หลังจากที่โครงการวิชาพฤกษศาสตร์เบื้องต้นและการนำเสนอโครงการหน้าชั้นเรียนผ่านไปได้ด้วยดี ในวันนี้ สาลี่ แซนดี้และวีวี่จึงได้นัดแนะกันมานั่งดื่มสังสรรค์เพื่อเป็นการเลี้ยงฉลอง
Event Club (คลับอีเว้นท์)
"สวัสดีค่ะน้าอั๋น" สาลี่ยกมือไหว้ชายหนุ่มที่มีศักดิ์เป็นป๊าของ 'เพราะรัก ศรันย์ติณห์ยคุณ' ผู้ซึ่งเป็นมิตรสหายของตนอีกคนหนึ่ง
"วันนี้น้าอั๋นขออนุญาตไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดให้กับสาลี่และเพื่อนๆ นะครับ เพราะทั้งสามคนอายุยังไม่ถึงสิบแปดปี" หลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้นที่ทั้งสามคนต่างก็เมามายไม่ได้สติ ประกอบกับ 'อนุชิต ศิระศิลป์ธิญพล หรือเฟียสต้า' พี่ชายฝาแฝดของไฟท์เตอร์นั้นได้เดินทางมาร้องขอให้เจ้าของคลับอย่างเขาลดละและเลิกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับทั้งสามคนที่อายุไม่ถึงสิบแปดปีเสียที แม้ทั้งสามนั้นจะเป็นคนสนิทของลูกสาวของเขาก็ตาม...
"ค่ะ..." สาลี่มีใบหน้าที่เจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ว่าสราวุธนั้นดูเคร่งขรึมเสียจนสิ้นคราบความขี้เล่นเป็นกันเองอย่างเช่นที่เคย...
"อย่างน้อยๆ น้าอั๋นแกก็ไม่ได้ห้ามเราเต้นปะ" วีวี่ที่ถึงแม้จะยังรู้สึกเสียดายที่ตัวเองและผองเพื่อนไม่มีโอกาสจะได้ลิ้มรสบรั่นดีชั้นเลิศจากคลับของสราวุธ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังพยายามปั้นแต่งให้สถานการณ์ของเธอกับเพื่อนๆ มีสีสันโดยการหันไปวาดลวดลายท่าเต้นอยู่หน้าเวทีแทน....
เอวบางร่างน้อยของสาลี่โยกย้ายซ้ายขวาไปตามจังหวะเพลงที่ดีเจของคลับเป็นคนบรรเลงมา ภายในหัวสมองของหญิงสาวมันช่างปลอดโปร่งเสียสนทำให้เธอสามารถที่จะหลงลืมชีวิตที่แสนทุกข์ระทมไปได้ในชั่วขณะหนึ่ง...
"อีสาลี่ กูกับอีวีวีจะไปเยี่ยว มึงไปด้วยปะ" สาลี่ที่กำลังมัวเมาอยู่กับดนตรีสามช่าส่ายหัวให้กับเพื่อนเป็นคำตอบ ก่อนที่เธอจะเห็นว่าคนทั้งคู่ได้พากันเดินหายเข้าไปในห้องน้ำหญิงแล้วเป็นที่เรียบร้อย...
'คุณพ่อ'
"หือ..." สาลี่ถึงกับยกมือขึ้นขยี้ดวงตาเมื่อได้เห็นว่าเป็นใครที่โทรศัพท์มาหาเธอในช่วงกลางดึกของวันนี้
(แกอยู่ไหนสาลี่)
(คลับค่ะคุณพ่อ แต่สาลี่ไม่ได้ดื่มค่ะ)
(ฉันถึงไม่ได้อยากมีลูกสาวยังไงละ! เพราะมันเป็นแบบนี้นี่ไงเล่าสาลี่! ทำไมแกถึงยังทำตัวเหลวไหลไม่เลิกทั้งๆ ที่แฟนของแกยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแต่แกกลับเอาเวลาไปเที่ยวคลับนะเหรอ!)
(สาลี่ กลับบ้านเถอะลูก พ่อเขาเป็นห่วง/ผมไม่ได้เป็นห่วง คุณอย่ามามั่วนะวิไล!)
(สาลี่จะรีบกลับค่ะ)
บ้านบริบูรณ์ทินยไท
"คุณจะไปไหนวิไล" ทรงวุฒิที่สังเกตเห็นว่าภรรยากำลังจะเดินออกห่างไปจากตัวก็รีบเอ่ยปากขึ้นมาในทันที
"ฉันจะไปนั่งพักทรงวุฒิ ฉันเหนื่อย ฉันเบื่อและฉันก็ไม่อยากที่จะคุยกับคุณในตอนนี้" วิไลว่าอย่างน้อยอกน้อยใจทุกครั้งที่สามีกล่าววาจาด้อยค่าสาลี่เพียงเพราะว่าเธอเป็นลูกสาว...
