เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง หมอประจำตัวของแสงฉายก็เดินทางมาถึงพร้อมกับพยาบาลหนึ่งคน เธอจึงให้หมอรีบทำการรักษาในทันที ส่วนตัวเองก็ออกมารอหน้าห้องกับลูกน้อง เพื่อให้หมอทำงานได้อย่างสะดวก
“นายหญิงครับ” วสินเรียกเพื่อที่จะถาม
“มีอะไรเหรอคะ” แสงฉายถามกลับทันที
“ฝรั่งคนนี้ ทำไมเราถึงพบเขาที่ริมลำธารในสภาพสวมสูท ไม่ใช่ชุดเล่นน้ำ หรือชุดแบบคนมาเที่ยว” วสินเริ่มต้นยิงคำถามที่สงสัยในทันที ซึ่งเขาวิเคราะห์เหมือนกับเธอนั่นแหละ
“ไม่รู้สิคะ แสงก็วิเคราะห์แบบพี่สินนี่แหละ” แสงฉายปฏิเสธเสียงเรียบ
“เดาว่าตกหน้าผาตรงน้ำตกรึเปล่าครับ แล้วไหล่ตามน้ำมาเรื่อยๆ”
“แสงก็เดาว่าน่าจะอย่างนั้น ไม่น่าจะพลัดตกลงมาเอง เพราะใบหน้า ร่างกาย มีรอยฟกช้ำหลายแห่งเหมือนถูกใครทำร้ายมา เป็นไปไม่ได้ที่จะกระแทกหินใต้น้ำ ไม่งั้นป่านนี้ก็ตายไปแล้วเพราะผาตรงต้นน้ำมันสูง” แสงฉายให้ความเห็นซึ่งสอดคล้องกับวสิน ในขณะที่เธอกำลังมองหมอให้การรักษาอยู่
“ถูกทำร้ายร่างกายเหรอครับ” วสินย้ำคำและอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าชายหนุ่มเป็นใครกันแน่ คนดีหรือคนร้าย
“ใช่ค่ะ พี่สินก็น่าจะดูออกนะคะรอยพวกนี้น่ะ” จะบอกว่าเขามักสร้างรอยแผลแบบนี้ให้คนอื่นเสมอสินะ
“พูดอย่างกับว่าผมเป็นคนที่ชอบสร้างรอยแผล” เขาแซวกลับ
“เมื่อก่อนก็เห็นห่ามๆ” เธอว่ายิ้มๆ
“แต่เดี๋ยวนี้แก่แล้วมีเหตุผลมากขึ้นครับ”
“ให้มันจริงเถอะค่ะ” เธอว่าอีกครั้งก่อนจะยิ้มมุมปาก แต่จังหวะที่เธอกำลังคุยกับวสินอยู่นั้น หมอที่ให้การรักษาอยู่สักพักหนึ่ง ก็หันหน้ามาหาเธอ
“เป็นยังไงบ้างคะหมอ” แสงฉายถามพลางเดินเข้ามา
“ร่างกายฟกช้ำครับ หลายที่ คล้ายกับถูกทำร้ายร่างกายมา ปากแตก ศีรษะมีแผล ส่วนลำตัวมีรอยถลอกเล็กๆ มีเลือดนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเป็นรอยอะไร แต่ว่าหมอจัดการให้หมดแล้ว จะเหลือก็แต่ช้ำในล่ะมั้ง แต่ทางที่ดีหมอว่าน่าจะพาไปโรงพยาบาลเพื่อเอ็กซ์เรย์นะ เผื่อมีอะไรผิดปกติมากกว่านี้” หมออธิบายด้วยความเป็นห่วง
“คือ เขาเป็นคนแปลกหน้าค่ะ เขาตกน้ำมาแสงก็เลยช่วยเอาไว้ และยังไม่อยากให้ใครรู้ เอ่อ ก็เลยต้องเชิญคุณหมอมานี่แหละค่ะ อยากปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน แสงคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นอะไรมาก อีกอย่างแสงไม่อยากให้ใครถาม ยังไงก็ให้รักษาตัวที่นี่จะดีกว่านะคะ แค่อยากรบกวนคุณหมอมาตรวจเท่านั้นเอง ได้ไหมคะ” ที่พูดมาทั้งหมดเธอไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านน่ะสิ แต่คนระแคะระคายกันแล้วล่ะ
