EP 1 พันธะร้ายพ่ายรัก : จุดเริ่มต้น
พันธะร้ายพ่ายรัก : ตอนที่ 1
ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นด้วยจังหวะสม่ำเสมอมาพร้อมกับความมั่นใจ หญิงสาวใบหน้าสวยสะดุดตา อยู่ในชุดเดรสสีดำรัดรูปกับความยาวแค่คืบพร้อมกับโชว์เนินอกคัพดีและสัดส่วนอย่างชัดเจน โชว์เรียวขาขาวเนียนกับความสูงระดับมาตรฐานของหญิงไทย ผมดำยาวสลวยมีหน้าม้าลงมาปิดหน้าผากมนบางๆเป็นความเซ็กซี่เปรี้ยวแซ่บปนความอ่อนหวานของใบหน้าได้เป็นอย่างดี ชวนให้คนที่พบเห็นมองตามตาเป็นมัน และตกตะลึงกับความเพอร์เฟคของหุ่นและหน้าตา แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังเอ่ยปากชม
“พี่วิเข้าผับแสดงว่าต้องรับแขกระดับซุปเปอร์วีวีไอพีแน่เลย”
“คนอะไรสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า”
“อยากรับแขกระดับนั้นแบบพี่วิบ้างจัง ได้ทิปทีเป็นแสน ทำงานวันเดียวกินได้ทั้งเดือน”
"ตายแล้วเกิดใหม่จะได้หน้าตาแบบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้"
เสียงพูดคุยของเด็กสาวพีอาร์ในผับที่ต่างพากันอิจฉากับความสวยของเธอ มองตามทุกท่วงท่าที่หญิงสาวเดินผ่าน
ตื๊ด ตื้ด ตรื๊ดด~~
เสียงเพลงยามราตรีที่ชวนให้ชายหนุ่มหญิงสาวพากันออกมาท่องราตรีในยามค่ำคืนสุดสัปดาห์ ผับหรูใจกลางเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผับที่ใหญ่และหรูที่สุดในประเทศ รองรับแขกทุกระดับชั้นโดยเฉพาะนักท่องราตรีกระเป๋าหนัก แค่ใครได้เข้ามาถ่ายรูปและเช็คอินว่าอยู่ผับแห่งนี้ก็ดูเหมือนเที่ยวอย่างคนมีระดับ จึงเป็นผับที่ทุกคนอยากจะเข้ามาสัมผัสบรรยากาศสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ภายในผับแห่งนี้จะแบ่งออกเป็นสามโซน โซนแรก Standard zone หรือเรียกสั้นๆว่า (S) จะเป็นของคนระดับทั่วไปที่จองโต๊ะในราคาหลักหมื่นต้นๆ โซนนี้จะมีพวกวัยรุ่นหนุ่มสาวเต้นกันยับ เป็นโซนกลางของผับและใกล้ดีเจที่สุด เลยทำให้โซนนี้ครึกครื้นเป็นพิเศษ โซนที่สอง VIP zone หรือเรียกสั้นๆว่า (V) ระดับนักธุรกิจที่พึ่งเริ่มได้ผลกำไรจากการลงทุนขึ้นมาหน่อยราคาโต๊ะจะราคาหมื่นปลายๆ พร้อมกับเด็กสาวพีอาร์ที่คอยปรนิบัติ ส่วนใหญ่จะเน้นมาแฮงค์เอ้าท์กันชิวๆ และได้เด็กสาวติดไม้ติดมือไปบ้าง
“มาแล้วเหรอลูกวิเวียนของเจ๊” สาววัยกลางคนกับสไตล์แต่งตัวแต่งหน้าจัด ระบายยิ้มกว้างให้กับคนที่กำลังเดินเข้ามาใหม่
