บทนำ
เฮนเดอร์สัน เอ็นเตอร์ไพรส์
"ออสตินครับ ไปรอดี้ที่ห้องทำงานก่อนนะครับ"
"ครับ"
เด็กหนุ่มดวงตาสีฟ้าครามในชุดเอี๊ยมน่ารักวัยแปดขวบเดินตรงไปที่ห้องทำงานของผู้เป็นพ่อในขณะที่ผู้เป็นพ่อของตัวเองแยกตัวออกไปทางอื่น เขายังเดินไปไม่ทันถึงห้องทำงานก็ได้ยินเสียงเอะอะในห้องที่คุณพ่อของตัวเองเดินเข้าใป
ใจเกิดสงสัย…
"เสียงอะไรหว่า"
เด็กชายออสตินแอบแง้มประตูดูเห็นภาพเหตุการณ์พบผู้ชายรูปร่างกำยำจำนวนกว่าสิบคนกำลังมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อของตัวเองอยู่ ด้วยความไม่รู้เด็กชายออสตินแอบคลานเข้าไปหลบใต้โต๊ะเพราะคิดว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือพ่อของตัวเองได้
หลังจากที่นั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะไม่นานเสียงในห้องก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เขาเกิดความกลัวแต่ยังคงแอบหมอบมองดูทั้งน้ำตาว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเขา ก่อนที่ใบหน้าน่ารักจะได้แนบลงไปที่พื้นเขานอนตะแคงเพื่อแอบดูผ่านช่องข้างล่าง ก็เกิดเสียงดังสนั่นราวกับฟ้าผ่าขึ้นหลายต่อหลายครั้ง
เปรี้ยงงงงง!!
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
"ดะ... ดี้ ฮื้ออออออออ~"
ออสตินเริ่มหวาดกลัวร่างเล็กตัวสั่นเทิ้มเขาเปล่งเสียงออกมาเบาๆ เพราะกลัวคนอื่นจะรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ มือเล็กยกขึ้นปิดปากที่สั่นเทิ้มเพราะความเสียใจของตัวเอง หยดน้ำตาไหล่ผ่านหน้าหยดแล้วหยดเล่า
"ดะ... ดี้ ดี้ครับ ช่วยตินด้วย ตินกลัว ฮื้ออออออ~"
เด็กน้อยวัยแปดขวบยังไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ชัดเจนนักก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเสียก่อน ด้วยความเป็นเด็กออสตินยกสองมือขึ้นปิดใบหูตัวเองแน่นแล้วตะเบ็งเสียงร้องออกมาจนสุดเสียง แข่งกับเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงที่ดังอย่างต่อเนื่องจนคนด้านนอกไม่ได้ยินเสียงของเด็กน้อยเลยสักคน เมื่อเสียงฟ้าผ่าเบาลง เขาใช้เวลาเพียงครู่เดียวแล้วค่อยๆ ลืมตามองหาพ่อของตัวเองผ่านทางช่องข้างล่างใต้โต๊ะตัวที่ตัวเองแอบอยู่กลับพบเพียงแค่
แดดดี้นอนจมกองน้ำสีแดงสด และแน่นิ่ง…
พ่อของเขานอนจมอยู่ในกองน้ำสีแดงสด ดวงตาสีฟ้าครามของร่างไร้วิญญาณยังคงเบิกโตขึ้นแล้วจ้องมองมาทางช่องใต้โต๊ะที่ลูกชายวัยสดใสของเขาหลบอยู่ สองสายตาของสองพ่อลูกประสานกัน คนหนึ่งเริ่มร่ำไห้ด้วยความหวาดกลัว
ส่วนอีกคน…
ไร้ลมหายใจไปแล้ว…
ออสตินยังคงนอนหมอบหลบอยู่ หลังจากนั้นเพียงไม่นานมากนัก กลุ่มชายชุดดำก็กองระเนระนาด บางส่วนก็วิ่งหนีออกไปพร้อมกับเสียงที่เขาได้ยินเมื่อครู่ดังขึ้นอีกครั้ง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เด็กน้อยออสตินสะดุ้งโหยงหลับตาปี๋ยกมือปิดสองใบหูของตัวเองร่างเล็กสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวเขาร้องไห้หวังให้แดดดี้ต้องมาคอยปกป้องเขาอย่างที่เคยเป็น
เด็กน้อยที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่พ่อตัวเองถูกฆ่า หัวใจดวงเล็กๆ ของเขาจะบอบช้ำมากเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ได้
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
สิ้นเสียงดังออสตินลืมตาขึ้น ถึงเขาจะเด็กแต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าพ่อของเขานั่นไร้ลมหายใจไปแล้ว สองดวงตาไร้แววสดใสเหมือนอย่างที่เคยมี แต่ทว่าออสตินกลับพบกับบางสิ่งบางอย่างที่ตกอยู่มันคือ แหวนเงินสลักลายพญาเหยี่ยว
ออสตินพยายามเอื้อมมือเล็กเข้าไปหยิบแต่มันก็ไม่ทันแล้วเมื่อมีใครบางคนกลับมาแล้วเก็บมันกลับไปเด็กชายวัยแปดขวบอยู่ในห้องเงียบๆ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงร้องไห้ แต่เขากลับพยายามจดจำวัตถุที่ตัวเองเห็นแล้วกำมือแน่น
"ติน ตินจะตามหามัน ตินจะแก้แค้นให้ดี้เอง"
ออสตินนอนมองร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นพ่ออยู่ใต้โต๊ะ เขากำหมัดแน่นร้องไห้ อยากสะอื้นไห้ออกมาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเด็กน้อยไม่รู้เลยว่าพวกคนอันตรายพวกนั้นจะกลับมาอีกไหม
ออสตินรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อกลับมาถึงที่บ้านของตัวเองแล้ว เขาหลับไปพร้อมกับน้ำตา และเสียงสะอื้นไห้ในใจ
ภาพจำของของเขาคือสายตาประสานกันกับแดดดี้เป็นครั้งสุดท้าย และภาพจำฝังใจของเด็กชายวัยแปดขวบคือ แหวนเงินสลักลายพญาเหยี่ยว
"ตื่นแล้วเหรอลูก"
"คะ... คุณอา ฮื้ออออออออ~"
เรื่องราวของเขาในวัยแปดขวบมันยังไม่จบเพียงเท่านั้น ใครจะรู้บ้างว่าเด็กตัวแค่นี้ต้องมารับรู้ว่าพ่อกับแม่ของตัวเองต้องมาตายในวันเดียวกัน
ใช่แล้ว แม่ของออสตินตามไปหาสองพ่อลูกที่ทำงานแต่เธอกลับซวยไปด้วย เธอถูกยิงจากใครบางคนในกลุ่มนั้น
และเธอ...
เสียชีวิตคาที่…
หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายนั้นผ่านไปออสตินใช้เวลารักษาสุขภาพจิตของตัวเองเป็นเวลาหลายปี กว่าเขาจะก้าวผ่านความยากลำบากของชีวิตนั้นมาได้
มันช่างทรมานเหลือเกินชีวิตที่ไร้พ่อขาดแม่…
ออสตินอยู่ในความดูแลของผู้เป็นอา เขาได้ขึ้นเป็นนายใหญ่สูงสุดในแก๊งมาเฟียแทนผู้เป็นพ่อในวัยเพียงสิบห้าปี เขาถูกฝึกฝนอย่างหนักหน่วง และผ่านความยากลำบากมามาก กว่าจะมีคนยอมรับเขาให้เป็นหัวหน้าแก๊ง และใช่ออสตินมีไอคิวที่มากกว่าคนทั่วไปเขาฉลาด แข็งแกร่ง และไร้ความปรานี
สองสิ่งที่ทำให้ออสตินมีชีวิตอยู่ได้ คือเขาต้องการแก้แค้นให้พ่อกับแม่ของเขา และเหตุการณ์ที่เขาพบเจอมามันสอนให้เขารู้ว่าเขาไม่ควรยกหัวใจให้ใคร ไม่ควรฝากชีวิตไว้ที่ใคร เพราะเมื่อเวลาที่ต้องสูญเสียมันจะทรมานแค่ไหน
เขารู้ดี...
ยี่สิบปีต่อมา
ออสตินพยายามสืบหาคนที่มีแหวนเงินสลักลายพญาเหยี่ยวเป็นเวลาตลอดหลายปีตั้งแต่ได้รับตำแหน่งใหม่ๆ แต่ตอนนี้เขายังไม่พบ เขารู้เบาะแสแค่เพียง ไอ้ฆาตกรคนนั้นมันเป็นตำรวจยศใหญ่ แต่เขาไม่สนใจหรอกนะว่ามันจะใหญ่มาจากไหน เขาต้องการแค่ปลิดชีพมันเพื่อแก้แค้นให้พ่อกับแม่ของเขาเท่านั้น แต่ด้วยความที่ว่าเขาต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานมาตลอดยี่สิบปีเต็ม
การปลิดชีพฆาตกรคนนั้นมันคงง่ายเกินไป
ตึก... ตึก... ตึก... ตึก...
เสียงวิ่งเข้าอาคารของตึกดังไล่มาจากทางเข้าจนเจียนใกล้จะถึงหน้าลิฟต์ เด็กสาวภายใต้รองเท้าส้นสูงสีดำขนาดห้านิ้วหอบแฟ้มเอกสารเข้ามาใกล้ประตูลิฟต์เรื่อยๆ
"รอหนูด้วยค่ะ คุณคะ คุณ"
ประตูลิฟต์เฉพาะของผู้บริหารภายในบริษัทเฮนเดอร์สัน เอ็นเตอร์ไพรส์ กำลังจะถูกปิดลงแต่เมื่อได้ยินเสียงใสตะโกนเรียกร่างสูงจึงกดชะลอลิฟต์เอาไว้เพื่อรอเด็กสาวที่ตะโกนเรียกให้เขารอ
แฮ่ก! แฮ่ก! แฮ่ก!
ปึก!
"อ่ะ!!"
ร่างบางชนเข้าที่แผงอกแกร่งของมาเฟียหนุ่มในคราบของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทนำเข้าส่งออกระหว่างประเทศจนหน้าผากมนของเธอขึ้นรอยแดง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้มาเฟียหนุ่มสนใจเธอได้เพราะสิ่งที่เขาสนใจมากกว่าเธอ คือแหวนเงินสลักลายพญาเหยี่ยวที่เธอห้อยไว้ที่คอต่างหาก
"นะ... หนูขอโทษค่ะ"