1
กลับมาสู่โลกแห่งความจริง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“โอ๊ย” ฉันขยับตัวเพราะเสียงเคาะประตูห้องดังรัว พร้อมๆ กับร้องครางเบาๆ กับอาการปวดกลางลำตัว รวมทั้งขบเมื่อยไปทั่วทั้งตัว แม้จะอยากหลับต่อ แต่เสียงเคาะประตูห้องก็ดังไม่หยุด
ฉันจึงฝืนใจลุกจากเตียงอย่างทุลักทุเลไปเปิดประตู และเห็นลีน่ายืนอยู่หน้าห้อง
“เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมวันนี้ไม่เห็นตื่นเช้าเหมือนทุกวัน”
“คือ ฉันปวดหัวนิดหน่อยนะ สงสัยเมื่อคืนโดนลมทะเลเล่นงานแล้ว”
“งั้นฉันไปหายาลดไข้ให้แกนะ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันมีในกระเป๋าอยู่แล้ว”
“งั้นกินยาแล้วก็นอนต่อเถอะ ฉันไม่กวนแกแล้ว”
“แล้วเอ่อ...”
“อะไร...” ลีน่าทำหน้างงๆ
“คนอื่นๆ ล่ะ”
“ยัยเนเน่กับยัยจินนี่ก็ยังไม่ตื่นหรอก คงเที่ยงโน้นแหละ”
“อ๋อ...เหรอ...” อยากจะถามว่าพี่เลโอล่ะ แต่กลัวลีน่าสงสัย
“ส่วนพี่เลนั้นกลับตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ เพราะตอนค่ำต้องไปเที่ยวยุโรปกับคุณลุงคุณป้าไง”
“อ๋อ...” ก่อนเดินทางมาหัวหินในช่วงวันหยุดยาวนี้ เธอก็ได้ยินลีน่า
คุยกับพี่เลโออยู่บ้าง
“แก้มนอนเถอะ จะได้หายไวๆ ตอนบ่ายจะได้เล่นน้ำทะเลสนุกๆ กัน”
“อือ...”
ลีน่าเดินจากไป และฉันก็ปิดประตูทันที เดินเซๆ มายังเตียง แต่นอนต่อไม่หลับ
ฉันหันไปหยิบยาแก้ปวดลดไข้ที่พกติดตัวไว้ในกระเป๋าถือ ไม่ได้ป่วยเป็นไข้อย่างที่บอกลีน่า หรืออย่างที่นางเอกในนิยายเป็นหลังฟาดกับพระเอกทั้งคืน ฉันไม่ได้บอบบางเหมือนนางเอกพวกนั้น แต่กินเผื่อมันจะช่วยคลายความขบเมื่อยของร่างกายบ้าง
กินเสร็จฉันก็นอนเหม่อ...ทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันเหมือนความฝันก่อนนอนทุกคืนที่ฝันว่าได้กับพี่เลโอ
เช้านี้...ตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอพี่เขาแล้ว ความรู้สึกมันจึงคล้ายกับฝัน แล้วตื่นขึ้นมาพบความจริง
เศร้าจัง...อยากร้องไห้
ตึ่ง...
เสียงข้อความจากไลน์ดังขึ้น หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ยหัวเตียงมาดู ก็เห็นว่ามีคนแอดไลน์เข้ามา เมื่อเห็นชื่อคนแอดฯ ฉันก็รีบก็กดรับเป็นเพื่อนทันที ความเศร้าในใจก็ปลิวหายไปไหนแล้วไม่รู้ จากนั้นก็รีบอ่านข้อความที่เขาส่งมา
เลโอ : อย่าลืมซื้อยาคุมฉุกเฉินกินนะ เมื่อคืนพี่ไม่ได้ป้องกัน และอย่าบอกเรื่องเมื่อคืนกับใครล่ะ
ทำไมมันเศร้ากว่าเดิม จนอยากร้องไห้ ไม่คิดว่าจะเจอข้อความนี้ ในเวลาที่ตื่นขึ้นมา หลังจากมีค่ำคืนเร่าร้อนด้วยกันจนเกือบสว่าง
ตอนนี้น้ำตาฉันไหลออกมาจริงๆ ขณะที่พิมพ์ข้อความตอบกลับ
แก้มยุ้ย : ค่ะ
พี่เลโออ่านแล้ว แต่เขาไม่ตอบอะไรมาอีก
ฉันร้องไห้จนหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนบ่าย อาการขบเมื่อยเกือบหายเป็นปกติ และเพื่อนๆ ก็ไม่มีใครอยู่บ้านพักเลย แม่บ้านบอกว่าทั้งสามไปหามื้อกลางวันกิน และคงไปเที่ยวต่อ
ฉันกินอาหารที่แม่บ้านทำเผื่อไว้ในครัว จากนั้นก็ไปนั่งเหม่ออยู่เฉลียงบ้านพักที่มองไปยังท้องทะเลได้กว้างไกล
บ้านพักตากอากาศสีฟ้าหลังใหญ่ เป็นของครอบครัวพี่เลโอ ส่วน
ลีน่าที่เป็นญาติผู้น้องของเขาเลือกมาฉลองวันเกิดที่นี่ ลีน่าเติบโตมาพร้อมกับพี่เลโอ เพราะพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ส่วนเนเน่ก็รู้จักกับพี่เลโอและลีน่ามาตั้งแต่เด็ก เพราะทั้งสองครอบครัวสนิทกัน
ส่วนฉันกับจินนี่เพิ่งมารู้จักพี่เลโอก็เมื่อตอนเข้ามหาวิทยาลัย เพราะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับลีน่าและเนเน่ จริงๆ แล้วเนเน่ไม่ได้อยากให้ฉันเข้ากลุ่มด้วย แต่บังเอิญว่าฉันเคยกางร่มไปส่งลีน่าขึ้นรถของเจ้าตัวในวันที่ฝนตกหนัก ลีน่าเลยประทับใจในตัวฉัน และคบหาเป็นเพื่อนอย่างจริงใจมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่ง กระทั่งถึงตอนนี้เรียนอยู่ปีสุดท้ายเทอมหนึ่งแล้ว พวกเราเป็นเด็กนิเทศฯ เอกโฆษณา
ในตอนที่เจอพี่เลโอครั้งแรก เขาเพิ่งเรียนจบปริญญาโทด้านการบริหารจากอังกฤษ เขามาเซอร์ไพรส์ลีน่า
และมันก็ทำให้เพื่อนๆ ของลีน่าเซอร์ไพรส์ไปด้วย โดยเฉพาะฉันกับจินนี่ที่เพิ่งเคยเจอพี่เลโอ ที่ทั้งหล่อ เท่ ของพี่เขา
หลังเรียนจบปริญญาโท พี่เลโอก็เข้าทำงานในบริษัทโฆษณาของครอบครัว ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายธุรกิจของครอบครัวเขา ลีน่าบอกกับฉันว่าตอนเรียนปริญญาตรีพี่เลโอเองก็เรียนด้านโฆษณาเหมือนกัน
ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าพี่เลโอ ฉันก็ตกหลุมรักเขามาตลอดสี่ปี
ถ้าพี่เลโอจะเป็นเพียงผู้ชายหล่อ หุ่นดี แสนเท่ ที่นิสัยแย่ๆ ฉันคงไม่ฝันถึงเขามานานขนาดนี้
แต่ทุกครั้งที่เจอก็เห็นแต่ความน่ารัก แสนดี เสมอ เวลามารับลีน่าที่มหาลัย เพื่อไปกินข้าว ถ้าเห็นฉันอยู่กับลีน่า เขาชวนทุกครั้ง และไปพาฉันติดรถกลับห้องพักที่ไม่ใช่ทางผ่านกลับบ้านของเขา
แม้ว่าบางครั้งเขาจะแสดงออกว่าเอือมระอากับสายตาที่บ่งบอกว่าหลงรัก หลงใหลของฉันในตัวเขา แต่พี่เลโอก็ไม่เคยพูดจาไม่ดีใส่ อย่างมากก็มองด้วยสายตาขุ่นๆ
ไม่เหมือนยัยเนเน่
‘ไม่เจียมตัว ก่อนจะอ่อยพี่เล เธอไปลดน้ำหนักก่อนมั้ย’
พอคิดถึงคำพูดดูถูกของยัยเนเน่แล้ว ฉันก็เผลอยิ้มอย่างสะใจออกมา
ถ้ารู้ว่าฉันได้พี่เลโอเรียบร้อยแล้ว แถมยังฟาดกันทั้งคืนอย่างเร่าร้อน อยากรู้ว่ายัยเนเน่จะทำหน้ายังไง
แต่ฉันรู้แหละว่าเรื่องนี้พูดให้ใครฟังไม่ได้ เพราะไม่ยังงั้นพี่เลโออาจจะโกรธ และอาจไม่ยอมเจอหน้าฉันอีก
ถึงฉันจะหลงรักเขาอย่างโงหัวไม่ขึ้น แต่ฉันรู้สถานะตัวเองดีว่าพี่เลโอไม่มีทางคิดกับฉันเป็นอื่นได้ เมื่อคืนมันเป็นเพียงอุบัติเหตุ ก็แค่วันไนท์ ที่ไม่ต่างจากที่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายแสนฮอตอย่างเขามาก่อน
...เอาวะ อย่าคิดมากนังแก้มยุ้ย อย่างน้อยแกก็ได้ฟาดกับผู้ชายที่หลงรักเลยนะโว้ย!
ฉันปลอบใจตัวเอง แล้วยิ้มกับทะเลและท้องฟ้าที่อยู่เบื้องหน้า
ในตอนบ่ายแก่ๆ เพื่อนๆ ของฉันก็กลับมา และชวนกันไปเล่นน้ำทะเล แต่แค่เดินเล่นชายหาด เพราะไม่กล้าเสี่ยงเอาตัวไปแช่น้ำเค็ม เพราะมันอาจแสบ...ตรงนั้น
มองหุ่นเพื่อนๆ ทั้งสามในชุดบิกินีสีสันสดใส ก่อนจะก้มมองรูปร่างอวบระยะสุดท้ายของตัวเอง แล้วได้แต่ถอนหายใจแรงๆ
ทั้งสามคนมีรูปร่างใกล้เคียงกัน แต่ลีน่าดูจะตัวเล็กมากกว่าเพราะเตี้ยกว่าเนเน่กับจินนี่ประมาณสามสี่เซ็นฯ รวมทั้งตัวบางกว่าด้วย หน้าตาก็ออกแนวน่ารักสดใส ยิ่งเวลายิ้มและหัวเราะด้วยแล้วเหมือนโลกทั้งใบเป็นของลีน่า
ส่วนเนเน่กับจินนี่สูงพอๆ กัน แต่เนเน่มีรูปหน้าสวยเฉี่ยว นิสัยก็เปรี้ยว มะนาวเรียกพี่ ส่วนจินนี่ดูหวาน ด้วยเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มเหมือนดอกไม้ในกระถาง ส่วนนิสัยใจคอนั้นเปรี้ยวน้อยกว่ายัยเนเน่แค่นิดเดียวเท่านั้น
สรุปทั้งสามคนมีความโดดเด่นไปคนละแบบ ล้วนน่ามองทั้งนั้น ยกเว้นฉัน...
ที่เหมือนเป็นสิ่งแปลกปลอมไม่เข้าพวก แต่ก็ไม่เคยคิดอิจฉาเพื่อนๆ เพราะรู้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี แม้เพื่อนบางคนจะจิกหัวใช้เหมือนเป็นทาสในเรือนเบี้ยก็ตาม ก็คิดเสียว่าชาติก่อนอาจเคยเป็นแม่นายอารมณ์ร้ายของเจ้าหล่อนมาก่อน
“ยัยแก้ม ไปหยิบน้ำแร่ในตู้เย็นให้ฉันหน่อย”
เสียงยัยเนเน่ดังขึ้นพอดี ฉันทำหน้าเอือมนิดๆ แต่ก็ลุกขึ้นจากพื้นทรายเดินขึ้นขั้นบันไดที่เชื่อมต่อระหว่างหน้าบ้านกับชายหาดเข้าไปในบ้านพัก
ไม่กี่นาทีฉันก็ถือขวดน้ำแร่มาให้เนเน่ ซึ่งเจ้าตัวนั่งบนเก้าอี้พับ ส่วนจินนี่กับลีน่าก็ยังเล่นน้ำกันต่อ
“ถามจริงๆ เหอะแก...”
“ว่า...”
“แกคิดว่าระหว่างฉันกับยัยจินนี่ ใครเซ็กซี่กว่ากัน”
“ไม่น่าถามเลย ก็ต้องแกอยู่แล้ว” นี่ฉันพูดไปตามความจริง ไม่ได้พูดเอาใจเจ้าตัวหรอกนะ เพราะแม้เนเน่กับจินนี่จะมีรูปร่างพอๆ กัน แต่เนเน่มีเซ็กซ์แอพพีลมากกว่า อาจเพราะมีส่วนเว้าโค้งที่ชัดเจน บวกกับหน้าตาที่สวยเฉี่ยว
“นั่นสิ ฉันก็ว่าตัวเองเซ็กซี่กว่ามันนะ”
“แล้วยังไง...” ฉันเริ่มสงสัยว่าทำไมเนเน่ถึงตั้งคำถามที่ตัวเองรู้คำตอบอยู่แล้วกับฉัน
“สมมตินะ ถ้าผู้ชายคนหนึ่งกระหายเซ็กซ์ แกคิดว่าเขาจะมาหาฉันหรือไปหายัยจินนี่”
เจอคำถามนี้เข้าไปฉันถึงกับอึ้งไปชั่วครู่ เพราะเริ่มมีเค้าลางบางอย่างว่ามันจะเกี่ยวกับ...พี่เลโอ
คือ...อย่าบอกนะว่ายัยเนเน่คิดว่าเมื่อคืนพี่เลโอหนีเจ้าตัวไปหา
จินนี่
“ว่าไง...ฉันถามแกนะ!” น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิด
“อ้าว...ก็แน่นอน แกเซ็กซี่กว่ายัยจินนี่ ผู้ชายก็ต้องเข้าหาแกสิ เว้นแต่...”
“เว้นแต่อะไร!” หงุดหงิดกว่าเดิม แถมมองฉันตาขุ่น
“ก็เว้นแต่...ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ชอบแกไง”
“ยัยแก้ม!”
“ก็...ฉันแค่...วิเคราะห์อะ” ท่าทางของเนเน่ฉุนเฉียวกับคำตอบของฉันแบบนี้แสดงว่าเพราะเรื่องที่เลโอหนีเจ้าตัวออกมาจากห้องแน่ๆ
“เมื่อคืนฉันกับพี่เลโอ เกือบจะได้กันแล้ว แต่ฉันดันกลัวว่าตัวจะเหม็นเพราะกลิ่นปิ้งย่างเลยขอตัวอาบน้ำก่อน พอออกมาพี่เลโอก็หายไปแล้ว”
“แกเลยคิดว่า...พี่เขาเข้าไปหายัยจินนี่เหรอ”
“เออสิ...”
“ทำไมถึงคิดว่าเขาจะไปหาจินนี่ เขาอาจกลับไปนอนห้องเขาก็ได้”
“ฉันไปดูที่ห้องของเขาแล้ว แต่เขาไม่ได้อยู่ที่ห้อง”
“อ๋อ...เป็นแบบนี้นี่เอง”
“ตื่นมาว่าจะถามเขาว่านอนที่ไหน พี่เลโอก็กลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว”
“แล้วทำไมแกไม่ถามยัยจินนี่ดูล่ะ”
“ใครจะกล้าวะ ถ้ามันตอบใช่ แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถ้ามันรู้ว่าเขาหนีออกจากห้องฉันไปหามัน”
“เออ...มันก็จริงของแก”
“แต่เขาอาจจะไปนอนห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องยัยจินนี่ก็ได้ บ้านพักมีตั้งหลายห้อง”
“ไม่มีทางอะ เมื่อคืนพี่เขา...เอ่อ...”
“พี่เขาเป็นอะไรเหรอ” ฉันแสร้งถาม ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าพี่เลโอไม่มีทางนอนทรมานอยู่คนเดียวในห้องพักเพียงลำพังได้
พูดแล้วก็ทั้งโมโหยัยเนเน่ที่ทำอะไรชั่วๆ ด้วยการวางยาปลุกเซ็กซ์ผู้ชายเพื่อจะได้ตัวเขา
...เฮอะ ไม่มีปัญญาทำให้พิศวาสตัวเองได้ ก็ใช้วิธีสกปรก!
รู้สึกเริ่มเกลียดยัยเนเน่ขึ้นมาจริงๆ ก่อนหน้านั้นถึงจะมีไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายมองฉันเป็นเพื่อนเบ้บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นเกลียด แต่ตอนนี้เห็นทีฉันระงับ
ความเกลียดที่มีต่ออีกฝ่ายไม่ไหวจริงๆ
แต่จะอภัยให้กึ่งหนึ่งก็แล้วกัน เพราะแผนชั่วของยัยเนเน่ทำให้ฉันได้พี่เลโอแบบฟลุกๆ
ฉันเผลอยิ้มอย่างสาแก่ใจ
“เป็นบ้าไร อยู่ๆ ก็ยิ้ม”
“เปล่า แค่คิดอะไรขำๆ น่ะ”
“คิดอะไรก็คิดไป แต่อย่าคิดว่าพี่เลโอปฏิเสธฉัน แล้วแกจะมีความหวังบ้างนะ เพราะขนาดฉันสวยเซ็กซี่ขนาดนี้เขายังไม่เอาเลย ไม่มีทางที่พี่เลโอจะเอาแก!”
คำพูดดูถูกนั้นทำให้ฉันอยากจะตะโกนใส่หน้ายัยเนเน่ว่า
‘พี่เขาเอาฉันย่ะ และเอาหนักด้วย!’
แต่สิ่งที่พูดออกไป
“รู้แล้วน่า ฉันทั้งอ้วน และหน้าบ้านๆ ขนาดนี้ พี่เขาไม่ชายตาแลหรอก”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงพี่เลโอก็ต้องแต่งงานกับฉันอยู่ดี”
พูดจบก็สะบัดตูดเดินลงทะเลไปเฉยเลย ปล่อยให้ฉันนั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว
เหตุการณ์เมื่อคืน ยัยเนเน่คงคิดว่าเพราะพี่เลโอไม่พิศวาสเจ้าตัวเลยหนีออกจากห้องไป ทั้งที่มีความต้องการอย่างหนักเพราะฤทธิ์ยา
แต่ฉันมั่นใจที่พี่เลโอหนีมันไปนั้น เพราะรังเกียจการกระทำชั่วๆ เหมือนชายโฉดที่มอมยาผู้หญิงในที่เที่ยวกลางคืนของยัยเนเน่มากกว่า
จากคำพูดเมื่อครู่ที่เนเน่บอกว่า...’ยังไงพี่เลโอก็ต้องแต่งงานกับตัวเองอยู่ดี’ มันหมายความว่ายังไง
หรือว่า...เมื่อคืนที่พี่เลโอหนีออกจากห้องเนเน่ ไม่ใช่เพราะไม่ชอบการกระทำของเนเน่ แต่เขากลัวถูกเนเน่จับหรือเปล่า
เนเน่พูดเรื่องการแต่งงานของตัวเองกับพี่เลโออย่างมั่นใจแบบนี้ หมายความว่า...
ฉันเคยได้ยินลีน่าเปรยๆ มาบ้างว่าครอบครัวของพี่เลโอกับของเนเน่นั้น อยากให้ทั้งสองแต่งงานกัน แต่ลีน่าก็พูดทำนองว่าพี่เลโอไม่มีทางยอมถูกจับคลุมถุงชน
ฉันก็คิดว่าแบบนั้น...เหมือนกัน กระทั่งถึงตอนนี้...
.....................