หมับ!! จู่ๆ ก็มีมือหนาของใครสักคนมากระชากมือของฉันให้หลุดออกจากผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น
“มึงจะยุ่งกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่ผู้หญิงคนนี้มีเจ้าของแล้ว อย่าเสือก!!”
ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่พูด “พะ พี่เลย์…”
ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรมากพี่เลย์ก็ดึงฉันออกมาจากตรงนั้นทันที
“ดะ เดินช้าๆ หน่อยได้ไหมคะ” ฉันตะเบ็งเสียงบอกแข่งกับเสียงเพลงที่ดังสนั่น ทำให้พี่เลย์หยุดเดินกะทันหันแล้วหมุนตัวหันกลับมาจ้องหน้าฉันตาเขม็ง
“อยากโดนลากไปแบบนั้นอีกหรือไง!!”
“…..” ฉันเม้มปากแน่นไม่กล้าพูดอะไรโต้ตอบ ก็แค่ให้เดินช้าๆ เอง ทำไมต้องขึ้นเสียงใส่กันด้วยนะ
พี่เลย์พาฉันกลับมาที่โต๊ะ ตอนนี้เมลกับพี่เพลงกลับมาจากห้องน้ำแล้ว มาถึงพี่เลย์ก็ปล่อยมือจากฉันก่อนจะเดินไปโอบเอวพี่แตม
ส่วนฉันก็เดินมานั่งที่เดิม ก็คือข้างๆ กับพี่แตมที่กำลังคลอเคลียอยู่กับพี่เลย์
“ยัยไอริส!!!” แขนของฉันถูกเมลกระตุกอย่างแรง ทำให้ฉันต้องหันไปมองเพื่อน “ว่าไงเมล”
“แกไม่เห็นหรือไงว่าพี่แตมจะสิงพี่เลย์อยู่แล้วนะ” เมลกระซิบกระซาบบอก
“เห็นสิ ฉันไม่ได้ตาบอดนะ”
“แล้ว ?” เมลถลึงตาใส่ฉัน เมื่อเห็นว่าฉันเงียบเมลก็ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ “แกคงไม่คิดจะยอมให้พี่แตมกับพี่เลย์ได้เสียกันหรอกใช่ไหม”
“อะไรของแกเนี่ยเมล พี่เลย์จะยุ่งกับใครก็สิทธิ์ของเขานะ”
“อะไรกันสองคนนี้ ซุบซิบอะไร นินทาพี่หรือเปล่า” เสียงของพี่แตมท้วงขึ้น ทำให้ฉันกับเมลที่กำลังกระซิบกันอยู่รีบผละตัวออกจากกันทันที
“เปล่าๆ ค่ะพี่แตม” เมลรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
ฉันหันไปมองพี่แตม แต่ดันไปสบตาเข้ากับพี่เลย์ที่กำลังมองฉันอยู่เหมือนกัน
“แล้วนี่พี่เลย์อยู่ที่คอนโดกับใครคะ” พี่แตมถามพี่เลย์เสียงหวาน
“คนเดียว” พี่เลย์ตอบทั้งที่ยังเอาแต่มองหน้าฉัน ก่อนจะละสายตาจากฉันมองไปตรงหน้า
“งั้นถ้าแตมอยากจะขอ….”
พี่แตมยังพูดไม่ทันจบพี่เลย์ก็วางแก้วเหล้าลง แล้วเอื้อมมือมาจับมือฉันให้ลุกขึ้น “ห้าทุ่มแล้ว ฉันจะไปส่ง”
“อะ เอ่อ พะ พี่เลย์…”
ฉันถูกพี่เลย์ดึงตัวให้ออกมาจากคลับ โดยที่ไม่ได้เอ่ยลาใครเลยแม้กระทั่งเมลเพื่อนของฉัน
“พี่เลย์…” ฉันเรียกชื่อพี่เลย์ในขณะที่เราเดินมาถึงรถกันแล้ว แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรให้มากความก็ถูกพี่เลย์พูดขัดขึ้นมาซะก่อน
“ไม่เห็นหรือไงว่าไอ้พวกนั้นมันมองเธออยู่ อยากถูกลากไปอีกหรือไง”
สิ้นสุดคำพูดของพี่เลย์ สายตาของฉันก็เห็นผู้ชายสองคนเดินมาทางด้านหลังของพี่เลย์ ในมือของเขาถือขวดเหล้าอยู่ด้วย
“พะ พี่เลย์ระวังค่ะ!!”
พอได้ยินเสียงฉันบอกพี่เลย์ก็หมุนตัวไปมองทางด้านหลังของตัวเอง ทำให้ผู้ชายที่มีขวดในมือยกขวดขึ้นมาแล้วฟาดลงที่หัวของพี่เลย์จังๆ
ปัก!! เพล้ง!!
“กรี๊ดดดด!!” ฉันกรี๊ดออกมาเสียงหลง ทำอะไรไม่ถูก
“อย่าซ่าให้มากนะมึง!!” เสียงของผู้ชายที่ใช้ขวดฟาดลงที่หัวของพี่เลย์พูด ก่อนที่ผู้ชายสองคนนั้นจะรีบวิ่งหนีไป
พี่เลย์ทำท่าจะวิ่งตาม แต่ถูกฉันรั้งแขนเอาไว้ ขืนปล่อยให้ไปอาจจะไม่ปลอดภัยก็ได้
“จะจับฉันไว้ทำไมวะฮะ!!” พี่เลย์ตวาดใส่ฉันเสียงดัง และสะบัดมือของฉันออกอย่างแรง
“ละ เลือด ที่หัวพี่เลย์มีเลือดออกด้วย”
ฉันเบิกตากว้าง รีบก้มหน้าเปิดกระเป๋าสะพายแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูของตัวเองออกมา จากนั้นก็จะยื่นมือที่ถือผ้าเช็ดหน้าไปซับเลือดให้พี่เลย์ แต่ถูกเขาปัดออก
“อย่ามายุ่ง!!”
“ทำไมต้องดุตลอดเลยคะ” ฉันถามคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ “ไอริสเป็นห่วง แค่จะซับเลือดให้ถึงกับต้องตวาดเสียงดังขนาดนี้เลยงั้นเหรอคะ…”
“…..” พี่เลย์เงียบ เอาแต่มองหน้าฉันและไม่พูดอะไร
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปซับเลือดที่หัวพี่เลย์อีกครั้ง ครั้งนี้พี่เลย์ยอมให้ฉันซับเลือดให้ ผ้าเช็ดหน้าสีชมพูในตอนนี้มันเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือดสีแดงสด
สักพักพี่เลย์ก็ปัดมือฉันออกอีกครั้ง พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ “ขึ้นรถ!!”
พูดจบพี่เลย์ก็เดินอ้อมไปทางฝั่งคนขับ ฉันจึงรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งในรถ ก่อนที่พี่เลย์จะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากคลับด้วยความเร็ว
บรรยากาศภายในรถถูกความเงียบเข้ามาปกคลุมชวนให้อึดอัด ฉันคอยหันมองพี่เลย์อยู่บ่อยๆ เพราะจะดูว่าเลือดยังไหลอยู่ไหม
“พี่เลย์ไปมีเรื่องอะไรกับคนพวกนั้นคะ ทำไมเขาถึงมาทำร้ายพี่เลย์แบบนี้” ฉันเปิดประเด็นถามทำลายความเงียบ
“เธอจำไม่ได้หรือไงว่ามันคือคนที่ฉุดดึงเธอในคลับ!!” พี่เลย์บอกเสียงดุ
“ก็ ก็ไอริสมองไม่ถนัด…”
“เธอนี่มัน…!!!” พี่เลย์ไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดใส่ฉันแทนคำพูด
“ไปหาหมอก่อนนะคะ แล้วค่อยไปส่งไอริส”
“แค่นี้ไม่ตาย” พี่เลย์ตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
“สรุปจะไม่ไปหาหมอใช่ไหมคะ” ฉันถามย้ำ แต่สิ่งที่ได้กลับมาแทนคำตอบคือความเงียบ ฉันพอจะเดาได้ว่ายังไงพี่เลย์ก็ไม่ไปหาหมอแน่ๆ
“ถ้าอย่างนั้นแวะที่คอนโดพี่เลย์ก่อนนะคะ เดี๋ยวไอริสจะทำแผลให้”
“ยุ่ง!!” พี่เลย์หันมาตวาดเบาๆ
“ค่ะ ไอริสชอบวุ่นวาย”