บทที่ 4 ชอบกินหัวไก่ต้ม

1097 Words
บทที่ 4 ชอบกินหัวไก่ต้ม สวีหลงเยียนใบหน้าเขียวคล้ำจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยสายตาชิงชัง นางถึงกับกล้าทำให้เขาขายหน้าต่อบ่าวไพร่ถึงขนาดนี้เชียวหรือ เฟิ่งฟางเซียนเริ่มสัมผัสได้ถึงความแข็งชูชันของแท่งเอ็นอุ่นร้อนในใต้ร่มผ้าของเขา นางรีบปล่อยมือออกทันที ในหัวนึกถึงแต่ภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับนางเมื่อคืน  ไข่ใหญ่มาก!!! ให้ตายสิ!!นี่ข้าคิดอะไรเช่นนี้ทุเรศสิ้นดี!! เฟิ่งฟางเซียนถอยห่างออกมาจากสวีหลงเยียน นางไม่อยากจะพบเจอหน้าเขาด้วยซ้ำ เขาเป็นฮ่องเต้ที่จิตไม่ปกติ น่ากลัวเกินไปแล้ว  สวีหลงเยียนยกยิ้มมุมปาก เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเฟิ่งฟางเซียน ยิ่งนางถอยหนีเขาก็เดินเข้าไปใกล้นางเรื่อยๆ "จะเดินตามหม่อมฉันมาทำไมเพคะ?" "ที่นี่เป็นวังหลวงของข้า ข้าจะเดินไปไหนก็เรื่องของข้า" "ถอยไปเพคะ หม่อมฉันจะกลับไปถางหญ้าต่อ" "เจ้ากล้า!!!" "หากคิดทุบตีหม่อมฉันอีก หม่อมฉันบีบอีกแน่!!ครั้งนี้รับรองจะดึงให้ไข่ขาดเลยเพคะ!!!" สวีหลงเยียนกัดฟันกรอด คิดในใจว่าฝากไว้ก่อนเถอะ!!ก่อนจะเดินกลับตำหนักใหญ่ด้วยความหงุดหงิดใจ  ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางคิดกล้าเหิมเกริมกับเขา!!! สวีหลงเยียนกลับมานั่งอ่านฏีฏาที่เหล่าขุนนางถวายให้เขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยามนี้ที่เขตชายแดนเกิดภัยแล้งอย่างหนัก ชาวบ้านคิดก่อกบฏปล้นชิงเสบียงจากเหล่าขุนนาง จนเกิดการจราจลขึ้นมาขนาดย่อม สวีหลงเยียนสั่งให้ โจวอี้ องค์รักษ์คนสนิทรีบรุดหน้าไปตรวจตราที่เกิดเหตุทันที  ด้านหลินกุ้ยเฟยเองก็รู้สึกร้อนใจไม่น้อย ตั้งแต่นางเข้าวังหลวงมาเป็นพระสนม ฝ่าบาทไม่เคยร่วมหลับนอนกับนางเลยด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ถอดเสื้อผ้าและช่วยตนเองให้นางดู แล้วยังบังคับให้นางส่งเสียงครวญครางพร้อมกับยื่นโยกเตียงไปมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขาเพียงเท่านั้น แต่เมื่อคืนกลับมีนางกำนัลน้อยมารายงานต่อนางว่าพบสวีหลงเยียน เดินเปลือยท่อนบนออกมาจากตำหนักเย็นที่เฟิ่งฟางเซียนอาศัยอยู่ นางอยากจะเอ่ยถามให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้นางไม่อยากจะเคลื่อนไหวเรื่องใดให้มากนัก เพราะสวีหลงเยียนกำลังจับตาดูนางอยู่ทุกฝีก้าว นางจึงทำได้เพียงส่งคนไปลอบสังเกตการณ์ที่ตำหนักเย็นอย่างลับๆ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เฟิ่งฟางเซียนเองก็รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมด นางอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ แล้วจึงเดินมาที่โต๊ะอาหาร ป่านนี้หลิวหมัวหมัวคงจัดเตรียมสำรับเย็นไว้ให้นางเรียบร้อยแล้ว  เฟิ่งฟางเซียนเดินออกมาอย่างสบายใจ แต่ผมว่านางกลับพบว่าสวีหลงเยียนกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ เขายกขาขึ้นวางพาดบนโต๊ะกินข้าวของนาง จนแทบจะเตะถ้วยชามอาหารของนางให้หกอยู่แล้ว  "ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ" เฟิ่งฟางเซียนทำความเคารพอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก จะมาทำไมทุกคืนกันนะ ไม่รู้จักไปหานางสนมคนอื่นๆบ้าง!! สวีหลงเยียนปรายตามองอาหารบนโต๊ะของนางด้วยความดูแลคลน มันมีแต่หัวผักกาดดองเค็ม ผัดผักกาดขาวที่มันเยิ้มจนชวนอาเจียน  "ข้ามาหาเจ้าถึงตำหนัก แต่กลับเตรียมของกินต่ำช้าเช่นนี้รอข้าหรือ!!!" "ใครจะคิดว่าพระองค์จะเสด็จมาเล่าเพคะ ที่นี่คือตำหนักเย็น ที่พระองค์สั่งกักบริเวณหม่อมฉันอยู่นะเพคะ" "แล้วยังไง ข้าต้องสนด้วยหรือ?" เฟิ่งฟางเซียนหลับตาลง พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ยกเท้าขึ้นกระโดดถีบเขา ช่างกวนประสาทและโรคจิตเสียจริงๆ!! สวีหลงเยียนดีดนิ้วมือจนเกิดเสียงดังครั้งหนึ่ง เหล่านางกำนังก็พากันยกอาหารชั้นดีเข้ามา ทั้งเป็ดไก่ ผลไม้ ต่างวางเรียงรายแทนอาหารที่แสนจะไร้รสชาติของนาง เฟิ่งฟางเซียนขมวดคิ้วมุ่นจ้องมองสวีหลงเยียนด้วยสายตาไม่เข้าใจ  วันนี้เขาจะมาไม้ไหนอีก? "มานี่!!" "เพคะ?" "มาป้อนหัวไก่ให้ข้า ข้าชอบกินหัวไก่ต้ม" เฟิ่งฟางเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาดูแคลนตราหนึ่ง เนื้อไก่เนียนนุ่มน่ากินออกปานนั้น แต่เขากลับเลือกกินหัวของมัน น่ากินตรงไหนกัน? "มานี่!!!ชักช้าข้าจะสั่งโบยเจ้าเสีย!!!" "เพคะ" เฟิ่งฟางเซียนเดินเข้าไปใกล้หาเขา นางใช้ตะเกียบพยายามคีบหัวไก่ขึ้นมา แต่มันกลับลื่นเสียจนนางคีบมันขึ้นมาไม่ได้ สวีหลงเยียนที่เห็นเช่นนั้นก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที  "น่ารำคาญ!!ใช้มือจับสิ ช่างโง่งมยิ่งนัก" ไม่จับกินเองล่ะคนโรคประสาท!!! เฟิ่งฟางเซียนทำได้เพียงลอบสบถด่าทอเขาในใจเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง นางยื่นฝ่ามือเรียวงามไปจับหัวไก่ขึ้นมา แต่ทว่าเพราะมันลื่นยิ่งนัก นางจึงพยายามจับมันเอาไว้ จนหัวไก่กระเด็นเข้าไปซุกที่ร่องอกอวบสวยของนาง  ตายแล้ว!!หัวไก่ติดร่องนม!!! เฟิ่งฟางเซียนพยายามจะดึงหัวไก่ออกมาจากร่องอกของนาง แต่ความลื่นของมันกลับทำให้มันกลัยยัดเข้าไปลึกกว่าเดิม  ปากไก่โผล่ออกมาจากร่องเนินอกอวบอิ่มของนาง ราวกับมันต้องการจะส่งเสียงขันกระต๊าก กระต๊าก!!! สวีหลงเยียนอ้าปากค้างจ้องมองนางด้วยสายตาที่ตกตะลึงไม่น้อย หัวไก่ของข้า!!! "ฝ่าบาทเพคะ!!" "ดึงมันออกมาสิ!!!" "ดึงไม่ออกเพคะมันเข้าไปลึกมากเพคะ!!!" "หัวไก่ของข้า!!" "ขออภัยเพคะฝ่าบาท พระองค์ช่วยใช้ปากกัดและดึงมันออกมาทีเพคะ!!" เฟิ่งฟางเซียนกดศีรษะของสวีหลงเยียนแนบมาที่ร่องอกขนาดใหญ่ของนาง เนินอกอวบอิ่มกระทบกับใบหน้าของเขา กลิ่นหอมยั่วยวนผสมผสานกับกลิ่นหัวไก่ต้มช่างเย้ายวนจิตใจเขาไม่น้อย  "ฝ่าบาท อาหาร...." ขันทีเฒ่ารีบเดินเข้ามาพร้อมกับอาหารที่สั่งจากครัววังหลวงมาเพิ่ม ภาพตรงหน้าคือฝ่าบาทของเขากำลังใช้ปากกัดกินหัวไก่ที่ตรงร่องอกขาวเนียนของเฟิ่งฟางเซียน  "ขออภัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ!!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD