ฉันมองพี่เลย์ด้วยความงุนงง จู่ๆ ก็มาว่าฉัน ทั้งที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน
“ว่าไอริสทำไมคะ” ฉันถามคนตรงหน้า
พี่เลย์พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ แล้วพูด “ฉันไม่ได้เป็นเกย์”
“…..” เมื่อถูกสายตาคาดโทษของพี่เลย์จ้องมอง ฉันจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ
พี่เลย์โน้มตัวมาใกล้ๆ ฉัน เขาสูดดมกลิ่นจากเส้นผมของฉันราวกับโรคจิต สายตาแบบนั้นมันหมายความว่าอะไรกัน
“แต่ถ้าเธอไม่เชื่อที่ฉันพูด อยากจะลองดูก็ได้….ฉันยินดี”
“ชะ เชื่อแล้วค่ะ” ฉันตอบแล้วถอยหลังอีกก้าวเพราะรู้สึกว่าตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากเกินไปแล้ว
“หึ…” พี่เลย์เดินผ่านหน้าฉันไปที่ริมระเบียง เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบโดยหันหลังให้กับฉัน
น่ากลัวจริงๆ เลย
ฉันคิดในใจก่อนจะก้มหน้าเก็บของต่อ เวลาเห็นอะไรรกๆ ขวางหูขวางตาฉันก็จะจัดเข้าที่ให้เป็นระเบียบ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง….ฉันเก็บของเสร็จแล้ว เหลือแค่ในห้องพี่เลย์
“ไม่ต้องเข้าไปในห้องนอนฉัน”
พี่เลย์ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่เอ่ยสั่งเสียงแข็ง ทำให้ฉันที่กำลังเอื้อมมือไปจับลูกปิดประตูห้องนอนของพี่เลย์ต้องหยุดชะงัก แล้วค่อยๆ ดึงมือกลับ
“ค…ค่ะ”
พี่เลย์หยิบกุญแจรถตรงหน้าแล้วลุกขึ้นยืน “ฉันจะไปส่ง”
พูดจบพี่เลย์ก็เดินไปเปิดประตูห้อง ฉันจึงรีบวิ่งตามเขาไปติดๆ แต่ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ พี่เลย์จะหยุดเดินดื้อๆ ทำให้ฉันที่วิ่งตามเบรกไม่ทันหน้ากระแทกไปกับแผ่นหลังกว้างของพี่เลย์อย่างจัง
“อื้อ! ทำไม…” ฉันพูดพลางยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้น ยังพูดไม่ทันจบประโยคพี่เลย์ก็เปิดประตูห้องเดินออกไป “เอ้า!! ดะ เดี๋ยวสิคะ”
ด้วยความที่พี่เลย์เป็นคนสูง ขายาว ก้าวหนึ่งของพี่เลย์เท่ากับก้าวครึ่งของฉัน ดังนั้นฉันจึงต้องรีบสับเท้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินเพื่อไปให้ทัน กว่าจะมาถึงรถก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
ระหว่างทางที่ขึ้นรถมากับพี่เลย์ เราทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยสักคำ ฉันเองก็เงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ถึงแบบนี้มันจะอึดอัดก็เถอะ
กริ๊ง~ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น เมื่อก้มมองดูก็เห็นเป็นเบอร์เฮียที่โทรเข้ามา ฉันจึงรีบกดรับสาย
( ฮัลโหลเฮีย )
( ทำอะไรอยู่ทำไมยังไม่กลับ ไอ้เลย์มันไปรับถึงไหน) เฮียถามเสียงเข้ม
( กำลังกลับแล้ว เฮียมีอะไรหรือเปล่าคะ )
( บอกให้ไอ้เลย์มันเข้ามาหาเฮียที่บ้านด้วย ไม่ใช่มาส่งแล้วรีบกลับ )
( ค่ะเฮีย )
หลังจากที่วางสายฉันก็หันหน้าไปมองพี่เลย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ตรงเบาะคนขับ
“พี่เลย์คะ”
“ว่า ?” พี่เลย์ถามโดยที่ยังไม่หันมามองฉัน
“คือเฮียบอกให้พี่เลย์เข้าไปหาด้วย”
“อื้ม” พี่เลย์พยักหน้าตอบ จากนั้นทุกอย่างก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ ปกติที่ฉันหมายถึงก็คือความเงียบ
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่
ฉันพาพี่เลย์ไปหาเฮียคานส์ที่ห้องทำงาน จากนั้นก็จะออกจากห้องเพราะคิดว่าเฮียคงมีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับพี่เลย์
แต่เฮียบอกให้ฉันนั่งอยู่ในห้องด้วย ฉันจึงเดินไปนั่งข้างๆ กับเฮีย ส่วนพี่เลย์นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไม่คิดจะโผล่หน้ามาหากูบ้าง ?” เฮียเป็นคนเปิดประเด็นถามพี่เลย์ขึ้นมาก่อน
“เปล่าเฮีย ช่างนี้งานที่บริษัทยุ่งๆ”
“แล้วที่ผ่านมาเป็นเดือนๆ มึงไม่คิดจะถามกูหน่อยหรือไงว่าทำไมกูถึงยอมให้ไอริสหมั้นกับมึง”
“…..” พี่เลย์เงียบ เขามองมาที่ฉันทำให้ฉันรีบก้มหน้าลงหนีสายตาคู่นั้นของพี่เลย์ทันที
เฮียถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “กูก็ไม่ได้อยากให้ไอริสหมั้นกับมึง แต่กูไม่มีทางเลือก คงจะมีแค่มึงที่กูไว้ใจได้”
เมื่อเฮียพูดจบพี่เลย์ก็มองหน้าเฮียอย่างแปลกใจทันที“เฮียพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ?”
“เดือนก่อนพ่อกูมาที่ไทย จะให้ไอริสหมั้นกับลูกชายนักธุรกิจเพื่อสานสัมพันธ์ทางธุรกิจ…..”
เฮียเริ่มเล่าเรื่องราวที่คุณพ่อจะบังคับให้ฉันหมั้นกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ให้พี่เลย์ฟัง ขณะที่ฟังเฮียเล่าอยู่พี่เลย์ก็มองมาทางฉันเป็นระยะๆ
“แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกวะเฮีย!! ผมแม่งจิตตกไปเป็นเดือน” พี่เลย์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เหมือนกับว่าได้ยกภูเขาออกจากอก
“ทำไม ?” เฮียถามเสียงดุ ทำให้พี่เลย์หน้าเสียไปเล็กน้อย “มึงไม่อยากหมั้นกับน้องกูขนาดนั้น ?”
“เฮียก็น่าจะรู้ดีว่าผมไม่พร้อมกับเรื่องพรรค์นี้!!” พี่เลย์ตอบปัดๆ อย่างขอไปที
“แต่ถึงยังไงก็ต้องหมั้นไปก่อน เรื่องถอนหมั้นกูจะจัดการให้เอง”
“เข้าใจแล้วเฮีย บอกแบบนี้แต่แรกก็สิ้นเรื่อง!!” พี่เลย์ปรายตามองหน้าฉันอย่างไม่ชอบใจ ฉันทำอะไรผิดอีกงั้นเหรอ ไม่ชอบถูกมองแบบนั้นเลยจริงๆ
“เรื่องผู้หญิงมึงก็เบาๆ หน่อย ถ้าพ่อกูจ้างคนตามสืบแล้วเห็นความระยำของมึง แผนได้แตกกันพอดี!!”
“…เบาได้ที่ไหน” พี่เลย์ไหวไหล่ตอบ คำตอบของพี่เลย์ทำให้เฮียพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
“อีกเรื่อง!!” เฮียพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วหันมามองฉันที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปมองพี่เลย์ “มึงห้ามแตะต้องหรือทำอะไรเกินเลยกับน้องสาวกูเด็ดขาด”
“……” ฉันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินคำสั่งของเฮียที่ฟังยังไงก็ไม่เข้าใจ
ห้ามแตะต้อง หมายถึงตัวห้ามโดนกันงั้นเหรอ แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ เฮียนะเฮีย จะหวงก็หวงไม่เข้าเรื่องจริงๆ
“มึงทำได้ไหม ?” เฮียย้ำถามพี่เลย์ด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเอามากๆ
“สบายอยู่แล้ว เรื่องนั้นเฮียไม่ต้องห่วง” พี่เลย์เว้นคำพูดแล้วมองมายังใบหน้าของฉัน “ผมจะไม่ทำอะไรเกินเลยกับเธอแน่ๆ”