7. ผัวเมียต้องช่วยเหลือกัน

1371 Words
ธันวาเดินขึ้นมาชั้นบนด้วยใจที่ไม่สงบเท่าไรนัก จะให้เขาสงบอยู่ได้อย่างไรก็เมื่อเจ้าลูกชายตัวดีดันยื่นออกมาล้ำหน้าอยู่อย่างนี้ เขาเดินผ่านหน้าห้องของคนต้นเหตุที่ทำให้มันแข็งโด่ พยายามไม่มองประตู พยายามไม่สนใจว่ามีเด็กสาวตัวหอมอยู่ในนั้น ร่างสูงจ้ำอาด ๆ ตรงไปห้องตัวเองตั้งใจจะเข้าไปอาบน้ำดับความร้อนรุ่มในกายใจที่แทบจะระเบิดเป็นลาวาขาวขุ่นออกมาอยู่แล้ว มือหนาเปิดประตูห้องนอนตัวเองผลัวะเข้าไป ไม่เสียเวลาแม้จะปิดมัน เขารีบเดินตรงไปยังห้องน้ำด้านในขณะที่สองมือรีบช่วยกันดันขอบกางเกงลงปล่อยให้ลำเนื้อปูดโปนออกมา เส้นเลือดขอดพองจนแทบใสขดตัวรายล้อมแท่งสีเนื้อ บ่งบอกให้เจ้าตัวรู้ว่าตอนนี้เลือดได้มาคั่งอยู่ที่จุดนี้จุดเดียว ถ้าไม่ได้ระบายออกเขาอาจจะช็อกตายได้ "แม่งเอ๊ย!" ธันวาสบถเสียงพร่า เดินไปใต้ฝักบัวเปิดน้ำรดศีรษะเพื่อบรรเทาความร้อนรุ่ม ฝ่ามือใหญ่เข้ากอบกุมลำเนื้อร้อนผ่าวแล้วชักรูดขึ้นลงเนิบนาบก่อนจะเร่งจังหวะเป็นรัวเร็วเมื่อลาวาใกล้ปะทุ มืออีกข้างยันผนังแข็งไว้พยุงกายโอนเอนของตนเอง น้ำที่หล่นมาจากฝักบัวเหนือศีรษะไม่ได้ช่วยดับร้อนรุ่มได้เลย "ซี้ด.." ธันวาเขย่ากำปั้นที่กำลำใหญ่ขึ้นลงต่อไม่กี่ที น้ำสีขาวก็พ่นเป็นสายออกไปกระทบกับผนังแข็งตรงหน้า ร่างกำยำแข็งเกร็งเงยหน้าห่อปากสูดอากาศปล่อยอารมณ์ให้ดื่มด่ำกับความสุขสม มือหนารูดเข้าออกช้า ๆ เค้นความสุขออกจากร่างกายให้หมดทุกหยาดหยด "คนอย่างธันวาต้องมายืนชักว่าวในห้องน้ำเหรอวะเนี่ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น" เสียงทุ้มไม่ซาความกระเส่าบ่นให้ตัวเอง เป็นเพราะไม่อยากเสียเสียศักดิ์ศรีที่พูดไว้ว่าไม่ได้สนใจในตัวเด็กสาวห้องข้าง ๆ เขาเลยไม่ไปงอนง้อขอทำความสุข ทั้งที่เจ้าลูกชายอยากจะไปง้อใจจะขาด แล้วดูสิ ขนาดพ่นพิษออกไปแล้วมันก็ยังไม่ก้มหน้าลง ยังมีหน้าไปผงกหัวใส่ผนังในทิศทางที่มีผู้หญิงคนนั้นนอนอยู่ในอีกห้อง ร่างสูงจัดการถอดเสื้อผ้าเปียกน้ำออกแล้วจัดการอาบน้ำอีกครั้ง ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาตีหนึ่งเข้าไปแล้ว แต่เลือดในกายมันวิ่งพล่านร้อนรุ่มไปทั้งตัวเขาเลยไม่รู้สึกหนาวเย็นเลยสักนิด ทั้งที่อากาศในภูมิภาคเย็นมากแท้ ๆ ธันวาเดินจัดการใส่ชุดนอนชุดใหม่แล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียงขนาดใหญ่ของตัวเองอย่างแรงด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ถามว่าเขางุ่นง่านขนาดนี้แล้วทำไมไม่ออกไปในที่เคย ๆ ก็เพราะเห็นแก่หน้าพ่อและแม่ที่เป็นคนกว้างขวางในจังหวัดนี้ ถ้าลูกชายที่เพิ่งผ่านพิธีแต่งงานมาหมาด ๆ แล้วออกเที่ยวผู้หญิงในคืนเข้าหอคงเอาไปพูดกันระงม และเหตุผลที่ผูกติดความรู้สึกของเขายิ่งกว่าชื่อเสียงบิดามารดา ก็คือใจของเขามันจดจ่อกับรินรดาคนเดียว เขารู้สึกไม่อยากจะไปเริงสวาทกับใครทั้งนั้นน่ะสิ เพลย์บอยตัวพ่อแต่มายึดติดกับกลิ่นหอมและความอวบอั๋นของทรวงสาวของผู้หญิงคนเดียว ความรู้สึกนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นเลยพับผ่าสิ "เมื่อไหร่มึงจะนอน!" ธันวาผงกศีรษะขึ้นแล้วตวาดให้เจ้าท่อนลูกชายตัวดีที่ยืนแข็งอยู่กลางหว่างขา แม้เขาจะเอาน้ำหัวมันออกแล้วมันก็ยังไม่พอใจ อยากจะออกอีกสักสามสี่น้ำ แถมไม่ได้อยากจะออกกับอุ้งมือตัวเองแล้ว อยากจะออกใส่ร่างกายขาว ๆ อกใหญ่ ๆ เสียด้วยสิ "นอนไม่หลับโว้ย!" ธันวาดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ทำให้ลำแข็งขืนนอนขนานไปกับที่นอนนุ่มโดยปริยาย มือหนาเลื่อนไปกำรูดส่วนเกินกลางหว่างขาอย่างโมโหที่มันไม่เชื่อฟังก่อนที่เขาจะลุกพรวดเดินไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดลิ้นชักด้านล่างสุดค้นหาบางอย่างกุกกักจนในที่สุดก็หยิบพวงลูกกุญแจติดมือขึ้นมา แล้วลุกยืนหันหลังเดินออกจากห้องนอนไป แกร่ก.. ธันวาบิดกุญแจไขลูกบิดประตูห้องนอนของสาวที่ใจถวิลหา ทิ้งศักดิ์ศรีที่เคยพูดไว้เบื้องหลัง สายตาคมมองฝ่าความสลัวเข้าไปก็เห็นเงาคนนอนอยู่บนเตียง เพราะมีแสงไฟโซลาร์เซลล์ที่เขาติดไว้ในสวนเลยทำให้ในห้องไม่มืดมาก ไม่นาน สายตาเขาก็ปรับกับแสงสลัวในห้องนอนได้ ร่างสูงเดินไปยังเตียงนอน วางพวงกุญแจไว้ยังโต๊ะหัวเตียง สายตาคมหลุบมองร่างบางที่นอนตะแคงข้างขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มให้กับท่าทางเหมือนแมวน้อยที่กำลังผจญกับอากาศหนาวเย็นอย่างถูกใจ "นอนสบายเลยนะ" ธันวาต่อว่าคนที่ไม่มีความผิด ทั้งที่เขากระวนกระวายใจแต่อีกฝ่ายดันนอนหลับไม่ทุกข์ไม่ร้อนเลยสักนิด กายกำยำนั่งยังขอบเตียงอย่างระมัดระวังกลัวว่าเจ้าของเตียงจะตื่นมาร้องลั่น สอดขายาวเข้าใต้ผ้าห่ม ล้มตัวลงนอนตะแคงข้างบนหมอนใบเดียวกับเด็กสาว