พิพัฒน์ยอมให้เมษาพักร่างหลังจากอาบน้ำด้วยกันก็จริง แต่พอใกล้จะเช้าเขาก็เริ่มชักธงรบอีกครั้ง หญิงสาวถูกเขาเล้าโลมจนต้องตอบสนองอย่างเร่าร้อน แต่ที่เธอคาดไม่ถึงก็คือเขายังซ้ำอีกครั้งจนเมษาแข้งขาอ่อน
“พี่พัฒน์ ไม่กลัวไปทำงานสายเหรอคะ?” เธอร้องประท้วงจากใต้ผ้าห่ม
ชายหนุ่มไม่ตอบ เขายกหูโทรศัพท์ขึ้นกรอกเสียงลงไปดังฟังชัด
“คุณปลา วันนี้ผมขอลาป่วยหนึ่งวันนะครับ รู้สึกไม่ค่อยสบาย มีงานด่วนอะไรก็ฝากไว้ด้วยก็แล้วกัน ถ้าผมพอไหวตอนบ่ายจะเข้าไปดู”
เมษาตาเหลือก เธอลืมไปเลยว่าพิพัฒน์คือบอส ส่วนเธอเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน เพิ่งเข้าทำงานได้ไม่กี่วันก็จะลางานเสียแล้ว ชายหนุ่มที่เพิ่งกดวางสายหัวเราะหึๆ แล้วยื่นโทรศัพท์ให้อย่างล้อเลียน
“น้องเม โทรศัพท์ไปลางานสิครับ ไม่อย่างนั้นการฝึกงานครั้งนี้ก็อาจจะไม่ผ่านได้นะ”
เมษาสะบัดหน้า “ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวเมจัดการเอง”
เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น ชายหนุ่มที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยออกไปเปิดประตูรับเอาอาหารที่ห้องอาหารข้างล่างนำขึ้นมาส่ง
“ไปอาบน้ำสิครับ เดี๋ยวอาหารก็เย็นหมดพอดี”
หญิงสาวเบะปากน้อยๆ มองชายหนุ่มที่นั่งโต๊ะเล็กใกล้ระเบียงตักอาหารเช้ารับประทานพร้อมกับจ้องมองมาที่เธอ
“หันไปทางระเบียงก่อนค่ะ เมจะไปอาบน้ำ” ใต้ผ้าห่มนั้นมีเพียงร่างเปลือยเปล่าของเธอ
หญิงสาวหันซ้ายแลขวา เมื่อไม่เห็นผ้าที่พอจะพันกายและใช้ปกปิดความอายได้จำต้องห่อร่างด้วยผ้าห่มเข้าไปห้องน้ำ
“ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นหรอกครับ” เสียงเขาหัวเราะไล่หลัง
เมษากลับออกมาด้วยชุดแต่งกายเมื่อวาน เธอมานั่งรับประทานอาหารที่เขาสั่งมาเผื่อ เมื่ออิ่มแล้ว ชายหนุ่มก็อาสาจะไปส่งเธอที่คอนโด
“ไม่ค่ะ เราเป็นแค่ชู้รัก จะไปส่งกันโจ่งแจ้งแบบนี้ไม่ได้ ต่างคนต่างกลับก็แล้วกันนะคะ”
พิพัฒน์เม้มปากแน่น เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอใช้เขาเป็นแค่เครื่องบำบัดความใคร่ ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบในอก เขาไม่อยากจินตนาการว่าเธออาจจะใช้ประสบการณ์ที่มีกับเขาไปใช้กับไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่น
เมษายิ้มเมื่อรู้สึกว่าเขาเริ่มโกรธ
“กฎของการเป็นชู้รัก คือ อยู่ข้างนอกต้องทำเป็นไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่ติดต่อกันยกเว้นการนัดหมาย และห้ามหึงหวงค่ะ”
“ได้ครับ! ถ้าอย่างนั้นเมื่อออกจากห้องนี้ไป คุณต้องเรียกผมว่าบอส”
“ค่ะ ตามนั้น”
คนทั้งสองต่างสะบัดหน้าไปคนละทางเมื่อเดินออกจากประตูโรงแรม พิพัฒน์ขับรถคันหรูกลับบ้าน ส่วนเมษาก็เรียกแท็กซี่กลับคอนโด
ธันวาที่กดโทรศัพท์หาเพื่อนสาวนับครั้งไม่ถ้วนถึงกับตวาดเมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวที่เขาตามหาตลอดเช้า
“แกหายไปไหนมา? กินผู้ชายจนท้องอืดมาทำงานไม่ได้เลยเรอะ?”
“ธันวา ใจเย็นๆ เพื่อน ฉันก็แค่คาดผิดเท่านั้น”
“ทำไม? แกจะอวดว่าผู้ชายของแกเอวดุว่างั้น”
“ก็ไม่เชิง” เมษาแสร้งอำพะนำ เธอรู้ว่าสุดท้ายธันวาก็ต้องคาดคั้นให้เธอพูดความจริงให้ฟังจนได้
“นี่ถ้าฉันไม่มาตามหาแกถึงบริษัทก็คงไม่รู้ว่าแกลาป่วย แถมยังลาไปพร้อมกับบอสซะด้วย” น้ำเสียงของคนเป็นห่วงดูเย้ยหยัน
“ไม่ต้องกระแทกแดกดันกันขนาดนั้นก็ได้ เอาน่าฉันจะเล่าให้แกฟังทุกอย่าง เลิกงานแล้วเจอกันที่คอนโดนะ”
สาวๆ ต่างพยายามเดินวนเวียนอยู่ใกล้เคาน์เตอร์รับแขกเมื่อเห็นว่ามีหนุ่มหล่อในชุดนักศึกษามายืนสอบถามบางอย่าง เมื่อเขากลับออกไป ผู้หญิงหลายคนก็โฉบเข้ามาถามพนักงานที่เฝ้าอยู่ด้านหน้า
“หนุ่มหล่อมาหาใครเหรอ?”
“น่าจะแฟนน้องเมษาน่ะ”
“โอ๊ย! ใจสลาย สาวสวยต้องควรคู่กับหนุ่มหล่อ แล้วจะเอาพวกเราไปทิ้งไว้ที่ไหน?” คนถามทำท่าตบอกหันไปมองเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ ตาละห้อย
“พวกป้าๆ ก็เฝ้าบริษัทไปยังงี้ล่ะ พวกเราเลยวัยจะหาหนุ่มมหาลัยแล้วย่ะ ไปหาหนุ่มวัยทำงานเหอะ”
“จะหาได้ที่ไหน? เขามีคู่กันตั้งแต่อยู่มัธยมกันแล้ว ต้องรอคนหลุดรอด ตาข่ายเท่านั้นล่ะ ซึ่งก็นะ...เหลือน้อยเต็มที” น้ำเสียงหญิงสาวที่มองตามหลังธันวาด้วยความเสียดายละห้อยจนน่าสงสาร
“เฮ้อ! ฉันล่ะสมเพชเธอจริงๆ ไปๆ กลับแผนก เลิกงานแล้วจะพาไปดูหนุ่มๆ ที่สนามบอลก่อนกลับหอ” เพื่อนที่มาด้วยช่วยตบบ่าปลอบใจ ทั้งสองก็จึงหัวเราะให้กันก่อนจะเดินกลับไป
เมษาเป็นเด็กฝึกงานที่พวกหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยในบริษัทพูดถึงกันมากที่สุดเพราะเธอสวยและหุ่นดี สองสาวกลับไปถึงแผนกก็รีบเข้าไปกระแซะเพื่อนร่วมงานหนุ่มๆ เพื่อให้รู้ว่าน้องเมษาคนสวยมีเจ้าของเป็นหนุ่มหล่อสูงโปร่ง
“นึกว่าดารารึไม่ก็นายแบบ ไม่ยักรู้ว่าน้องเมษามีแฟนหล่อโฮก!” คนเล่าลากเสียงยาว
“มีแฟนมาตามด้วยเหรอ? แย่วะ!” หนุ่มที่นั่งโต๊ะด้านในร้องโวยวายออกมา
“เอ้า! สวยขนาดเป็นดาวคณะคิดเหรอว่าจะว่าง มีแต่พวกดาวคณะตลกอย่างพวกเราสองคนนี่ล่ะที่ว่างของจริง”
“ยี้ๆๆๆ” เสียงเพื่อนร่วมงานหนุ่มๆ ทั้งร้องทั้งโบกมือโวยวายเป็นเชิง หยอกล้อ หญิงสาวทั้งสองก็แลบลิ้นปลิ้นตาตอบ
ผู้ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ถัดไปรีบเงยหน้าขึ้นปราม
“เห็นว่าบอสไม่มาทำงานก็เอาใหญ่เลยนะ ระวังเถอะ ถ้าบอสดูกล้องแล้วเห็นว่าพวกเธอพากันอู้จะโดนตัดเงินเดือนไม่รู้ตัว”
ได้ยินคำเตือนอย่างนั้น คนทั้งหมดก็พากันสะดุ้ง
“อุ๊ย! พี่แมนพูดซะหนูเสียวสันหลัง ไปทำงานดีกว่า”
และแล้ว กลุ่มที่กำลังจะต่อปากต่อคำก็สลายตัว คุณปลาที่เดินผ่านมาพอดีได้ยินแวบๆ ก็รีบตามพนักงานหญิงสองคนไป
“เมื่อกี้พูดเธอเล่าอะไรกัน?”
สองสาวทำหน้าแหยๆ “ก็แค่พูดกันเรื่องน้องเมษาลาป่วย แต่แฟนมาตามหาถึงหน้าบริษัทเลยค่ะ เห็นว่าแฟนน้องก็ฝึกงานอยู่ที่นี่ น่าจะเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นห้าค่ะ”
คุณปลาได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มน้อย “แล้วไง? แฟนเมษาหล่อมากเหรอ?”
“หล่อวัวตายควายล้มเลยค่ะคุณปลา” คนเล่าทำตาโต ยกมือประสานกันที่หน้าอก ยิ้มหวานเหมือนกับสนิทสนมกับแฟนหนุ่มของเมษา
เลขานุการใหญ่ของบอสหัวเราะร่วน “ดูทำเข้า อายม้วนยังกับเป็นแฟนตัวเองซะงั้น”
“อุ๊ต๊ะ! ถ้าได้เป็นแฟนจริงๆ หนูคงสู่ขิตไปเลยล่ะค่ะ”
***************************