“แต่อย่างไรเสียก็ต้องได้รับการดูแลจากหมอเป็นอย่างดีนะครับ เพราะคนไข้ค่อนข้างเจ็บอยู่”
“ก็คุณหมอนั่นแหล่ะค่ะ คุณหมอมาดูอาการทุกวันก็ได้นี่คะ หรือแสงจะดูอาการช่วย จะเป็นพยาบาลให้ ถ้าหากเขามีอาการหนัก จะพาไปโรงพยาบาลเองนะคะ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายคุณหมอไม่ต้องห่วงเลย” คนหัวดื้ออย่างเธอหมอคงต้องยอมสินะ
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ถ้าจะดูแลเขา หมอจะบอกว่าต้องทำอะไรยังไงบ้างนะครับ”
“แล้วตอนนี้คุณหมอทำอะไรกับคนไข้บ้างคะ”
“เย็บแผลที่ศีรษะแล้วก็ทำความสะอาดแผลอื่นๆ เอ่อ หมอจะให้ยาเอาไว้นะ ทั้งทานแล้วก็ทาแก้ช้ำ เดี๋ยวจะเขียนรายละเอียดให้ จัดให้เขากินตามที่หมอบอกก็แล้วกันครับ”
“ค่ะขอบคุณนะคะคุณหมอ”
“ถ้าอย่างนั้นหมอขอตัวกลับนะครับ แต่อย่าลืมว่าถ้าเขาไม่ดีขึ้นให้รีบพาไปหาหมอนะครับ”
“ได้ค่ะ สวัสดีค่ะ เอ่อ พี่สินไปส่งคุณหมอทีนะคะ แสงขออยู่ดูเขาก่อน”
“ได้ครับนายหญิง เชิญครับคุณหมอ” วสินรับคำ จากนั้นเขากับลูกน้องก็พากันลงไปส่งหมอ ตามคำสั่งของเจ้านายสาวทันที ปล่อยให้แสงฉายอยู่ในห้องเพียงลำพังกับหนุ่มนิรนามแปลกหน้า ที่ยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า มีเพียงผ้าเช็ดตัวและผ้าห่มคลุมกายเท่านั้น
“คุณถูกทำร้ายร่างกายมาอย่างนั้นหรือ” แสงฉายอดถามไม่ได้ ก่อนจะหันไปดูตรงข้างหมอน ซึ่งหมอได้วางยาเบื้องต้นเอาไว้ จากนั้นเธอก็จัดยาเพื่อรอคนสลบให้ฟื้นขึ้นมา พอเรียบร้อยแล้วเธอจึงลงไปหาวสินและลูกคนน้องอื่นๆ เพื่อตกลงอะไรบางอย่าง
“พี่สิน เรื่องที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในบ้าน อย่าเพิ่งบอกใครนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน” แสงฉายเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“แล้วถ้าเขาเป็นคนอันตรายล่ะครับจะทำยังไง ต้องมีเรื่องมาก่อนหน้านี้แน่ๆ ไม่งั้นคงไม่อยู่ในสภาพที่ถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้” วสินว่า
“มีอยู่ไม่กี่อย่างให้คิดวิเคราะห์คือ ไม่ดีก็เลว หรือเทา ๆ เขาอาจจะเป็นคนไม่ดี ถูกตามเก็บและหนีมา หรือ เขาอาจจะเป็นคนดีมากๆ แต่ถูกหักหลังจากผู้ไม่หวังดีก็เป็นได้” แสงฉายให้ความเห็น
“ผมว่านายหญิงดูละครมากไป” วสินอดแซวไม่ได้
“แสงไม่ค่อยได้ดูละครเลยต่างหาก แต่นี่คิดตามความน่าจะเป็น เขาถูกทำร้ายร่างกายก่อนจะตกลงมาจากหน้าผาแน่นอนค่ะ เป็นไปไม่ได้ถ้าจะตกลงมาเอง ใส่สูทเต็มยศขนาดนี้ ร่างกายมีรอยถูกทำร้ายด้วย”
“อันนี้ผมเข้าใจครับ ถ้าเขาเป็นอย่างที่นายหญิงวิเคราะห์ เขาก็อาจจะเป็นคนอันตราย ไม่ว่าเขาจะดีหรือเลว แต่คนที่ทำร้ายเขา ก็ไม่ใช่คนดีแน่ๆ และถ้ารู้ว่าเขารอดชีวิตล่ะก็ ถูกตามล่าแน่ อันนี้น่ากลัวนะครับ”
“นั่นสิ แสงถึงไม่อยากให้บอกใคร รู้กันเฉพาะในคนสนิทของพวกเราได้ไหม เพราะน่าจะเห็นกันแล้ว แต่ในส่วนของฝั่งโน้นอย่าให้รู้เป็นอันขาด แสงรำคาญ”
“แม้กระทั่งพ่อเลี้ยงเหรอครับ” พอพูดถึงพ่อเลี้ยง แสงฉายก็เงียบแล้วก็ถอนหายใจทันที
“ค่ะ ไม่จำเป็นต้องบอกไม่ใช่เรื่องของเขา นี่เป็นความรับผิดชอบของแสง คนอื่นไม่ต้องยุ่ง ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาเราจะจัดการกันเอง” แสงฉายบอกเสียงเข้ม
“งั้นก็ได้ครับ ถ้าต้องการอะไรบอกผมได้ ผมอยู่ใกล้ ๆ แค่ตะโกนเรียกผมก็จะรีบมา”
“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ แค่ไม่ให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเท่านั้นเองค่ะ แต่ถ้าใครขี้เสือกอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นก็เรื่องของเขา เราควบคุมไม่ได้”
“แหม พูดว่าขี้เสือกนี่มีสะดุ้งนะฮะ แล้วเอ่อ เขายังไม่ฟื้นใช่ไหมครับ”
“ยังค่ะ อาจจะข้ามวันข้ามคืน รอดูอาการ”
“เฮ้อ เอาใครไม่รู้มาเป็นภาระตัวเอง แล้วนี่ก็ต้องนอนเฝ้า” เขาเป็นห่วงเธอ ไม่ได้ห่วงใครนักหรอก แต่เมื่อได้ช่วยชีวิตคนแล้วก็อยากทำให้เต็มที่ตามนิสัยเธอแหละ
“ก็เราเลือกที่จะช่วยชีวิตเขานี่นะ”
“ผมห่วงอยู่อย่างเดียว ถ้าเขาไม่ใช่คนธรรมดา สมมติถูกทำร้ายมาไอ้พวกที่ทำร้ายเขาต้องตามหาศพ และถ้ารู้ว่าเขาไม่ตายหรืออะไรก็ตาม เขาก็จะยิ่งออกตามหาเพื่อกำจัด และตอนนั้นนายหญิงจะรับมือไหวไหม อาจจะโดนลูกหลงด้วย”
“แล้วแสงจะมีพี่สินไว้ทำไมคะ ก็เพื่อการนี้แหละ” ให้ตายสิ คำตอบของเธอทำเขาอึ้ง แล้วก็ยิ้มแห้งๆ เพราะมันจริงอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ
“ปกติผมช่วยนายหญิงตบตีกับอีกบ้าน เท่านี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว แต่นี่เรากำลังยุ่งอยู่กับอะไรก็ไม่รู้”
“อย่าบ่นเป็นวัยทองไป เอ่อ ช่วยหาเสื้อผ้าให้แสงหน่อยสิ เอามาให้เขาไซส์ฝรั่งเลยค่ะ เอามาเยอะ ๆ หน่อยนะ แล้วเดี๋ยวค่าใช้จ่ายมาเบิกกับแสง”
“โอเคครับ นางฟ้านะเนี่ย” เขาแซวอีกครั้ง
“แสงชอบเวลาที่พี่รับคำแบบไม่บ่นไม่เถียงไม่กวนประสาทจริงๆ เลย” นี่เธอชมสินะ
“ก็ขี้เกียจเถียง เดี๋ยวผมไปจัดการให้ครับ แล้วจะให้ลูกน้องอยู่เฝ้าเวรให้นะ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น”
“ค่ะ” แสงฉายรับคำสั้นๆ
“ผมก็ชอบเวลาที่นายหญิงไม่เถียง” เขาย้อนความเสียเลย
“ไปเลยไป” เธอออกปากไล่และยิ้มด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะกลับขึ้นบ้านไปดูคนแปลกหน้า ส่วนวสินนั้นก็รีบไปทำตามคำสั่งของเจ้านายสาวทันที