อากาศหนาวเย็นสะท้านยามดึก ลมพัดมาแผ่วๆ มีเพียงเสียงใบไม้สะบัดเมื่อยามต้องลม เพิ่มความวังเวงให้กับบรรยากาศรอบด้านที่ไร้ผู้คน ทั้งที่บริเวณนี้เป็นบ้านพักของคนงาน “ไร่ส้มภูลม”
หญิงสาวนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ภายในห้องนอนที่มีแสงสว่างรำไรจากไฟหน้าบ้านส่องเข้ามา อากาศกำลังหนาวเย็นชวนให้หลับสบาย อาศัยเพียงลมหนาวธรรมชาติที่พัดเสียงอู้ อู้ เข้ามาตามช่องหน้าต่างที่ปิดไว้ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ
“แก๊ก ... แอ๊ดดด” เสียงดังมาจากฝั่งหน้าต่างห้องนอน มีคนจากด้านนอกพยายามงัดเข้ามา หน้าต่างเปิดแง้มเป็นช่องเล็กๆ พอให้คนลอดผ่านเข้ามาได้ ร่างที่เห็นเป็นเงาสีดำค่อยๆ โผล่ขึ้นมา มันพยายามยกขาขึ้นพาดตรงขอบหน้าต่าง เพื่อปีนขึ้นมาข้างใน
“โอ๊ย” เสียงร้องเบาๆ เพียงครั้งเดียว ก่อนที่ร่างนั้นจะจับขอบหน้าต่างแน่นและโหนตัวขึ้นมาจนสำเร็จ จากนั้นเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่นอนคลุมผ้าห่ม จนเห็นเพียงหัวที่โผล่ออกมา หลับสนิทไม่รับรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น
“ริน” เสียงกระซิบเบา ๆ ปลุกเรียกหญิงสาวให้ตื่น แต่ร่างนั้นยังคงนอนนิ่งเงียบ ชายชุดดำจึงเอื้อมมือไปเขย่าแรงขึ้น
“ริน ... ตื่น”
“หือออ” หญิงสาวค่อย ๆ พลิกตัวงัวเงียตื่นขึ้นมา ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่ามีคนบุกรุกเข้ามาในห้องนอนของเธอ ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่การแอบเข้ามาในห้องคนอื่นยามวิกาลเช่นนี้ ย่อมมีจุดประสงค์ไม่ดีแน่นอน จึงอ้าปากจะเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมา แต่ยังไม่ทันพ้นริมฝีปาก
“ช่วย..” มือหนาของชายชุดดำยกขึ้นมาปิดปากเธอเอาไว้ทันที
“นี่พี่เอง พี่เชน” ราเชนกระซิบบอกหญิงสาวข้างหู และยังปิดปากเธอไว้ทันก่อนจะร้องออกมาให้คนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นได้ยิน และตกใจแตกตื่นเสียงร้องของนรีริน
จากทีแรกตกใจจนหัวใจเต้นรัว แต่พอรู้ว่าเป็นใครเธอยิ่งรู้สึกตื่นเต้นกว่าเดิม นรีรินพยักหน้าหงึก ๆ ส่งอาการให้รู้ว่าเธอเข้าใจแล้ว ชายหนุ่มจึงปล่อยมือ
“พี่เชน!! ทำไมมาดึกดื่นขนาดนี้ แล้วมายังไง มากับใคร นี่ถ้าพ่อรู้คงดีใจมาก” นรีรินดีดตัวลุกขึ้นนั่ง และส่งคำถามรัวเร็วด้วยความตื่นเต้นดีใจ พี่ชายที่เธอไม่ได้พบหน้ากันมาเกือบห้าปี อยู่ ๆ ก็โผล่มาไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัว หรือส่งข่าวมาบอกก่อน
“เอ่อ...พอดีมาธุระแถวนี้ กว่าจะเสร็จก็ดึก แล้วนี่พ่อไปไหน” ราเชนมาหลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของบ้านนี้ได้สักพักแล้ว เฝ้าสังเกตการณ์จนแน่ใจว่าหญิงสาวอาศัยอยู่เพียงลำพังคนเดียว
“พ่อขับรถไปส่งส้มกับอาเคนที่ท่าเรือ กว่าจะกลับรอบนี้น่าจะเป็นอาทิตย์ ถ้ารู้ว่าพี่กลับบ้าน สงสัยจะเหยียบรถกลับมาไม่พักค้างที่ไหน” เธอบอกกล่าวพี่ชายให้รู้ว่าการกลับมาของเขาทำให้ทั้งพ่อและเธอดีใจแค่ไหน
หญิงสาวหยิบเสื้อคลุมกันหนาวมาสวม ทำท่าจะลุกขึ้นจากที่นอนแต่มือหนาของพี่ชายกลับกดให้เธอนั่งลงตามเดิม
“จะไปไหน”
“เปิดไฟจ้า จะได้คุยกันและมองเห็นหน้าด้วย ไม่ได้เจอกันนานคิดถึง ว่าแต่พี่หิวไหม เดี๋ยวรินไปหาอะไรในครัวมาให้กิน” เธอไม่ได้เจอหน้าราเชนมานานก็อยากจะเห็น อยากรู้ว่าที่ผ่านเขาสุขสบายดีหรือเปล่า เปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน
“ห้ามเปิดไฟ!!” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำเอ่ยห้าม จนทำให้เธอสะดุ้งตกใจ
“เอ่อ...เอ่อ..คือมันดึกแล้ว อีกแป๊บเดียวพี่ก็ต้องไปไม่ต้องเปิดไฟก็ได้” ชายหนุ่มได้สติรีบเอ่ยแก้ให้น้องสาวเข้าใจ
“ไปไหน พี่ไม่รอเจอพ่อก่อนเหรอ” เพิ่งได้คุยกันไม่ถึงห้านาที พี่ชายที่หายตัวไปนานก็จะไปอีกแล้ว จึงทำให้เธอรู้สึกเสียดาย อยากให้ไพศาลได้เจอหน้าลูกชายบ้าง
“ไม่เป็นไรหรอกคราวหน้าพี่จะแวะมาอีก เราก็ดูแลตัวเอง และพ่อให้ดี” ชายหนุ่มยกมือขึ้นวางบนหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าใบเล็กที่สะพายติดตัว หยิบธนบัตรปึกใหญ่ออกมาหลายมัด ไม่ต่ำกว่าสามแสน ยื่นส่งให้น้องสาว
“อะไร” ความสว่างแค่เพียงสลัวๆ ทำให้เธอไม่แน่ใจสิ่งที่ราเชนวางไว้ในมือของเธอ จึงยกมืออีกข้างลูบคลำดู รู้แล้วว่าเป็นอะไร
“ทำไมมันเยอะขนาดนี้ พี่เก็บเอาไว้ใช้ดีกว่านะ รินเรียนจบแล้วกำลังหางานทำ ส่วนพ่อก็มีเงินเก็บบ้าง พวกเราไม่ค่อยได้ใช้จ่ายอะไร”
นรีรินรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณพี่ชายคนนี้ เพราะที่ผ่านเขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ลำพังเงินเดือนของไพศาล ไม่เพียงพอที่จะส่งเสียเธอ มีแค่สำหรับใช้จ่ายในบ้านทั่วไป โชคดีที่พวกเธออาศัยอยู่ในไร่ส้มภูลม มีสวัสดิการเรื่องอาหารให้กับคนงาน จึงทำให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้ แต่ก็ไม่ถึงกับมีเงินเก็บมากมาย มีเพียงเท่าที่เก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น
“ไม่เป็นไร เอาเก็บไว้ใช้เถอะ คราวนี้พี่จะลงไปทำงานทางใต้ อาจจะนานกว่าจะได้กลับมาหารินกับพ่ออีก เอาเก็บไว้ใช้ก่อน ให้ได้งานทำเมื่อไหร่ค่อยเก็บรวมกันไว้ พี่ฝากเราดูแลพ่อด้วยนะ”
“ได้จ๊ะ ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ก็ดูแลตัวเองด้วยนะ ว่างๆ ติดต่อมาบ้าง พ่อจะได้ดีใจ”
“ให้อะไรเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย แล้วจะติดต่อมา ... พี่คงต้องไปแล้ว” นรีรินได้ยินว่าราเชนจะไปแล้วก็อดใจหายไม่ได้ เธอยื่นมือเข้าไปกำลังจะสวมกอด แต่ชายหนุ่มขยับเบี่ยงตัวออกเหมือนกำลังจัดกระเป๋าสะพายให้เข้าที่เข้าทาง
“ขอให้พี่เดินทางปลอดภัยนะ” หญิงสาวลุกขึ้นจากที่นอนคลำทาง เดินจะไปส่งราเชน
“อืม” ราเชนส่งเสียงตอบรับเบา ๆ และเคลื่อนตัวกลับทางเดิมอย่างเงียบกริบ
นรีรินเดินไปถึงประตูห้องนอนเพื่อจะส่งราเชน ในใจอยากขอร้องให้อยู่รอไพศาลก่อน แต่พี่ชายเธอก็เป็นแบบนี้ ตั้งแต่ไปทำงานครั้งแรกกว่าจะแวะมาหาพวกเธอได้เป็นปี พอมาก็แค่ประเดี๋ยว จากนั้นก็หายเข้ากลีบเมฆ ติดต่อกลับไม่ได้ ทั้งที่รู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอกับพ่อ แต่ไม่ยอมส่งข่าวคราวมา
“พี่....”