“เธออยากรู้จักฉันมากกว่านี้มั้ย ?”
“ถะ ถอยไป...” ฉันผลักเขาออกห่างจากตัว แทนที่คนตรงหน้าจะยอมถอยไปแต่โดยดีเขากลับรวบแขนของฉันทั้งสองข้างขึ้น มันทำให้ฉันยิ่งหนีไปไหนไม่ได้
“ดูท่าเธออยากรู้จักฉัน” เขากระซิบที่หูของฉันด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ฉันรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว
“ใช่ฉันต้องอยากรู้อยู่แล้วว่านายชื่ออะไร”
“นายต้องการอะไร ฉันว่านายคงไม่ใช่คนดี” ฉันทำใจกล้าถามเขาทั้ง ๆ ที่ตอนนี้มันรู้สึกกลัวเขาเอามาก ๆ
“ต้องการ....” เขาก้มลงมองหน้าอกของฉันด้วยสายตาที่กำลังจะสื่อถึงความต้องการของเขา มันทำให้ฉันเม้มปากแน่นทันที “ตัวเธอมั้ง”
“ฉัน ไม่ ให้” ฉันพูดเน้นเสียงทีละคำ คนตรงหน้ากระตุกยิ้มมุมปากให้ฉันอย่างเจ้าเล่ห์ มันทำให้ฉันคิดได้ว่าถ้ายังไม่ทำอะไรสักอย่าง
ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีก่อนจะผลักผู้ชายตรงหน้าออก ซึ่งครั้งนี้ฉันทำสำเร็จจากนั้นฉันก็รีบถอยออกไปหนีให้ไกล ๆ จากผู้ชายอันตรายคนนี้
“กลัวทำไม ทีไปกับผู้ชายเยอะ ๆ เธอไม่เห็นจะกลัว”
“นายเอาอะไรมาพูด !!”
“แค่เห็น” เขาตอบก่อนจะเดินออกไปด้านนอกริมระเบียงห้องแล้วก็หยิบบุหรี่ออกมาจูดสูบ
ดูเขาสิ!! นี่มันไม่ใช่ห้องเขานะ อีกอย่างฉันไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ที่สุด
“อย่ามาสูบบุหรี่ในห้องฉัน !!” ฉันยืนเท้าเอวบอกเขาอย่างเหลืออด แต่ดูท่าทางที่แสนจะชิวของเขาสิ แถมยังพ่นบุหรี่ออกมาจากปากอย่างใจเย็นอีกต่างหาก
“หมดก่อนเดี๋ยวกลับ” เขาหมายถึงให้บุหรี่ที่เขาสูบอยู่หมดก่อนแล้วเขาถึงจะยอมกลับ
เขาทำเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้พูด หรือ ไม่ได้ทำอะไรที่มันเป็นการลวนลามฉันเลยสักนิด
“มายืนรอฉันที่หน้าห้องเพราะเห็นฉันไปกับผู้ชายงั้นสินะ นี่ถ้าจะจีบฉัน....”
“ไม่มีทาง” ควันของบุหรี่สีขาวถูกเขาพ่นออกมาคละคลุ้งไปทั่วจนฉันต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้
“แล้วนายมีเหตุผลอะไรที่มายืนรอฉันที่หน้าห้อง แถมยังมาที่ห้องฉันบ่อย ๆ”
“ไม่รู้จะไปไหน”
หึ!! เป็นคำตอบที่ดีหนิ ‘ไม่รู้จะไปไหน’ ทั้งที่ตอนนี้มันตีสองกว่าแล้ว เขาควรอยู่ที่ห้องของตัวเอง ไม่ใช่มายืนเฝ้าที่ห้องของฉัน
“งั้นก็รีบ ๆ สูบ แล้วก็รีบ ๆ ออกไปจากห้องของฉันซะ !!” ฉันออกปากไล่เขาอีกครั้งอย่างหัวเสีย
พูดจบฉันก็หันหลังให้เขาแล้วเดินไปนั่งบนโซฟาเพื่อรอดูว่าเขาจะกลับไปจริง ๆ อย่างที่เขาบอกหรือเปล่า
รอนั่งประมาณห้านาทีได้ ร่างสูงของคนที่เพิ่งจะสูบบุหรี่หมดมวนเดินกลับเข้ามาภายในห้อง เขามองหน้าฉันสักพักโดยไม่พูดอะไรก่อนจะเดินออกไปจากห้อง เมื่อเขาออกไปแล้วฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
เช้าวันใหม่....ฉันตื่นสายมากเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนมัวแต่ระแวงว่าอิตานั่นจะวกกลับเข้ามาในห้องฉันอีก ฉันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเอาผู้ชายคนนั้นออกไปจากชีวิตของฉันแล้วแหละ
“สายธารทำไมวันนี้แกมาสายนี่อีกไม่กี่นาทีก็จะเข้าเรียนแล้วนะ” พอมาถึงมหาวิทยาลัยพริ้งก็ท้วงฉันขึ้นทันที
“เมื่อคืนไปเที่ยวมาน่ะ” พูดจบฉันก็ยิ้มแห้ง ๆ ให้เพื่อน พอพริ้งมันรู้ว่าฉันไปเที่ยวมามันก็ถึงกับส่ายหน้าทันที
“แกน่ะ เบา ๆ บ้างก็ได้นะ เที่ยวเก่ง ดื่มเก่ง ไม่มีใครเกิน”
“ใช่สิแกมีแฟนแล้วหนิ”
“เดี๋ยวเถอะ!! แกอย่าให้ฉันพูดเรื่องผู้ชายที่ชอบมาห้องแกบ่อย ๆ นะสายธาร” ฉันถึงกับเงียบไปเถียงอะไรต่อ คือไม่อยากพูดถึง พูดถึงแล้วเดี๋ยวจะหงุดหงิดอีก
“จ้าแม่ ไปเรียนกันเถอะ”
ฉันเดินไปเรียนพร้อมกับพริ้งส่วนพวกเตคงจะรออยู่ในห้องเรียนแล้วแหละ เมื่อคืนเลย์บอกฉันฉันโทรไปปลุกแต่เป็นฉันสะงั้นที่ตื่นสายซะเอง
สองอาทิตย์ผ่านไป...ไม่รู้ว่าทำไมแต่ตั้งแต่คืนนั้นฉันก็ไม่เจอเขาอีกเลย บางทีอิตานั่นอาจจะคิดได้แล้วว่าไม่ควรจะมายุ่งกับฉันอีก ดีแล้วแหละ ดีมาก ๆ ด้วย ถ้าจะให้ดีก็ไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นแบบนี้ตลอดไปเลย ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ พิลึกชอบกล
#คลับ
วันนี้วันที วันดีอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่าฉันลากยัยพริ้งมาเที่ยวด้วยได้ล่ะสิ ที่นางมาแบบนี้ก็เพราะว่าพี่สิงห์แฟนของนางไปดูงานที่ต่างประเทศ ฉันเลยอ้อนให้มาเป็นเพื่อน
คือฉันเครียด ๆ น่ะ อีกไม่เท่าไหร่ก็จะปิดภาคเรียนแล้ว และนั่นหมายความว่าฉันต้องกลับบ้าน ซึ่งฉันไม่อยากกลับ เหตุผลน่ะหรอ ก็ไม่พ้นเรื่องที่พ่อของฉันมีเมียน้อยหรอก มันเครียดจริง ๆ นะ และเหล้านี่แหละคือสิ่งที่เยียวยาให้ฉันได้ดีที่สุดในตอนนี้
“สายธาร เที่ยงคืนกลับห้องนะเดี๋ยวพี่สิงห์โทรมา”
“แกนี่นะ อื้ออๆ เที่ยงคืนก็เที่ยงคืน”
ฉันรีบดื่ม รีบเมา วันนี้เมาได้เพราะพริ้งเป็นคนขับรถให้ เราไม่ได้มากันแค่สองคนนะ พวกเตก็มาด้วยแน่ตอนนี้พวกมันไปม้อสาวกันอยู่
“หวัดดี สาว ๆ” ในขณะที่ฉันกำลังตั้งใจดื่มเหล้าอยู่นั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“อ้าวพี่วายุ มายังไงคะเนี่ย” ฉันยังไม่ทันที่จะหันมามองได้ยินพริ้งมันท้วงขึ้นสะก่อน พอรู้ว่าเป็นใครฉันก็ไม่อยากจะหันไปมองแล้ว
วายุ คือแฟนเก่าของฉัน และเขาก็ฝากแผลไว้ให้ฉันอย่างเจ็บปวด เหตุผลที่เลิกกันน่ะหรอ ก็เพราะว่าฉันไม่ยอมมีอะไรกับเขาไง อย่างมากก็แค่จูบ นี่แหละผู้ชายที่เป็นจูบแรกของฉัน
“ดื่มเป็นแล้วหรอ ?”
