาก ข้างนอกก็เริ่มจะมืดแล้ว แต่ที่นี่มันห่างจากที่เธอมาไกลพอสมควร ภาวนาให้มีคนมาช่วยก่อนที่จะมืด เฮือก! “ฮ่า ฮ่า” ทอแสงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี พอถึงห้องพัก ทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมสาขา หรือแม้แต่อาจารย์ก็ไม่เอะใจถามหายัยเฉิ่มนั่น “โง่มากอะ” วาดหวานพูดเสริม เหตุการณ์ก่อนหน้าก็เป็นเธอนั่นแหละที่ผลักยัยเฉิ่มนั่นเข้าบ้านร้างไป ช่วยไม่ได้ที่ใครให้หล่อนมีคะแนนที่สูงจนทำให้เพื่อนอีกคนของเธอไม่ได้มาด้วยกันล่ะ “จริง เป็นลูกรักอาจารย์ แต่โง่มาก ฮ่า ฮ่า” แพรฝันหัวเราะตาม อุตส่าห์นัดกันไว้แล้วว่าจะไปเดินชอปปิงกันที่นี่ แต่ยัยโง่นี่กลับทำให้น้ำตาลเพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนของพวกเธอมาด้วยไม่ได้ “แต่มันจะไม่มีปัญหาแน่นะ” แพรฝันกังวล เธอกับกลุ่มเพื่อนก็แค่ต้องการแกล้งยัยเฉิ่มที่ทำให้เพื่อนของเธออีกคนไม่ได้มาด้วย พรุ่งนี้อาจารย์ก็คงจะเอะใจกลับไปถามหา “ไม่มีหรอก ถ้ามันบอกว่าเราแกล้ง ใครจะไปเชื่ออะ คนก็ไม่มี ไม่มีใครเห็น อีกอย่างในมหาลัยเราก็ไม่เคยไปคุยกับมัน” ทอแสงไม่มีความกังวลใด ๆ “ใช่” “ไปอาบน้ำไป ฉันจะออกไปข้างนอก” “เออ” “ยัยน้ำตาลมันกรี๊ดมาอีกแล้ว รำคาญมาก” “ก็คนเอาแต่ใจ” เช้าวันใหม่ทุกคนต้องวุ่นวายตั้งแต่เช้าเพราะเพื่อนร่วมห้องของเนเน่แจ้งอาจารย์ว่าเนเน่ไม่ได้กลับมาตั้งแต่เมื่อคืน ที่ไม่ได้แจ้งตั้งแต่เมื่อคืนเพราะคิดว่าเนเน่จะกลับไปหาญาติ แต่เธอเพิ่งจำได้ว่าโทรศัพท์ของเนเน่ฝากไว้กับเธอก่อนที่เนเน่จะหายไป “ได้ยังไง เพื่อนหายไปทำไมไม่มีใครบอก” อาจารย์ทั้งสามคนรู้สึกเครียดมากเพราะนับดูแล้วเวลาที่นิสิตหายไปก็เกือบสิบชั่วโมง อีกทั้งยังเป็นนิสิตที่อาจารย์รับปากผู้ปกครองว่าจะดูแลเป็นอย่างดี “ไม่รู้จริง ๆ ค่ะ เมื่อวานหนูเหนื่อยมาก พอมาถึงห้องก็รีบอาบน้ำแล้วพักเลย” จะโทษนิสิตก็ไม่ถูกเพราะเมื่อวานเหนื่อยกันมากจริง ๆ ไหนจะกลับวันนี้อีก ทุกคนเลยไม่ใส่ใจเพื่อนร่วมสาขา “เดี๋ยวอาจารย์จะไปประสานงานกับผู้ดูแลหมู่บ้านก่อน เราก็ไปรวมกับเพื่อนไป แล้วบอกเพื่อนว่าอาจกลับช้า” “ได้ค่ะ” หมิงหมิงเพื่อนร่วมห้องของเนเน่ถอนหายใจออกมาหลังจากแจ้งอาจารย์เสร็จ เป็นความไม่รอบคอบของเธอจริง ๆ ที่ไม่ดูเพื่อน เธอจำได้ว่าเนเน่ฝากของไว้กับเธอเพราะอยากเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็ไปช่วยอาจารย์ถือของ เมื่อคืนก็คิดว่าไปกับญาติไหนจะเหนื่อยอีก แต่ตอนเช้าพอคิดดูแล้วเธอคิดว่ามันไม่ใช่ “เป็นอะไรหมิงหมิง ทำหน้าเครียดมาแต่ไกลเลย” เพื่อนสนิทของเธอถามด้วยความเป็นห่วง “เนเน่อะ เมื่อคืนไม่ได้กลับห้อง แกเห็นไหม” หมิงหมิงเป็นเด็กกิจกรรมและเด็กที่ติดท็อปสาขาไม่ต่างจากเนเน่ ทั้งสองเข้าร่วมแทบจะทุกกิจกรรมเลยสนิทกันไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมกลุ่มกัน