"ทำไมคุณถึงไม่อยากคุยกับผมวิไล ผมทำผิดอะไร ผมก็แค่โทรตามให้ลูกสาวของคุณกลับบ้าน" แม้จะเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างแล้วว่าตัวเองนั้นผิดพลาดในเรื่องอะไรไป แต่...คนอย่างทรงวุฒินะหรือที่จะยินยอมรับผิดแต่โดยดีก่อนที่จะกล่าวโทษคนรอบข้าง...
"คุณเคยรักลูกสาวของเราบ้างไหมทรงวุฒิ แล้วคุณเคยรักฉันบ้างหรือเปล่า คุณรู้ไหมว่าถ้าหากฉันขอพรได้สิ่งแรกที่ฉันจะขอนั้นคืออะไร ฉันจะขอให้ฉันตายไปเสียตั้งแต่ตอนที่พ่อกับแม่ของฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่ารักษาโรคเวรตะไลนี้ให้กับฉัน ขอให้ฉันตายไปก่อนที่ฉันจะได้มาพบกับคุณ ขอแค่ฉันตายสาลี่เองก็คงจะไม่ต้องเกิดมามีชีวิตที่ทุกข์ระทมอย่างที่เธอกำลังเผชิญ" วิไลว่าอย่างด้วยความรู้สึกของหัวอกคนเป็นแม่ที่ต้องเจ็บปวดรวดร้าวทุกครั้งที่คนเป็นพ่อกล่าววาจาราวกับว่าสาลี่นั้นไม่ใช่ลูกสาวโดยสายเลือดเดียวกันกับเขา...
"ฉันอยากจะเลิกรักคุณทรงวุฒิ และฉันก็เกลียดตัวเองที่เลิกรักคุณไม่ได้เสียที"
"ไปนอนได้แล้ววิไล คุณไม่ควรนอนดึก" ทรงวุฒิเลือกที่จะมองข้ามสารพันคำตัดพ้อของภรรยาก่อนจะออกปากเชิงขับไล่ให้หญิงสาวนั้นเข้านอน
"ฉันจะรอลูกสาวของฉันทรงวุฒิ คุณง่วงนักก็เชิญคุณเข้านอนไปก่อนได้เลย" วิไลว่าอย่างประชดประชัน ด้วยเธอรู้ดีว่าถ้าหากเธอไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ทรงวุฒินั้นจะไม่มีทางที่จะนอนหลับสนิทได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว...
"อยากรอก็รอไปสิ ผมจะรอด้วย อีกอย่างจะขอบอกให้คุณรู้ไว้นะว่าอย่าคิดว่าผมไม่กล้าที่จะอุ้มคุณเข้านอนนะวิไล อย่ามาประชดผม"
"กลับมาแล้วค่ะ" สาลี่เองก็รีบเดินทางกลับในทันทีเช่นเดียวกันที่ผู้เป็นแม่นั้นร้องขอ
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่ สาลี่ขอโทษที่ทำให้ต้องเป็นห่วงค่ะ"
"เลิกๆ ซะบ้างนะสาลี่ อย่างน้อยๆ ตอนนี้แกก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แกควรให้เกียรติเขา เหมือนที่แม่แก...ทำกับฉัน" เหตุผลอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ทรงวุฒินอกใจภรรยาของตัวเองไม่ลง ก็คงจะเป็นเพราะความดีงามของเธอนี่เอง...
"แต่คุณเองไม่เคยคิดจะทำกับฉันถูกไหมทรงวุฒิ"
"อย่างน้อยๆ ผมก็ซื่อสัตย์กับคุณ และไม่เคยคิดที่จะมีบ้านเล็กบ้านน้อยให้คุณต้องกลายมาเป็นเมียหลวง" ทรงวุฒิว่าอย่างพยายามยกความดีความชอบอันน้อยนิดที่ตัวเองมีขึ้นมากล่าวอ้าง
"มันจะฟังดูเท่กว่านี้ถ้าคุณไม่เคยที่จะคิดและไม่เคยที่จะทำร้ายร่างกายของฉัน" วิไลว่าอย่างเริ่มเย็นชา และประโยคนี้ของเธอมันก็ทำให้ม้าแก่จอมพยศอย่างทรงวุฒิยอมสงบปากสงบคำของตัวเองไปแต่โดยดี...
"เข้านอนเถอะลูกสาลี่ เห็นหมอเขาโทรมาบอกแม่ว่าพรุ่งนี้เจ้าสันต์เขาได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ลูกจะได้ไปรับเจ้าสันต์เขา"
"ค่ะ...คุณแม่"
สาลี่ต้องเติบโตมากับสภาพแวดล้อมแบบไหนกันนะ 🥹🥹🥹