“สวัสดีค่ะเจ๊ซูซี่” วิเวียนยกมือไหว้ด้วยท่าทางนอบน้อมกับผู้ใหญ่ตรงหน้า เพราะเธอคือคนที่มีพระคุณดันฉันให้ขึ้นเป็นตัวท็อปของผับที่นี่ และจะสแกนแขกทุกคนให้ฉันก่อนที่จะเริ่มงาน
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าฉันทำงานในผับแห่งนี้มาสักระยะหนึ่ง โดยการชักชวนของเจ๊ซูซี่ที่อยากให้ลองมาทำ ด้วยที่ตอนนั้นชีวิตลำบากก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธโอกาสแบบนี้ คำว่าเงินหนัก ได้เงินดี ฉันเลยลองทำและมันก็ได้แบบนั้นจริงๆแต่ก็ต้องทนกับพวกมือปลาหมึก แต่กว่าจะขึ้นมาถึงระดับตัวท็อปที่รับแขกพิเศษก็ใช้เวลาอยู่นาน และดูแลตัวเองขั้นสุดเพื่อให้ตัวเองดูดี การทำงานของฉันคือจบแค่ในผับนี้และไม่เคยไปต่อกับแขกคนไหน ฉันต้องการทำอาชีพนี้ไม่ได้ต้องการอาชีพอื่นเสริม ถึงหลายคนจะบอกให้ลองแค่ไม่กี่ชั่วโมงทำเงินได้หลายบาท แต่ฉันไม่เคยมีความคิดนั้นเลย
“สวัสดีจ้ะ คนสวยของเจ๊ ระดับลูกวิเวียนเจ๊ก็จัดระดับเอสวีวี(SVV)ให้ลูกเลย คนนี้เจ๊บอกเลยว่าเด็ดแต่ก็แปลก”
และโซนสุดท้ายคือโซน Super VVIP (SVV) รองรับเฉพาะคนที่มีชื่อเสียงที่มีอิทธิพลในประเทศและต่างประเทศเท่านั้น ต้องมีเงินมากพอที่จะจองโต๊ะราคาหลักแสนปลายๆ ถึงหลักล้าน ในโซนนี้จะค่อนข้างเป็นส่วนตัวที่สุด มีที่จอดรถและทางเข้าพิเศษให้โดยเฉพาะ กลุ่มคนที่จองโซนนี้ส่วนใหญ่จะนัดกันมาคุยธุรกิจทั้งใสสะอาดและหม่นหมอง ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย นักธุรกิจผิดกฎหมายข้ามประเทศ เอาความบริสุทธิ์บังหน้าแต่เบื้องหลังสกปรก
สำหรับเด็กสาวพีอาร์ที่จะเข้ามาในโซนนี้ได้ต้องเป็นระดับตัวท๊อปของผับเท่านั้น และในผับนี้จะมีไม่กี่คนที่รองรับแขกระดับซุปเปอร์วีวีไอพี จะเป็นบุคคลที่กุมความลับของคนกลุ่มนี้ที่มาใช้บริการได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าขาข้างหนึ่งเข้าร่วมสิ่งผิดกฎหมายไปแล้ว ส่วนเรื่องไปต่อกับเด็กพีอาร์ก็อยู่ที่การตกลงของทั้งสองฝ่าย
“จะเด็ดไม่เด็ดวิไม่สนใจหรอกค่ะ ทำงานได้เงินแล้วจบเจ๊ซูซี่ก็น่าจะรู้ แล้วที่ว่่าแปลกนี่คือยังไงคะ?” เธอไม่ได้สนใจกับคำพูดของหญิงวัยกลางคนที่พูดเหมือนเชียร์เธอให้ไปต่อ และถามกลับด้วยความสงสัย
“มีคนเมาท์มาอีกทีว่าไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้าใกล้ ไม่ชอบให้ผู้หญิงถูกเนื้อต้องตัว"
"แล้วจะมาให้วิเข้าไปนั่งด้วยทำไม ก็นั่งดื่มคนเดียวไปสิ" วิเวียนยิ่งแปลกใจมากกว่าเดิม
"มันเป็นนโยบายของผับเราอยู่แล้วที่แขกระดับนี้มาที่ร้านต้องคอยดูแล ยังไงก็ห่างเขาไว้นะลูก เดี๋ยวเขาไม่พอใจขึ้นมาจะซวยกันหมด" หญิงวัยกลางคนแปลกใจไม่แพ้กันแต่ต้องเตือนให้วิเวียนรู้ไว้จะได้ไม่พลาด
วิเวียนพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจและไม่ได้ถามอะไรต่อ
“แหมๆ ระดับวิเวียนเข้าผับสงสัยจะได้ทิปหนัก อย่าลืมเอาตัวเข้าแลกด้วยล่ะจะได้สบายกว่านี้” คำพูดกระแหนะกระแหนดังมาจากด้านหลังของเธอ ทำให้เธอหันไปมองหน้าคนคุ้นเคยที่คอยแซะเธอเป็นประจำ
“ก็ไม่แน่นะ ทุกวันนี้ที่ฉันได้ดีกว่าเธอ เรื่องแบบนั้นฉันก็อาจจะเด็ดมากกว่าเธอก็ได้” วิเวียนตอกกลับอย่างลอยหน้าลอยตา ใครจะคิดว่าเธอเป็นแบบไหนไม่เคยสนใจ เพราะรู้ว่าตัวเองว่าเป็นยังไง
“ก็คงอย่างที่เขาว่ากัน ใช้เต้ากับ ห แลกเงินจนได้ดีสินะ” ริมฝีปากอวบอิ่มยังคงพูดจาดูถูกไม่หยุด
“อย่าเอาประสบการณ์ตัวเองมาใช้กับคนอื่นสิ…นารา เมื่อวานได้ข่าวว่าก็แหกขาให้แขกไปแล้ว วันนี้ก็มาอีก นี่ร้อนเงินหรือคัน” วิเวียนพูดอย่างรู้ทัน การที่เธอไม่ค่อยเข้ามาทำงานใช่ว่าเรื่องราวในผับเธอจะไม่รู้
“อีนี่!” นาราเดือดดาลกับคำพูดของคนตรงหน้า พร้อมกับง้างมือขึ้นตั้งท่าจะตบ
“นี่หยุดนะ! อย่าเอานิสัยต่ำๆมาแสดงต่อหน้าฉัน ฉันมีสิทธิ์สั่งให้เธอพักงานได้นะนารา” เจ๊ซูซี่รีบพูดขึ้นเมื่อเห็นนารากำลังจะตบวิเวียน
“เหอะๆ ลูกสุดรักนี่แตะต้องไม่ได้เลยนะคะ วันไหนที่ปีกหักขึ้นมา นารานี่แหละจะเหยียบซ้ำทั้งตัวใหญ่และตัวเล็กเลยคอยดู”
“แล้วมาดูกันใครจะตกต่ำก่อนกัน แต่ถ้าปีกหักเมื่อไหร่ฉันจะกำจัดไม่ให้เหลือซาก ป้องกันเชื้อโรคจะแพร่สู่คนรอบข้างเลยละ”
ปึก!
วิเวียนพูดจบพร้อมกับเดินกระแทกไหล่นาราอย่างแรงจนเธอเซแทบจะล้มลงกับพื้น
“สักวันเถอะมึง กูนี่แหละจะกระชากมึงลงมาเอง! อีวิเวียน!!” นาราพูดพร้อมกับกำหมัดแน่น
“ทำไมไม่ปฏิเสธไปละว่าเราไม่เคยนอนกับแขก ไปเล่นตามมันก็ยิ่งได้ใจ เอาไปพูดกับใครบ้างก็ไม่รู้” หญิงวัยกลางคนพูดหลังจากเดินออกมาจากตรงนั้นได้สักพักแล้ว
“ช่างมันเถอะเจ๊ ต่อให้เราปฏิเสธแทบตาย คนที่จ้องจะร้ายกับเราก็คงไม่เห็นความดีในตัวเราหรอกเจ๊ ใครจะคิดยังไงก็ช่าง ชินแล้วละ” เธอตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของคนอื่น
“เราก็เป็นซะอย่างนี้ อ่อนแอบ้างก็ได้นะวิ ถอดหน้ากากที่ใส่อยู่ออกแล้วมาร้องไห้กับเจ๊ก็ได้ ไม่มีใครเข้มแข็งได้ตลอดหรอกนะลูก” หญิงวัยกลางคนพูดพลางตบไหล่วิเวียนเบาๆ อย่างเห็นใจ