“ยุ่ง!!” ฉันตอบไปอย่างรำคาญก่อนจะถอยตัวหนีวายุที่เอามือมากอดเอวฉันอย่างถือวิสาสะ
“สายธาร แกพูดกับพี่เขาดี ๆ หน่อย” พริ้งดุฉัน
“ฉันไม่ใช่แก ทำไมต้องพูดดีด้วย”
“อยากคุยด้วย ว่างมั้ย” วายุถามฉัน เขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ ฉันอีกครั้ง นี่มันวันซวยอะไรของฉันกันนะ ร้อยวันพันปีไม่เจอ ทำไมมาเจอกันวันนี้
“ไม่คุย ไม่มีอะไรจะคุย”
“ขอโทษ ไปคุยกันหน่อย” วายุเอามือมาคล้องเอวฉันอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าฉันพยายามที่จะขัดขืน แต่ด้วยความที่เมาแล้วก็ตัวฉันเล็กกว่าเขามากฉันเลยดันเขาออกไปไม่สำเร็จ
“พี่วายุ ปล่อย!!”
“ไปคุยกันก่อน” เขายังคงพูดวนแต่คำเดิม มันมีอะไรต้องคุยอีกล่ะ ผู้ชายแบบนี้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเขาไปมีอะไรกับใครมาบ้างในตอนที่คบกับฉัน
“พี่วายุคะ คือสายธารมันเมาแล้ว คุยอะไรตอนนี้ก็คงไม่รู้เรื่อง พริ้งว่ารอคุยตอนส่างเมาจะดีกว่านะคะ” พริ้งช่วยพูดเพราะคงเห็นสีหนาที่ไม่ค่อยพอใจของฉัน
เป็นจังหวะเดียวกันกับพวกไอ้เตที่เดินกลับมาที่โต๊ะพอดี วายุก็เลยยอมถอยออกไป
“ใครวะ ?” เลย์ถาม
“ผัวอิเจ้ชัวร์เลย แบบนี้ต้องฉลองเจ้ใหญ่จะมีผัวแล้ว” เตชินพูดแซว มันยกแก้วขึ้นตรงกลางโต๊ะเพื่อมี่จะให้พวกเราไปชนแก้วกับมันเนื่องในโอกาสที่ฉันมีผัว ดูมันพูดสิ น่าตบสักที !!
“ผัวบ้านแกสิไอ้บ้าเต !!”
“ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นแฟนเก่าสายธารน่ะ ^_^”
“พริ้ง บางเรื่องแกก็ไม่ต้องบอกพวกมันก็ได้ป้ะ ?”
จากที่ฉันจะหายเครียด ตอนนี้มันยิ่งหงุดหงิดเพราะไอ้พี่วายุคนเดียวเลย ฉันดื่มหนักกว่าเดิมชนิดที่ว่าแก้วเหล้าไม่มีว่าง หมดเติม หมดเติมจนคลับปิด
“เดี๋ยวเธอขับนำไปนะพริ้ง แล้วฉันจะขับตามหลัง สภาพแบบนี้คงหิ้วขึ้นห้องคนเดียวไม่ไหว”
“อื้อได้”
“นี่ขนาดเที่ยงคืนนะอิเจ้มึงหิวอะไรขนาดนั้นวะ”
เสียงพวกเพื่อนฉันคุยกัน ฉันเมามากไม่มากยัยพริ้งได้หิ้วปีกฉันมาที่รถคิดดูสิ พอขึ้นมาบนรถฉันก็หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
รู้สึกตัวอยู่ว่าพวกเพื่อน ๆ แบกฉันมาที่ห้องแต่ด้วยความที่มันง่วงมาก ๆ ฉันเลยพ้อยกละบไปอีกครั้ง
“อื้อ...” ฉันสะดุ้งรู้สึกตัวอีกทีเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรเย็น ๆ มาแตะที่หู ซึ่งมันน่ารำคาญ คนกำลังนอนหลับสบาย ๆ
“ตื่นแล้วหรอ”
“อื้อ รำคาญ อ่ะ คะ ใคร...” ฉันที่กำลังสะลึมสะลืออยู่ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะมือฉันมันดันไปสัมผัสโดนเนื้อแน่น ๆ ของแผงอกใครเข้าก็ไม่รู้
บอกตามตรงว่าตอนนี้ความรู้สึกของฉันมันหนักอึ้งไปทั่วทั้งหัว ด้วยความที่ดื่มหนักมาก ๆ มันทำให้ฉันไม่ค่อยจะมีแรงแต่ก็ยังพอมีสติ
“เธอทายสิ” ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดใบหน้าของฉัน บรรยากาศภายในห้องมันมืดสนิทจนฉันไม่รู้เลยว่าเป็นใคร จู่ ๆ เจ้าของเสียงทุ้มเข้มก็โน้มใบหน้าลงมาซุกไซร้ซอกคอของฉัน
“กรี๊ดดดด ไอ้บ้าอย่านะ อื้อออ ~” ปวกของฉันถูกปิดด้วยปากของคนด้านบน เมื่อดิ้นได้ไม่เท่าไหร่ฉันถึงได้รู้ว่าตอนนี้ร่างกายฉันโป๊อยู่ ใช่!! ฉันรู้สึกได้แบบนั้นจริง ๆ เพราะเมื่อดิ้นเนื้อผิวของฉันมันก็จะเสียดสีกับคนข้างบน
นะ นี่ฉันกำลังจะถูกข่มขืนงั้นหรอ มะ ไม่นะ แบบนี้ไม่ได้นะ !!
“อื้อออออ ~” ฉันพยายามสะบัดหน้าไปมาจนริมฝีปากหลุดออก แต่ยังไม่ทันที่จะตะโกนขอความช่วยเหลือ ฝ่ามือใหญ่ของคนที่พยายามจะปล้ำฉันมันก็เอามาปิดปากฉันไว้ซะก่อน
ด้วยความที่ฉันเมาแน่นอนว่าเรี่ยวแรงของฉันแทบจะไม่มีให้ขัดขืน ใจมันเต้นรัวเพราะความกลัว ไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน ไม่สิ!! ที่นี่คือห้องของฉัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันก็ไม่รู้
จู่ ๆ ฉันก็คิดถึงใครบางคนขึ้นมาได้
แต่ฉันไม่เจอเขาตั้งสองอาทิตย์แล้วนะ ถ้าเป็นเขาจริง ๆ ทำไมเขาถึงได้มาทำกับฉันแบบนี้
ฝ่ามือใหญ่ค่อย ๆ เคลื่อนออกจากริมฝีปากของฉันช้า ๆ ก่อนที่จะมีเสียงดัง แป็ก เป็นเสียงของโคมไฟบนหัวเตียงที่ถูกเปิดสว่าง นั่นมันทำให้ฉันได้เห็นใบหน้าของคนที่กำลังคร่อมตัวฉันเอาไว้ชัดเจน
เป็นเขาจริง ๆ ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ ใบหน้าฉันมันชาไปหมด
“นะ นาย...”
“แล้วเธอคิดว่าใคร หรือมีเยอะจนสับสน ?” เขาจับเรียวขาของฉันอ้าออกจากกันโดยที่ฉันขัดขืนอะไรไม่ได้เลย “เธอเมามากเลยนะ รู้ตัวมั้ย”
“อย่าทำแบบนี้....อึก กรี๊ดดดด ~” ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเขากระแทกสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในข่องทางคับแคบของฉัน มันรู้สึกมันตรงนั้นมันฉีกขาด มันเจ็บปวดมากอย่างมี่ไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันนอนตัวเกร็งไม่ขยับเพราะความเจ็บปวดที่เริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ
“เธอ...ยังไม่เคย ?” เขามองฉันเหมือนจะตกใจที่ฉันยังบริสุทธิ์
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะ....” เขาหยุดพูดเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่บางอย่าง แต่แล้ว จู่ ๆ เขาก็มองหน้าฉันด้วยสายตาที่แปลกไป “ช่างแม่ง !!”
“ฉะ ฉันเจ็บ เอาออกไป....” ฉันพูดออกไปเสียงแผ่วเบา มันแน่นจนแทบจะหายใจไม่ออก น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมาอาบแก้ม
ฉันพลาดเอง ฉันไม่น่าไปช่วยผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรก ฉันไม่น่ายอมให้เขาเข้ามายุ่งวุ่นวายกับฉันตั้งแต่แรก
“อย่าเกร็ง ถ้าเธอเกร็งมันจะทำให้เธอเจ็บ”
“ฉันไม่ต้องการแบบนี้....”
“แต่ฉันต้องการ อ๊า แน่นฉิบ!”