"อาบน้ำแต่งตัวซะสาลี่ แล้วฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้านของเธอ" ไฟท์เตอร์ผลักหัวทุยเล็กนั้นอย่างแรงจนหัวของหญิงสาวกระแทกเข้ากับหัวเตียงเสียเต็มแรง
"อ๊ะ.." สาลี่พยายามที่จะข่มความรู้สึกเจ็บปวดตรงช่องทางรักที่มีเลือดไหลซึมออกมาอย่างไม่ขาดสาย ก่อนจะพยุงร่างกายของตัวเองเพื่อไปทำธุระส่วนตัวภายในห้องอาบน้ำภายในห้องนอนของอนุชัย
"ทำไมมันปวดอย่างนี้..." สาลี่กอบกุมช่วงท้องน้อยของตัวเองที่เจ็บปวดดั่งโดนบีบรัดเอาไว้ ก่อนจะเปิดน้ำจากฝักบัวเพื่อล้างคราบเลือดออกไปจากสองขาอย่างกล้ำกลืนฝืนทนต่อความรู้สึกเจ็บปวดที่กำลังเผชิญ
"ทนหน่อยอีสาลี่ ทนเอาหน่อย"
หลังจากใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานนับครึ่งชั่วโมง ในที่สุดสาลี่ก็จัดการคราบเลือดตรงระหว่างสองขาออกไปเสียจนหมดสิ้น โดยไม่ลืมที่จะสวมใส่ผ้าอนามัยเอาไว้เพื่อรองรับมวลเลือดสีสดที่ยังคงไม่มีท่าทีว่าจะหยุดหลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเธอ...
"อ้าว...ดาวเรือง" สาลี่รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เปิดประตูห้องอาบน้ำออกมาแล้วพบร่างเล็กของดาวเรืองกำลังนั่งอยู่บนพื้นพรมพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางของเธอที่ถูกวางเอาไว้ข้างๆ กัน
"คูโซวุกะคูวิลารอคูสุนิสายู่ด้าล่าแล้ข่า" (คุณทรงวุฒิกับคุณวิไลรอคุณสุนิสาอยู่ด้านล่างแล้วค่ะ)
"คุณพ่อ! คุณแม่!" สุนิสาที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้แทบจะไม่อยู่ในทันที ก่อนจะรีบใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกไปในนาทีต่อมา เมื่อคิดขึ้นได้ว่าพ่อกับแม่อาจจะรู้สึกไม่สบายใจที่ได้เห็นใบหน้าเปื้อนรอยน้ำตาของเธอ
"คุณพ่อสวัสดีค่ะ คุณแม่สวัสดีค่ะ พี่สันต์..." สาลี่ที่ได้เห็นรอยยิ้มที่แสนจริงใจที่คมสันต์ส่งมาให้ก็แทบจะร้องไห้ออกมาอีกระลอกอย่างหักห้ามตัวเองเอาไว้ไม่ได้
"ผมต้องการคำตอบเรื่องนี้ครับอาจารย์อนุชัย" ทรงวุฒิตบมือลงบนโต๊ะอย่างยอมรับไม่ได้ที่ทางไร่กาแฟของอนุชัยไม่ยินยอมที่จะให้คมสันต์เข้ามาในไร่เพื่อดูแลลูกสาวของเขาตามที่เขาและภรรยาได้ตั้งใจเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้
"ทำไมลูกเขยของผมเขาถึงต้องไปพักอยู่ไกลถึงอำเภอบ่อเกลือทั้งที่ไร่กาแฟของคุณมันตั้งอยู่ที่อำเภอท่าวังผา!" ทรงวุฒิตวาดดังลั่นอย่างยอมรับไม่ได้กับความไม่มีคุณภาพในต้อนรับแขกอย่างเห็นได้ชัดของบ้านไร่อนุชัย
"ทางไร่ของเราไม่อนุญาติให้คนนอกเข้ามาเพื่อป้องกันความวุ่นวายครับคุณทรงวุฒิ อีกอย่าง...ทางเราก็ได้ทำการเลี้ยงดูปูเสื่อคุณคมสันต์เป็นอย่างดี ขอให้คุณทรงวุฒิอย่าได้ขุ่นใจเราไปเลย" ไฟท์เตอร์ว่าอย่างประชดชันขณะที่ซี่ฟันของชายหนุ่มก็ขบกัดเข้าหากันอย่างแรงเพราะความโมโหที่ทรงวุฒิแทนตัวคมสันต์ว่าเป็นลูกเขย
"เจ้าสันต์เขาไม่ใช่คนนอก เขาคือแฟนของลูกสาวผมและทั้งคู่ก็กำลังจะหมั้นหมายกันในไม่เกินหนึ่งเดือนข้างหน้านี้!" ทรงวุฒิกระแทกกระทั้นใส่อนุชัยก่อนจะตรงไปสวมร่างเล็กของบุตรสาวในทันทีที่สังเกตได้ว่าเธอกำลังร้องไห้ด้วยความเสียใจเพราะเรื่องบางอย่างอยู่
"ใครทำแกสาลี่ บอกพ่อมา"
"สาลี่แค่คิดถึงคุณพ่อ คุณแม่กับพี่สันต์ค่ะ สาลี่คิดถึงบ้านด้วยเพราะไม่เคยห่างจากบ้านมาไกลมากขนาดนี้ สาลี่ก็เลยร้องไห้ค่ะคุณพ่อ" จบคำพูดของลูกสาวทรงวุฒิก็รีบยกมือขึ้นมาลูบหัวทุยเล็กนั้นอย่างรู้สึกเอ็นดูในทันที
"พ่อมารับแล้วนะ ตอนแรกก็ว่าจะมาอาทิตย์หน้านั่นแหละแต่ดันมารู้เรื่องที่เจ้าสันต์ถูกส่งตัวไปพักผ่อนอยู่ไกลถึงอำเภอบ่อเกลือเอาซะก่อน" ดวงตาคมกริบตวัดขึ้นมองอย่างเอาเรื่องอนุชัย เมื่อนึกไปถึงตอนที่ว่าที่ลูกเขยของตัวเองพลั้งปากพูดออกมาว่าไม่ได้พักอยู่กับสุนิสาอยู่ที่บ้านไร่อนุชัยอย่างที่ควรจะเป็น
"กลับกันเถอะทรงวุฒิ วันนี้คุณมีประชุมนะ" วิไลลูบต้นแขนของสามีเบาๆ เชิงบอกกลายๆ ว่าให้ทรงวุฒินั้นใจเย็นลงมากกว่านี้
"กลับกันเถอะเจ้าสันต์ สาลี่...แกเดินไหวไหมทำไมขาแกมันถึงสั่นขนาดนั้น หรือว่าแกหิว"
"สันต์อุ้มน้องเองครับคุณพ่อ" คมสันต์อาสาตัวเองก่อนจะตรงเข้ามาช้อนร่างเล็กของสุนิสามาไว้ในท่าเจ้าสาว อย่างไม่ติดที่จะสนใจแววตาอาฆาตมาดร้ายที่อนุชัยกำลังจดจ้องมองมายังเขา
"ขอบคุณค่ะพี่สันต์" สาลี่ยกมือขึ้นกราบอกของชายที่เธอรักเสมือนพี่ชายร่วมสายเลือด ก่อนที่นาทีต่อมาหญิงสาวจะหมดสติไปในวงแขนของคมสันต์
"สาลี่!" วิไล ทรงวุฒิ คมสันต์ หรือแม้กระทั่งตัวต้นเหตุอย่างอนุชัยเอง ต่างพากันร้องตะโกนออกมาดังลั่นที่ได้เห็นว่าสุนิสาเป็นลมหมดสติไปต่อหน้าต่อตา
"อย่ามายุ่งกับลูกสาวของผม เจ้าสันต์ รีบพาสาลี่ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเดี๋ยวนี้ วิไล! ไป" ทรงวุฒิผลักไฟท์เตอร์ที่หมายจะเข้ามาโอบอุ้มลูกสาวของเขาออกไปให้ห่าง ก่อนจะหันมาออกคำสั่งกับคมสันต์พลางยกร่างเล็กของภรรยาขึ้นมาไว้ในอ้อมอกและรีบวิ่งตามคมสันต์ออกไปในทันที
"สาลี่! แกต้องไม่เป็นอะไรนะลูก พ่อจะพาแกไปโรงพยาบาลนะ ไอ้เชิด! ขับเร็วๆ หน่อย" ทรงวุฒิเลื่อนตัวไปลูบแก้มซีดเซียวของลูกสาวที่อยู่ในวงแขนของคมสันต์อย่างรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาว่าลูกสาวเพียงคนเดียวของเขากับภรรยานั้นจะเป็นอะไรไป
"เพราะฉันเองทรงวุฒิ ฉันมันขี้โรคซ้ำยังกลัวเครื่องบิน เราเลยมารับตัวลูกสาวของเราได้ช้าจนลูกสาวของเราต้องตกมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ฮือ... ฮึก..."
"วิไล ไม่โทษตัวเองนะ ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุคุณทำใจดีๆ เอาไว้นะ" ทรงวุฒิกอบกุมมือเล็กของภรรยามาไว้แนบอกอย่างให้กำลังใจอย่างไม่ปรารถนาที่จะได้เห็นเธอเป็นลมหมดสติไปอีกคน
"ถึงรึยังไอ้เชิด!" สิ้นคำถามของทรงวุฒิ รถตู้คันหรูของบ้านบริบูรณ์ทินยไทก็เทียบเข้ากับบริเวณทางเข้าไปยังห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในทันที
"ญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะ"
กรรมของน้องลี่ มีผัวแบบอีไฟท์ 🥹🥹🥹