มีบ้างที่ชวนกันไปกินข้าว “อ้าว แต่ไม่เห็นกลับด้วยกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ” ใยไหมตอบด้วยความงง “เหรอ” “ฉันบอกแล้วยัยเฉิ่มมันโง่ เพื่อนก็ไม่มี จะมาทำไมก็ไม่รู้” วาดหวานหัวเราะอย่างอารมณ์ดีหลังหัวหน้าสาขาพูดกับเพื่อนสนิท ทั้งสามคนยืนอยู่ด้านหลังจึงไม่แปลกที่จะได้ยินสิ่งที่พูด “เออ หงุดหงิดว่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะมันยัยน้ำตาลมันก็ไม่ต้องมากรี๊ดใส่เราหรอก” “จริง หายไปจากโลกได้ก็ดี” “ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะจากกลุ่มสามสาวเรียกรอยยิ้มจากคนรอบข้างได้ไม่ยาก ทั้งสามคนสวยมาก ยิ่งหัวเราะก็ยิ่งสดใส แต่ทุกคนคงไม่รู้ว่าสิ่งที่ทั้งสามทำ มันทำลายชีวิตของหญิงสาวอีกคน “ไม่จริง!” “จริง ๆ ผมได้ยินอาจารย์แกพูดอยู่” “เมื่อวานก่อนจะกลับเนเน่ก็ยังดี ๆ อยู่เลยนะ” “มีอะไรกันเหรอคะ” วาดหวานเดินเข้าไปหากลุ่มคนที่โวยวายกันอยู่ จริง ๆ ก็เป็นกลุ่มคนในสาขาแหละ “ยัยเนเน่ตายแล้ว” “ฮ้า!” “ไม่น่าเชื่อใช่ไหมละ เมื่อวานเรายังยืนอยู่ด้วยกันอยู่เลย” หากมีคนสังเกตคงจะเห็นอาการหวาดกลัวของสามสาวที่เดินเข้ามาใหม่ แต่ทุกคนกำลังสนใจสิ่งที่รับรู้มามากกว่า หลังจากได้รับข่าวร้ายจากอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยของลูกสาว ผู้เป็นพ่อแม่ พี่ชายและน้องชายก็ตรงมาที่โรงพยาบาลเพื่อยืนยันตัวตนของเนเน่ “อาเนเน่!” หม่าม้าของเนเน่กรีดร้องเมื่อเห็นร่างของลูกสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่ ต่อให้ไม่ได้รักเท่าลูกชายแต่ก็เลี้ยงมาจนเติบโต ผู้เป็นแม่มีหรือที่จะรับไหว “ฮือ ฮือ ๆ ไหนลื้อบอกจะมากลับหาม้าไง!” เสียงกรีดร้องของผู้เป็นแม่ทำให้นรากำมือแน่น เขาไม่เชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญ เนเน่ไม่ชอบความมืด จากเหตุการณ์ที่ทางคณะอาจารย์บอกเล่ามาน้องสาวของเขาต้องรีบกลับมาหาเพื่อนแล้วหากไปเข้าห้องน้ำจริง [เฮียผมส่งคนไปดูกล้องวงจรปิดที่นั่นแล้วนะ! มันไม่ค่อยชัดเพราะกล้องอยู่นอกหมู่บ้าน น้องสาวเฮียเดินตามผู้หญิงคนหนึ่งไปแต่ไม่ใช่เพื่อนที่เห็นเนเน่คนสุดท้ายนะ จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็กลับมาพร้อมเพื่อนอีกสองคนที่มาตามเนเน่ แน่นอนว่าไม่มีน้องสาวเฮีย แล้วทุกคนก็ขึ้นรถกลับห้องพักทั้งหมดเลย] เสียงปลายสายตอบกลับมาพร้อมส่งคลิปวิดีโอที่ได้รับมาให้ นรายืนอยู่หลังโรงพักเพราะต้องสอบสวนคดีของน้องสาว เขาเปิดคลิปขึ้นมาดู ผู้หญิงคนนั้น! อีกทั้งสีหน้าเมื่อเดินกลับมายังสนุกกันอยู่เลย แพรฝัน? ทอแสง? วาดหวาน? ทำไมก่อนหน้านี้ตำรวจทั้งของประเทศจีนและของประเทศเขาถึงสรุปว่าเป็นเพราะน้องสาวของเขาประมาท จึงทำให้ถึงแก่ความตาย ทั้ง ๆ ที่มันเป็นการฆาตกรรม! [ดูเหมือนว่าทั้งสามคนจะเป็นลูกคนมีอำนาจนะ เฮียให้ผมจัดการให้เลยไหม ยังไงเนเน่ก็น้องสาวผมคนหนึ่ง] “อืม ฝากด้วยนะมึง” [ครับ] เพจมหาวิทยาลัย [ ‘ข่าวด่วน! รีบดูก่อนคลิปโดนลบ นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังบินไปศึกษางานที่ต่างประเทศ แต่มีนักศึกษาหญิงเสียชีวิต ตำรวจสรุปคดีว่าเป็นการประมาท แต่ประมาทจริง ๆ เหรอ ดูคลิปเพิ่มเติม…' ] ข่าววงใน [ ‘ตอนนี้เพจมหาวิทยาลัยโดนดึงนะคะ อย่าเพิ่งกล่าวหาระวังโดนแจ้งข้อหาเด้อ’ ] มิตรไมตรี ตอบกลับโพสต์ ข่าววงใน : คลิปจริง ๆ ใช่ไหมคะ นิลินคนสวย ตอบกลับโพสต์ ข่าววงใน : ฉันว่าไม่ใช่หรอกนะ! กลุ่มนี้นางฟ้าประจำมหาวิทยาลัยเลยนะ Pupu : คลิปจริง ๆ ครับ ไม่ได้ตัดต่อ กลุ่มนางฟ้าประจำมหาวิทยาลัย ทอแสง แพรฝัน วาดหวานนั่งเล่นที่โต๊ะประจำพร้อมน้ำตาล เพื่อนสาวสนิทอีกคนของกลุ่ม แต่อยู่ ๆ ทั้งหมดก็รู้สึกว่ามีคนชี้นิ้วมาที่โต๊ะ ทั้งยังถ่ายรูปเต็มไปหมด “เกิดอะไรขึ้น!” แพรฝันถามอย่างตกใจ “นั่นสิ” ลำพังเรื่องของยัยเฉิ่มเพิ่งจบลงไปพวกเธอก็ยังไม่หายหวาดกลัว อยู่ ๆ ก็มีคนมาถ่ายรูปทั้งยังซุบซิบเต็มไปหมด (ประกาศ ประกาศ ขอพบ นางสาวแพรฝัน ฟรินศา นางสาวทอแสง รวินนิภา และนางสาววาดหวาน วราภรณ์ที่ห้องประชุมด้วยค่ะ รีบมาตอนนี้เลยนะคะ อาจารย์รออยู่ประกาศ ประกาศ…) สิ้นเสียงประกาศหญิงสาวทั้งสามแสดงอาการหวาดกลัวอย่างห้ามไม่อยู่ ทำให้น้ำตาลเพื่อนสาวอีกคนต้องร้องถามด้วยความสงสัย “มีอะไรกันเหรอ” “ไม่มีอะไรหรอก แกนั่งรออยู่ที่นี่นะ! ฉันจะไปเข้าห้องน้ำก่อน” ทอแสงเอ่ยออกมาอย่างเร่งรีบ อีกทั้งมือก็ยังกวาดเครื่องสำอางใส่กระเป๋า “ใช่ ๆ! ฉันไปด้วย” “ฉันไปด้วยสิ!” “จะไปไหนกันเหรอครับคนสวย หึ ๆ” นราเดินเข้ามาขวางกลุ่มหญิงสาวทั้งสี่คนพร้อมรอยยิ้มที่ทำเอาหญิงสาวทั้งสามหวาดกลัว ด้านหลังมีตำรวจตามมาอีกห้านาย กว่าเขาจะรวบรวมหลักฐานและหาคนต่อกรกับฐานอำนาจด้านหลังคนกลุ่มนี้ได้ก็หลายวัน “คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ พอดีฉันจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ หลีกทางให้ด้วยค่ะ” แพรฝันรีบกล่าว “ไม่ต้องไปไหนกันทั้งนั้นครับ! ร่วมมือกันฆ่าคนตาย ทั้งยังปกปิดหลักฐานมีความผิดนะรู้ไหม” นราเหยียดยิ้ม ฆ่าคนตายแล้วยังมาเสวยสุขกันได้ แต่ชีวิตน้องสาวเขาล่ะ อีกทั้งหม่าม้าของเขายังทำใจเรื่องน้องสาวยังไม่ได้เลย “มะ…ไม่” “กรี๊ดดดดด” “ยะ…ยัย วาดเป็นคนทำ! จับมันสิ จับมันไปเลย!” “กรี๊ดดด อีแพร!”’ หญิงสาวทั้งสามคนกรีดร้องออกมาเมื่อถูกควบคุมตัว พ่อของพวกเธอจัดการหมดแล้วไม่ใช่เหรอ! ยิ่งกลัวกันมากเท่าไร ทั้งสามก็แฉเพื่อนออกมาเป็นหลักฐานมัดตัว ‘ถึงเฮียจะไม่ค่อยแสดงความรักแต่เฮียก็รักหนูนะอาเน่ เฮียจัดการกับพวกที่ทำหนูให้แล้วนะ หลับให้สบายนะน้องสาวคนสวยของเฮีย'
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD