"เจ็บชะมัด" ไฟท์เตอร์นั่งมองนิ้วมือข้างขวาที่ในตอนนี้กลายเป็นแผลเหวอะเพราะโดนหญิงสาวกัดเข้าให้ในตอนที่เขาพยายามจะเอามือไปปิดปากไม่ให้เสียงร้องของเธอเล็ดลอดออกมา
"ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอยังเวอร์จิ้นอยู่" มุมปากหยักยกยิ้มด้วยความพึงพอใจเมื่อคิดไปถึงเรื่องที่ว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกของสาลี่
เสียงร้องเล็กๆ ที่แทรกผ่านประตูห้องน้ำมาทำให้เขารู้ตัวว่าในตอนนี้สาลี่คงจะตื่นขึ้นมาแล้ว
"อยู่นิ่งๆ" เสียงเข้มระคนตวาดดังขึ้นทำเอาสาลี่ที่กลัวเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแทบจะไม่กล้าหายใจ
สาลี่เลือกที่จะเมินภาพคนที่ขืนใจเธอเมื่อคืนที่กำลังใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดให้เธออยู่ในตอนนี้อย่างไม่อยากจะมอง
"ฉันจะไม่แจ้งความเอาผิดนาย ส่วนนายก็อย่าคิดที่จะเข้ามาวุ่นวายกับฉันอีก"
มือเล็กกระซับเสื้อยืดตัวโคร่งของไฟท์เตอร์เข้าหาตัว แม้จะรู้สึกเย็นวาบตรงช่วงล่างเพราะชุดชั้นในของเธอถูกเขาฉีกจนขาดวิ่นไปเสียตั้งแต่เมื่อคืนก็ตามที หากแต่มันก็คงจะดีซะกว่าการเดินออกไปจากห้องของเขาในสภาพตัวเปล่าเล่าเปลือย
"ถ้าหากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปช่วยเปิดประตูให้ฉันด้วย"
"ฉันมีอะไรที่อยากจะเตือนเธออยู่สามข้อสาลี่"
ไฟท์เตอร์แสร้งหูทวนลมกับประโยคก่อนหน้าของหญิงสาวก่อนจะเอ่ยแทรกขึ้น
"หนึ่งคืออย่าให้ฉันเห็นว่าเธอเข้าไปหาผู้ชายในบาร์โฮสต์อีกนับตั้งแต่ชั่วโมงนี้เป็นต้นไป สองคือเลิกใส่เสื้อผ้าทุเรศๆ แบบเมื่อคืนซะสามคือฉันเป็นผัวเธอและเธอเป็นเมียฉัน"
"ทุเรศ! แค่ได้กันอย่าแม้แต่จะคิดที่จะเอาฐานะผัวมายัดเยียดให้ฉัน! ฉันพึ่งอายุสิบหกแล้วนายละสามสิบได้แล้วมั้งน่ะ แก่ๆ อย่างนายฉันไม่เอาหรอกย่ะ"
"งั้นก็ช่วยจำไว้ให้ขึ้นใจว่าถ้าหากเธอฝ่าฝืนกฎเมื่อไหร่ฉันฟ้องหย่าทันที" ไฟท์เตอร์ยกยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะยื่นใบทะเบียนสมรสของเขาและเธอมาตบหน้าหญิงสาว
"พอจะจำได้หรือยังว่าเธอเป็นคนเซ็นชื่อของเธอลงไปเอง"
"ทุเรศ!ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะนายที่ไม่ยอมเอาของตัวเองออกไปจากตัวฉันแล้วบีบบังคับให้ฉันเซ็นทั้งที่ตัวนายยังคาอยู่ในตัวฉันไม่ใช่หรือไง"
ในตอนนั้นเธอเจ็บปวดช่วงล่างไปหมดด้วยว่าถูกเขาบังคับให้ร่วมรักด้วยถึงหลายชั่วโมงติดๆ กันจนเธอต้องเอ่ยปากร้องขอชีวิตโดยเสนอให้เขาร้องขออะไรจากเธอก็ได้หนึ่งอย่าง
เขาขอให้เธอเขียนชื่อตัวเองลงในกระดาษเปล่าใบหนึ่งคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าวันนี้ลายมือชื่อของเธอจะมาประดับอยู่บนใบทะเบียนสมรส
"แล้วไงยังไง? ก็เท่ากับว่าเธอเป็นเมียฉันแล้วอยู่ดีสาลี่" ไฟท์เตอร์ตีหน้าตายและเดินไปเปิดประตูให้กับสาลี่
"เชิญ"
หมับ!
"นี่! ปล่อยนะฉันจะกลับบ้านของฉัน นายจะเอาอะไรจากฉันนักหนาไฟท์เตอร์"
"ฉันคงไม่ต้องตอกย้ำสามข้อก่อนหน้าเป็นครั้งที่สองกับเธอใช่ไหมสาลี่?"
"ฉันรู้แล้ว"
สาลี่ว่าและค่อยๆปลดเงื้อมมือปลาหมึกให้ออกห่างจากตัวเอง
และแน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้คิดที่จะทำตามที่เขาสั่งอย่างที่เธอเอ่ยรับปาก...
Cupcakes Bekery
"สาลี่คืนนี้กูว่าจะไปเที่ยวผับพ่ออีแซนสักหน่อย มึงไปป่ะ"
"ไป"
สาลี่เอ่ยตอบวีวี่เสียงเบาจนแทบจะกระซิบอย่างระมัดระวังเพราะไฟท์เตอร์กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามนั่นเอง
"อะไรนะ" วีวี่ผู้ซึ่งมีปัญหาทางหูถามย้ำสาลี่อย่างไม่ค่อยแน่ใจในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
"ไม่ไปจริงเหรอวะเห็นอีซันมันบอกว่าพี่เมทัลที่มึงชอบมาเที่ยวด้วยนะ"
"เอ๊ะอีนี่! กูเปล่าชอบเมทัลสักหน่อยมึงมั่วแล้ว" สาลี่รีบปฏิเสธเสียงดังด้วยกลัวว่าจะโดนสามีตีทะเบียนมุ่งเข้ามาขยุ้มหัว
"กูเปล่ามั่ว" วีวี่ผู้ที่ไม่รู้อะไรบ้างเลยเอ่ยขึ้นพลางควานหามือถือที่อยู่ในกระเป๋า
"นี่ไงมึงดูมึงยังพิมพ์มาบอกกูอยู่เลยว่าอยากได้พี่เมทัลเป็นผัว ละยังซูมรูปเป้าพี่เขามาวิจารณ์ขนาดกับกูอีกต่างหาก"
"อีวีวี่! ผีมันเจาะปากมึงมาพูดใช่ไหมอีห่า! เงียบเดี๋ยวนี้!"
"อ้าว! ทำไม? เราก็คุยกันเรื่องเป้าผู้ชายเป็นเรื่องปกติปะ"
วีวี่ว่าอย่างไม่เข้าใจในปฏิกิริยาแปลกประหลาดของสาลี่ ด้วยว่าปกติหล่อนนั้นชอบที่จะพูดถึงขนาดของอวัยวะเพศของพวกผู้ชายจะตายไป
"กูกลับแล้วไปก่อนนะ"
"สาลี่ อีสาลี่! อ้าวอะไรของมันวะ"
ตุ๊บ!
"ขอโทษ ฉันขอโทษ ยอมรับว่าฉันเคยซูมดูเป้าพี่เมเขาจริงๆอย่าทำอะไรฉันเลย"
"สาลี่! นี่กูเอง แซนดี้ แล้วทำไมมึงลนขนาดนั้นวะรีบไปตายรึไง" สาลี่มองหน้าเพื่อนสาวผู้ซึ่งหลงรักไฟท์เตอร์ที่เป็นสามีตีทะเบียนของเธอด้วยความรู้สึกผิดจับใจ
ถ้าหากแซนดี้ได้รับรู้เรื่องระหว่างเธอกับไฟท์เตอร์ขึ้นมาเธอก็คงจะสูญเสียเพื่อนดีๆอย่างแซนดี้ไปตลอดกาล...
"กูปวดขี้น่ะอีแซนกูไปก่อนนะ"
"อะไรของมันวะ"
"ไฟท์เตอร์!" เพราะมัวแต่ยืนสนทนากับแซนดี้จึงทำให้สาลี่หลบหนีไฟท์เตอร์ได้อย่างไม่ทันการณ์
"เธอรับปากเพื่อนเธอว่าเธอจะไปที่ไหนนะสาลี่?"
"ฉันเปล่า ฉันแค่บอกวีวี่ว่าฉันไม่ไป" สาลี่ก้มหน้าลงอย่างไม่กล้าสบตาด้วยรู้ดีว่าไฟท์เตอร์นั้นหูดีมากแค่ไหน
"ออกไปจากมอไซค์ฉันด้วยฉันจะกลับบ้าน"
"ถ้าเธอยืนยันอย่างนั้นมันก็เป็นผลดีกับเธอเอง" ไฟท์เตอร์ยอมหลีกทางให้หญิงสาวโดยง่ายก่อนจะเดินกลับไปยังรถของตัวเองที่อยู่ใกล้กัน
SunnyBright Club
"อีวีวี่ต้องล้อกูแน่ๆ"
สาลีก้มลงมองตัวเองในชุดกางเกงสแลคสีดำกับเสื้อไหมพรมคอเต่าแขนยาวด้วยความรู้สึกอนาจใจ เพราะความกลัวว่าวีวี่นั้นจะโกรธเคือง สาลี่จึงจำต้องฝ่าฝืนกฎข้อตกลงของไฟท์เตอร์ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเลือกที่จะไม่แต่งกายล่อแหลมตามข้อตกลงของชายหนุ่มอยู่
เขากะคงไม่โกรธเธอหรอก...มั้งนะ
ลูกหลานมัลลิกาดื้อทุกคนไม่ต้องสืบ😆