สอดมือไปโอบกอดเอวคอดด้วยใจที่เต้นโครมครามตื่นเต้น ที่ได้เป็นแมวขโมยย่องเข้าหาเจ้าสาวป้ายแดงของตัวเอง "อือ" เสียงหวานครางในลำคอ รินรดารู้สึกนอนไม่สบายตัวเพราะหนักอึ้งที่เอว เธอขยับตัวเคลื่อนมือมาปัดสิ่งที่ทับร่างกาย แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อมือที่จะปัดสิ่งรบกวนไปโดนเนื้อกายอุ่นที่เหมือนกับตน เปลือกตาบางเปิดขึ้นพรึบก็เห็นใบหน้าหล่อห่างออกไปถึงคืบ รู้สึกถึงลมหายอุ่นที่เธอพ่นออกไปแล้วสะท้อนกลับมาโดนผิวหน้าอย่างชัดเจน "พี่ธัน!" รินรดาเรียกคนตรงหน้าเสียงดังก่อนร่างกายจะทำงานป้องกันตัวเองจากอันตรายอัตโนมัติ แขนและขายันไปทางด้านหน้าเพื่อดันร่างไปในทิศตรงกันข้าม ใบหน้าเล็กผงะไปด้านหลังจนศีรษะหลุดจากหมอน ถ้าไม่มีมืออุ่นจับเอวไว้คาดว่าตัวเธอน่าจะหล่นเตียงด้วยซ้ำไป "อย่าดิ้น เดี๋ยวก็ตกเตียง" ธันวาดุเสียงเข้ม ไม่มีทีท่าว่าจะสลดเลยว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะใคร วงแขนแข็งแรงออกแรงดึงเอวคอดกลับเข้าหาตัวไม่สนใจแรงขัดขืนของเธอที่มีเท่ามดเลยสักนิด "ขะ..เข้ามาทำไม?" รินรดาถามสุ้มเสียงสั่น มือน้อยวางที่แผงอกแข็งออกแรงดันไว้สุดฤทธิ์ ไม่ยอมให้อีกฝ่ายดึงร่างกายตัวเองเขาไปกอดง่าย ๆ "เราแต่งงานกันแล้ว เราเป็นผัวเมียกันแล้วใช่ไหม?" ธันวาถามกลับ กอดกระชับร่างนุ่มแน่นขึ้น ไม่นึกเลยว่าเด็กน้อยตัวกะเปี๊ยกขี้ก้างเมื่อก่อน พอโตขึ้นจะเนื้อตัวนุ่มนิ่มน่าฟัดขนาดนี้ พอได้มาสัมผัสเด็กสาวใกล้ชิดแบบนี้ก็ยิ่งทำให้แท่งเนื้อกลางหว่างขาปวดร้าวขึ้นมาอีกแล้ว "แล้ว..แล้วยังไง?" รินรดารู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่ไม่สามารถควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นเครือได้ ยอมรับว่าเธอกลัวสัมผัสแบบนี้จากเขา "ผัวเมียก็ต้องคอยช่วยเหลือกัน และตอนนี้ฉันอยากให้เธอช่วย มันแข็งจนนอนไม่หลับ" ธันวาพูดพร้อมกับบดส่วนแข็งขืนเข้าใส่หน้าขาของรินรดา รับรู้ถึงการเกร็งตัวแข็งของคนในอ้อมแขน "ไม่เอา หนูไม่ทำ" "ต้องเอา ฉันอยากทำ" ........................................... ทีนี้ก็มาดูกันว่ารี้ดจะเห็นใจใครมากกว่าระหว่างลุงกับน้อง คอมเมนต์มาเยอะ ๆ ถ้าอยากให้ลุงได้กินน้อง เดี๋ยวจะลงให้เย็นนี้เลย ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD