ร่างบอบบางเดินลงจากรถสองแถวที่นั่งเข้ามาจากในตัวเมือง ใบหน้าสวยหันมองสำรวจรอบๆ บริเวณก็เห็นถึงธรรมชาติของต้นไม้และภูเขา วังน้ำเขียวอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา รู้จักกันอย่างดีในฐานะเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่ามีโอโซนติดอันดับหนึ่งในเจ็ดของโลก
“สมแล้วกับฉายาสวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน”
‘เจ้าเอย’ พึมพำกับตัวเองหลังเดินทางมาถึงสถานที่ทำงานแรกของชีวิต หญิงสาวเป็นนักศึกษาจบใหม่ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งแต่ทว่าโชคร้ายมาอยู่ในยุคที่เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยทำให้ต้องจำใจระหกระเหินมาอยู่ไกลบ้านถึงที่นี่
‘หนูเอยเรียนจบบริหาร สนใจไปทำงานกับลูกชายป้าไหม’
เสียงสวรรค์ของผู้หญิงวัยกลางคนผู้มีฐานะเป็นคุณนายที่คอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ครอบครัวของเธอมาโดยตลอด เบื้องหลังการเรียนทั้งหมดล้วนเป็นความต้องการของ ‘คุณนายสมร’ ทั้งสิ้น
เดิมทีคุณนายสมรเป็นเจ้าของตลาดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร มารดาของเธออย่าง ‘เอมอร’ เป็นแม่ค้าขนมหวานที่ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือจนเจ้าของตลาดติดใจมาชิมทุกวัน แถมลูกชายคนโตยังชื่นชอบชนิดที่ว่าหากไม่ได้ทานจะร้องไห้ไม่หยุด
เวอร์ตั้งแต่เด็ก
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นแม่เอมอรเกิดอุบัติเหตุระหว่างกลับจากขายขนม จนคุณนายสมรรีบยื่นมือเข้ามาช่วยโดยให้เหตุผลว่าถูกชะตาและสงสาร ทว่าทุกอย่างก็เหมือนจะสายไปหลังหมอเอ่ยคำว่าท่านเสียชีวิตแล้ว
คุณงามความดีของเอมอรไม่ได้เพียงทำขนมอร่อย แต่ยังใจบุญถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตยอมมอบหัวใจให้ลูกชายของคุณนายเจ้าของตลาดที่ป่วยเป็นโรคหัวใจได้ทำการผ่าตัดเพื่อตอบแทนบุญคุณ
เจ้าเอยเติบโตมากับผู้เป็นบิดาและภรรยาใหม่ เธอแทบจะเป็นคนสุดท้ายที่ครอบครัวให้ความสำคัญและเอาใจใส่ มีเพียงคุณนายสมรที่มักจะซื้อของและขนมมาฝากด้วยความเอ็นดูเสมือนหญิงสาวเป็นลูกอีกคนหนึ่ง
‘เรียนต่อนะหนูเอย ถ้าใครไม่มีปัญญาส่งหนูเดี๋ยวป้าจะส่งเอง’
เรียนจบชั้นมัธยมปลายปีสุดท้ายก็ได้ยินประโยคนี้จากบุคคลที่คนตัวเล็กเคารพมาโดยตลอด ทันทีที่เจ้าของตลาดรับรู้ว่าหญิงสาวถูกลอยแพจากบิดาก็รีบให้คนขับรถพาตัวมาหาเธอเพื่อคะยั้นคะยอให้เจ้าเอยได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย
‘ลูกชายป้ามีแพลนจะทำรีสอร์ตที่วังน้ำเขียว กิจการเล็กๆ บนเนื้อที่ไม่กี่ไร่ หนูเอยไปช่วยพี่เขาทำนะ’
ประโยคสุดท้ายของคุณนายสมรหลังจากเธอเรียนจบ เจ้าเอยยังจำรอยยิ้มและน้ำเสียงความภูมิใจจากคนที่มีพระคุณได้เป็นอย่างดี และก็เพิ่งจะทราบว่าคนที่ส่งหญิงสาวเรียนจนจบมาโดยตลอดคือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณนายเขา
เหม่อลอยอยู่นานร่างบอบบางเพิ่งจะเรียกสติดึงตัวเองออกมาจากอดีต ก้าวขาเดินเข้าไปยังรีสอร์ตเบื้องหน้าพร้อมป้ายทางเข้าขนาดใหญ่ เสียงคนงานและช่างรับเหมาก่อสร้างดังขึ้นเพราะกำลังเร่งทำตัวอาคาร
เจ้าเอยยกมือขึ้นทาบอกพร้อมอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง กิจการเล็กๆ บนเนื้อที่ไม่กี่ไร่ของคุณนายสมรขยายอาณาเขตกว้างไกลหลายหมื่นไร่ ยังไม่รวมภูเขาด้านหลังที่มีแพลนจะระเบิดทำรีสอร์ตเพิ่มอีก
เล็กๆ ของเราคงไม่เท่ากัน
“สวัสดีครับ”
คนตัวเล็กสะดุ้งตกใจจนตัวโยนหลังเห็นชายหนุ่มร่างสูงกำยำโผล่ตัวออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ใบหน้าฝรั่งบ่งบอกถึงความเป็นคนต่างชาติยิ้มกว้างส่งมอบให้อย่างเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะ”
“คุณเจ้าเอยใช่ไหม ผมชื่อชัยชนะนะครับเป็นมือขวาของคุณมังกร”
ประโยคเปล่งๆ พร้อมด้วยภาษาไม่ค่อยชัดของคนตรงหน้าทำเอาเจ้าเอยทำได้เพียงยิ้มเจื่อนตอบกลับ แอบสงสัยชื่อที่ขัดกับใบหน้าและน้ำเสียงของเขาเหลือเกิน
“อันที่จริงผมชื่อWinner (วินเนอร์) ครับแต่คุณมังกรตั้งชื่อไทยให้ว่าชัยชนะ”
เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวทึ่งกับชายหนุ่มที่เสมือนมานั่งอยู่ในใจเธอ ก่อนจะเห็นเขายกร่มในมือคันใหญ่กางเพื่อกันแดดให้เธออย่างใส่ใจ
“คุณนายสมรแจ้งมาแล้วครับว่าคุณเจ้าเอยจะมาถึงวันนี้ อันที่จริงผมจะไปรับแต่คุณเจ้าเอยปฏิเสธทำไมเหรอครับ”
ชัยชนะชวนคุยกับผู้จัดการรีสอร์ตคนสวยเพื่อสร้างความคุ้นเคย เห็นแก้มเนียนแดงก่ำจากแสงแดดที่ร้อนระอุก็ยื่นพัดลมพกพาขนาดเล็กให้กับเธอ
“เอามาจากไหนคะเนี้ย”
หญิงสาวมองคนตรงหน้าอีกครั้ง แอบสำรวจเนื้อตัวของเขาที่พกของมากมายอย่างกับโดเรม่อน ถึงกระนั้นก็ยอมรับพัดลมจิ๋วมาใช้งานระหว่างเดินเข้าไป
“คุณเจ้าเอยยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะครับ”
“เรื่องนั้นไม่มีอะไรหรอกค่ะ เอยก็แค่จะหัดเดินทางด้วยตัวคนเดียว เวลากลับบ้านจะได้ไม่รบกวนใคร”
“เก่งอย่างที่คุณนายสมรบอกไว้เลยครับ”
“แค่เดินทางคนเดียวก็เก่งแล้วเหรอคะ” ถามกลับด้วยรอยยิ้มขบขันกับท่าทีตื่นเต้นของเขา
“ครับผม” ชัยชนะพยักหน้ารัวเร็วเพื่อตอบกลับ ก่อนจะเงยหน้ามองเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของเจ้านายที่บินว่อนอยู่บนท้องฟ้า “สงสัยคุณมังกรจะนั่งเครื่องบินเล่นจนเบื่อแล้วครับ”
เจ้าเอยขมวดคิ้วพร้อมเงยหน้าขึ้นมองเครื่องบินใหญ่เคลื่อนลงจอดบนสนามโล่งตรงหน้า แอบชะงักกับคำว่า ‘บินเล่น’ ของคนข้างกาย เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยธรรมดาไม่ได้ตื่นเต้นซึ่งผิดกับเธอที่ยืนอ้าปากค้าง
ดวงตาคู่สวยมองชายหนุ่มร่างสูงก้าวขาลงมาจากเครื่องบิน เขาเสยผมดกดำเล็กน้อยเพราะกระทบกับลมอย่างกับพระเอกซีรี่ย์เกาหลีที่เธอชื่นชอบ ตั้งแต่หัวจรดเท้าเต็มไปด้วยเสื้อผ้ารุ่นลิมิเต็ดจากแบรนด์ดัง บุคลิกสง่างามล้วนตอกย้ำความหล่อและเท่เข้าไปอย่างจัง
นี่สินะ ป๋าที่เปย์ส่งเธอเรียนจนจบ
‘มังกร’ มองสองชายหญิงผ่านแว่นตาดำ เขาทราบข่าวมาแต่เนิ่นๆ จากมารดาผู้บังเกิดเกล้าว่าวันนี้บุคคลที่เปรียบเสมือนลูกสาวของคุณเธอเดินทางมาที่วังน้ำเขียว ชายหนุ่มรับรู้เรื่องราวของหญิงสาวผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อส่งเธอเรียนจนจบ
ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยได้พูดคุย แต่หมดไปเป็นล้าน
“ปากคุณเจ้าเอยซีดๆ นะเอาลิปสติกไหมครับ”
ชัยชนะคาดเดาได้ว่าคนตัวเล็กคงตกใจกับความหล่อเฟอร์เฟคของเจ้านายเขาก็รีบยื่นลิปสติกแบรนด์หรูให้ เขาเข้าใจดีว่าความสวยสำหรับผู้หญิงสำคัญมาก ยิ่งมาเจอกับคนที่เปรียบเสมือนเทพบุตรก็ย่อมตกใจตื่นกลัว
“คุณชัยชนะกำลังทำให้ฉันกลัวนะคะ” ผู้ชายคนไหนมันจะพกของแบบนี้กัน!
“เจ้าเอยใช่ไหม”
ใบหน้าสวยของหญิงสาวหันมาสนใจชายหนุ่มตรงหน้าหลังได้ยินคำเอ่ยทักทายของเขา มือและปากของเธอสั่นเทาขึ้นมาเสียอย่างนั้น ปกติเข้าเอยเจอผู้ชายหน้าตาดีมานักต่อนักแต่ไม่เคยเสียอาการขนาดนี้มาก่อน
“ค่ะ”
“ฉันชื่อมังกร ส่วนนั่นชัยชนะรู้จักกันแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ยังไม่ได้ทานอะไรมาใช่ไหม”
“ค่ะ”
“พูดคำอื่นไม่เป็นหรือไง”
“ค่ะ เอ๊ย! ไม่ใช่ค่ะ”
มังกรหรี่ตามองผู้จัดการรีสอร์ตที่ยืนตื่นเต้นอยู่ตรงหน้าเขา อีกทั้งสาวเจ้ายังเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มถูกบรรดาเพื่อนสนิทล้อมาจนถึงวันนี้ด้วยประโยคที่ว่าเขาแอบเลี้ยงเด็กสาวมหาวิทยาลัยเอาไว้
“ฝากดูแลด้วยชัยชนะ ฉันจะเข้าไปดูดอกไม้ที่สวนหน่อย”
“ได้ครับเจ้านาย อย่าลืมใส่หมวกนะครับ”
เจ้าเอยมองหมวกใบใหญ่ที่คุณชัยชนะยื่นให้เจ้านายตัวเอง พร้อมสำรวจเนื้อตัวของเขาอีกครั้งอย่างแปลกใจ เขาเหนือมนุษย์มากกว่าที่คิดไว้เสียอีก
ดวงตาคู่สวยมองลอบแผ่นหลังกว้างที่พูดได้เต็มปากว่าน่าซบเสียเหลือเกิน ลมเย็นๆ พัดผ่านชวนให้ขนลุกก่อนจะเบิกตากว้างหลังเห็นเงาสีดำลอยตามติดตัวเขา มือหยาบกร้านลูบไล้ตามลำคอและไหล่ จากเงาดำๆ เริ่มปรากฏเป็นร่างผู้หญิงในชุดสีขาวเปื้อนเลือดทั้งตัว เธอคนนั้นค่อยๆ หันใบหน้ามาหาเธอพร้อมยิ้มกว้างเพื่อทักทาย
หญิงสาวรู้มาตลอดว่าตัวเองมีสัมผัสพิเศษ เธอจะสัมผัสในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น
คนตัวเล็กยังจำได้ว่าตัวเองมักจะมานอนฟังมารดาเล่านิทานก่อนนอนให้ฟังทุกคืนหลังจากที้ท่านเสียจนสร้างความหวาดผวาให้กับทุกคนในบ้าน
‘เจ้าเอยเห็นผี’
คราแรกหลงผิดคิดว่าเป็นความสามารถพิเศษ ทว่าทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเพราะทุกคนต่างมองว่าเธอบ้าหรือไม่ก็แปลกจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
“กรี๊ด!”
เจ้าเอยกรีดร้องตกใจออกมาสุดเสียง เท้าเรียวรีบวิ่งเข้าไปหลบด้านหลังคุณชัยชนะด้วยความหวาดกลัว จนชายหนุ่มเจ้าของรีสอร์ตเอี้ยวตัวหันกลับมาอย่างสงสัย
“รู้ครับว่าชอบเจ้านายของผม แต่คุณเจ้าเอยจะมากรี๊ดกร๊าดชื่นชอบอย่างกับเจอพระเอกหนังแบบนี้ไม่ได้นะ”
พระเอกหนังกะผีน่ะสิ!