พันธะร้ายพ่ายรัก : ตอนที่ 3
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตครับนาย" ซีโน่เดินเข้ามาหาเจ้านายหนุ่มด้วยท่าทางสุขุม
"มีอะไร" คาไลน์ละสายตาจากเอกสารบนโต๊ะพร้อมกับส่งสายตาคมมองลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้ามา
"คนของแดเนียลโทรมาบอกว่านายมันต้องการเปลี่ยนสถานที่คุยงานครับ นายมันไม่ไว้ใจคนของเราครับ และไปสถานที่ของเราพวกมันเลยระแวง"
"หึ กูไม่ได้เล่นขายของ" คาไลน์เลิกคิ้วกับสิ่งที่ได้ยิน ร่างสูงพิงเก้าอี้หนัง มือหนาหยิบบุหรี่ราคาแพงในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาสูบและพ่นควันขาวคลุ้งไปทั่วบริเวณ ใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงความรู้ใดๆออกมา
"บอกมันกูจะคุยที่เดิม ตามเวลาเดิม ถ้าไม่มาก็เรื่องของมัน" น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้นหลังจากอัดบุหรี่เข้าปอดไปสักพัก ให้สารนิโครตินขับกล่อมประสาทให้ใจเย็น เรื่องธุรกิจสำหรับเขาไม่ใช่เรื่องเล่น อะไรที่ตกลงกันไว้แต่แรกคนอย่างคาไลน์ไม่มีทางผิดคำพูดและไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ อย่าคิดมาเล่นตุกติกเพราะสุดท้ายไม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ต้องตาย ความตายสำหรับเขามันคือเรื่องปกติไปแล้ว
ครืด ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงเข้ามาขัดจังหวะ สายตาคมมองบนหน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง ก่อนจะกดรับปลายสาย
"ลูกน้องมึงคงกำลังรายงานมึงอยู่สินะว่ากูต้องการเปลี่ยนสถานที่คุยงาน"เมื่อคาไลน์กดรับสาย ปลายสายก็พูดขึ้นมาก่อนเหมือนกับรู้สถานการณ์
"หึ กูไม่ชอบพวกลิ้นสองแฉก อะไรที่กูบอกไว้ตั้งแต่แรกก็คือตามเดิม"
"แล้วกูจะมั่นใจได้ไงว่ามึงจะไม่เล่นตุกติกกับกู" แดเนียลตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงดุดันเช่นกัน
"อันนั้นก็อยู่ที่ความฉลาดของมึง แต่คนอย่างกูไม่เคยรอบกัดใครก่อน" ติ๊ด! เขาตัดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ คนอย่างคาไลน์ไม่คิดหักหลังใคร แต่ถ้าเขารู้ว่าใครกล้าหักหลัง มันไม่มีทางได้ตายดี
"ให้ผมเตรียมเด็กไว้ไหมครับ" ซีโน่เสนอความเห็นเมื่อคาไลน์นิ่งเงียบหลังจากวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว เขาเอาแต่อัดบุหรี่เข้าปอด พร้อมกับเอนหลังพิงเกาอี้หันหน้าออกไปทางกระจกมองวิวด้านนอก ซีโน่รับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเจ้านายหนุ่มเลยยื่นข้อเสนอเผื่อนายอยากระบายมันออก
"อืม" คาไลน์ใช้เสียงในลำคอตอบกลับมา
"มันยอมเปิดปากพูดหรือยัง" ริมฝีปากหนาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยรังสีอำมหิต
"ยังครับนาย มันคงยอมตายเพื่อศักดิ์ศรีของนายมัน"
"ก็ดีเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ กูคงต้องลงมือเอง" สายตาดุดันฉายขึ้นบนใบหน้าคมคายอีกครั้ง
--//--//--//--//--//--//--
@S.star pub
รถโรลส์-ลอยซ์คันหรูตามด้วยรถของลูกน้องที่ติดฟิล์มดำสนิทแล่นเข้ามาจอดภายในผับสุดหรูใจกลางเมือง ในบริเวณนี้ไม่มีใครเข้ามาได้เพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของผับเท่านั้น และนั่นก็คือเขาเอง อีกหนึ่งธุรกิจที่เขาลงทุนไปไม่น้อย แต่ผลตอบรับก็กลับมาไม่น้อยเช่นกัน
เมื่อไหร่ที่คาไลน์มาที่นี่โซนซุปเปอร์วีวีไอพีทั้งหมดจะถูกปิดเพื่อเอาไว้รองรับและเจรจาธุรกิจสำคัญ ลานจอดรถ ทางเข้าผับทุกอย่างคือพื้นที่ส่วนตัว ไม่มีใครรู้ว่าผับแห่งนี้ใช้เป็นที่เจรจาธุรกิจสีดำหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน คนในผับจะรู้กันแค่ไม่กี่คนเพราะต้องปิดทุกอย่างเป็นความลับ คนนอกไม่รู้คนในไม่บอกทุกอย่างจบ แต่ถ้าเมื่อไหร่มีคนปากโป้งทุกชีวิตก็จบด้วยความตาย
ร่างสูงเดินเข้าผับโดยใช้ทางเข้าพิเศษ พร้อมกับลูกน้องคอยคุ้มกันอย่างเหนียวแน่น ต่อให้อยู่ในเขตของตัวเองแต่มาเฟียอย่างเขามักมีศัตรูอยู่รอบด้าน คนที่จะล้มเขาไม่ใช่น้อยๆ ทุกคนต้องการความเป็นใหญ่
พื้นที่โซนนี้ถูกจัดเตรียมรอต้อนรับแขกคนสำคัญไว้หมดแล้ว สายตาคมมองไปรอบๆยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคู่ค้าทางธุรกิจ
"ทำไมวันนี้ลูกวิเวียนของเจ๊สวยจัง" หญิงวัยกลางคนพูดจีบปากจีบคอชมหญิงสาวตรงหน้าไม่หยุด ส่วนคนที่ถูกชมไม่ได้มีท่าทีดีใจแต่อย่างใด เพราะเธอได้ยินคำนี้จนมันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และก็ได้ยินตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน
"เฮ้อ ทำไมไม่รู้สึกดีใจกับคำชมนี้เลยนะ" วิเวียนกรอกตามองบน
"แหมๆ แกล้งดีใจหน่อยก็ได้" น้ำเสียงที่พูดออกมาแสดงถึงความน้อยใจและยิ่งเห็นท่าทางของหญิงสาววัยกลางคนทำให้เธออดยิ้มไม่ได้
แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ชายสวมชุดสูทสีดำท่าทางน่าเกรงขามก็เดินตรงมาที่เจ๊ซูซี่ และก้มลงกระซิบอะไรกันบางอย่างไม่ให้เธอได้ยิน การกระทำของทั้งคู่ตกอยู่ในสายตาเธอ ชายคนนั้นใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็เดินออกไป ท่าทางลึกลับจนอดที่จะสงสัยไม่ได้
"กิ๊กใหม่?" วิเวียนเลิกคิ้วถามหลังจากที่ชายร่างสูงคนนั้นเดินออกไปแล้ว
"ก็อยากได้อยู่ แต่เขาไม่เอานะสิ่ อ่อยแล้วอ่อยอีกหางตายังไม่มอง" สาววัยกลางคนแสดงสีหน้าเสียดายจนออกนอกหน้า แต่คำพูดของเธอไม่ได้ทำให้วิเวียนคลายความสงสัยลงได้เลย
เธอทำงานที่ผับนี้มานานแต่กลับไม่คุ้นหน้าชายคนนั้นแม้แต่นิด และนี่คือเวลาช่วงดึกที่คนออกมาเที่ยวผับ คงไม่มีใครใส่สูทเต็มยศขนาดนี้เพื่อมาแฮงค์เอ้าท์เป็นแน่
"บอดีการ์ดส่วนตัวของแขก ความลับ!" หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสงสัยของหญิงสาว
“แขกของเจ๊คือใคร?” เธอใช้น้ำเสียงเรียบนิ่งถามกลับไป
“คุณคาไลน์ เจ้าของผับแห่งนี้”
"ที่เจ๊เรียกให้วิมารับแขกวันนี้เพราะเจ๊เชื่อว่าวิเก็บความลับได้ดี ไม่มีทางเอาแขกไปนินทา และที่สำคัญเขาคือคนสำคัญของเรามีไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาคือเจ้าของผับ เจ๊เชื่อใจวิคนเดียว ไม่ต้องสงสัยอะไร คุณคาไลน์รอนานแล้ว อย่าลืมที่เจ๊บอกว่าเขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง อยู่ห่างไว้ดีที่สุด!" เจ๊ซูซี่รีบอธิบายคร่าวๆ เธอพยายามปรับสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเมื่อเจอกับสายตาของหญิงสาวที่จ้องจับพิรุธ
แค่เพียงสองเท้าก้าวเข้ามาในโซนนี้ทุกอย่างดูผิดสังเกตไปหมด คนสวมชุดสูทสีดำเหมือนกับคนที่เธอเห็นก่อนหน้านี้ยืนตามจุดต่างๆเยอะจนน่าตกใจ ไม่มีท่าทีเป็นมิตรใบหน้าเรียบนิ่งกันทุกคน บรรยากาศชวนขนลุกจนเธอทำตัวไม่ถูก ถึงเธอจะเคยรับแขกระดับนี้มาไม่น้อยแต่ไม่เคยเจอกับบอดีการ์ดมากมายขนาดนี้ ต่อให้ที่แห่งนี้เป็นผับรื่นเริง โซนอื่นยังเต้นกันหนักหน่วง พอเข้ามาในโซนนี้เสียงเพลงจะเบาลงมาก
“มาตามที่สั่ง” หญิงวัยกลางคนพูดกับบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนเฝ้าหน้าห้องกระจก โซนนี้เป็นกระจกทั้งหมดคนนอกไม่สามารถมองเห็นข้างในได้ แต่ด้านในสามารถดูความเคลื่อนไหวของบุคคลที่อยู่ข้างนอกได้
วิเวียนมองเข้าไปในกระจก รู้สึกเหมือนมีคนกำลังจ้องเธออยู่จากด้านใน แต่เธอไม่สามารถเห็นได้ จนร่างบางพยายามหลี่ตามองไปตามความรู้สึกของตัวเองผ่านกระจกมุมนั้น
“มองอะไร” เสียงบอดี้การ์ดหน้าห้องพูดขึ้นทำให้เธอสะดุ้งโหยง จนต้องละความสนใจจากมุมนั้น