ตอนที่ 9 ตกลงค่ะ

1617 Words
เวลาอาหารมื้อเย็นผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนจึงไปรวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นเพื่อคุยธุระสำคัญที่ปราณนต์เอ่ยไปตั้งแต่แรก “ฝัน หนูรู้ใช่ไหม ว่าตอนนี้หนูก็ยังไม่พ้นอันตรายจากนายเพชรนั่น” “ฝันทราบค่ะ” “เรายังไว้ใจมันไม่ได้ ครั้งล่าสุดที่ลุงไปคุยกับพ่อของมัน นายพจน์ยอมรับเงินดอกเบี้ยชดเชย และสั่งไม่ให้ลูกชายของมันมายุ่งวุ่นวายกับฝัน หรือใช้กำลังฉุดลากฝันไปอีก แต่ลุงดูแววตาของมันแล้ว ลุงไม่เชื่อว่ามันจะทำได้ตามที่พ่อมันสั่ง เพราะอย่างที่บอกคือมันถูกใจฝัน และอีกหนึ่งเหตุผลคือ ยิ่งลุงและทุกคนปกป้องฝันในฐานะว่าที่ภรรยาของเหนือ มันยิ่งอยากเอาชนะ ลุงเลยคิดว่า ลุงคงต้องจัดงานแต่งงานให้ทั้งคู่แล้วล่ะ” สาวน้อยพาฝันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอคิดมาโดยตลอดว่าลุงปราณต์ของเธออาจจะแค่ขู่นายมาเฟียนั่นเพียงเท่านั้น ถึงเวลาจริงๆ คงไม่ได้จับเธอกับเขาแต่งงานกันหรอก เพราะดูท่าทางเขาออกจะเจ้าชู้เพลย์บอย ควงแต่ละคนก็ระดับดารานางแบบและไฮโซทั้งนั้น จะยอมแต่งงานกับเด็กกะโปโลอย่างเธอได้อย่างไร หรือต่อให้เขายอมแต่ง เธอก็ไม่อยากจะแต่งด้วยเลย คนอะไร ทั้งที่เป็นฝาแฝดกับคุณหมอรูปหล่ออย่างน่านฟ้า แม้น่านฟ้าจะเป็นคนนิ่งๆ แต่ก็ยังชวนเธอพูดคุยออกบ่อย ผิดกับเหนือเมฆคนนี้ แม้จะมีใบหน้าหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นพิมพ์เดียวกับหมอน่านฟ้าเป๊ะ แต่ดวงตาของเขาดุชะมัด บุคลิกก็ดูเย็นชาแปลกๆ จนเธอไม่สามารถเดาใจออกว่าภายใต้ใบหน้าที่ฉาบด้วยน้ำแข็งนั้น เขากำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่ และคนที่ไม่เคยเจอหน้ากันเลย จะมาจับแต่งงานกันได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเหตุผลสำคัญของการแต่งงานในครั้งนี้ คือเพื่อทำให้เธอปลอดภัยจากมาเฟียลูกแหง่นั่นก็ตาม “คุณลุงคะ จำเป็นจริงๆ หรอคะ ที่ฝันจะต้องแต่งงานกับคุณเหนือเมฆ” เหนือเมฆเหลือบสายตาขึ้นมองเด็กสาวที่พูดราวกับตั้งใจจะปฏิเสธการแต่งงานในครั้งนี้ อะไรกัน เขาออกจะเพอร์เฟคขนาดนี้ ดูเจ้าหล่อนสิ ทำทีเป็นอึกอักอึดอัด ทำหน้าตาราวกับกินยาขม โถทูนหัว ถ้าได้เขาเป็นผัวนี่เหมือนเธอถูกรางวัลที่หนึ่งนับสิบใบ จะมีแต่คนอิจฉาเจ้าหล่อนสิไม่ว่า แต่ดูเจ้าตัวทำทีเหมือนกับรังเกียจเขาเสียเต็มประดา มันต้องเป็นเขามากกว่าไม่ใช่หรือ ที่จะรู้สึกอึดอัดกับการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ของเจ้าหล่อนล้วนๆ แบบนี้ แค่คิดก็เริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์กับเด็กนี่เสียแล้ว “ถ้าถามลุงว่าจำเป็นไหม ลุงตอบได้เลยว่าค่อนข้างจำเป็น ถึงแม้วันนี้ลุงจะส่งบอดี้การ์ดคอยดูแลฝัน แต่มันก็ไม่เหมือนกับการที่ฝันได้ใช้นามสกุลอธิพัฒน์โภคิน ในฐานะเมียของเหนือเมฆ เพราะจะไม่มีใครกล้ามายุ่งกับฝันอีก” “แต่ฝันกับคุณเหนือเมฆ เรา…” “โธ่เอ๊ยฝัน กังวลเรื่องนี้เองหรือลูก ฝันไม่ต้องกังวลไป ป้ากับลุงจะให้ฝันกับพี่เขาแต่งงานกันแค่ในนามเท่านั้น ฝันกับพี่เขาจะแยกห้องนอน ต่างคนต่างใช้ชีวิตของใครของมัน จนกว่าฝันจะเรียนจบ หรือทำงาน หรือปลอดภัยจากนายเพชรนั่นจริงๆ เสียก่อน สองคนค่อยหย่ากัน แต่ถ้าฝันกังวลเรื่องประวัติของฝันจะเสียหาย ป้าจะจัดงานแต่งงานให้เล็กที่สุด แค่รู้กันในหมู่ญาติและเพื่อนฝูงที่สนิทกันก็พอ เมื่อวันหนึ่งที่ทั้งคู่ต้องหย่าร้างกัน จะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันได้ง่ายหน่อย ฝันมีคนรักอยู่หรือเปล่าจ๊ะตอนนี้” “เอ่อ ไม่มีค่ะคุณป้า ฝันยังไม่มีแฟน” “ไม่มีแฟนแล้วคนคุยล่ะจ๊ะ มีบ้างหรือเปล่า” “ก็มีบ้างค่ะ” “ถ้าอย่างนั้น คนที่ฝันคิดว่าอาจจะเป็นคนที่จะคบเป็นแฟน ก็ให้ฝันเล่าความจริงให้เขาฟังแล้วกันนะลูก ว่าฝันต้องแต่งงานกับพี่เขาเพราะอะไร เขาจะได้สบายใจ ถ้าไม่เชื่อก็พาเขาเข้ามาพบลุงกับป้าก็ได้ จะช่วยยืนยันให้” “คงไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกค่ะคุณป้า เพราะฝันเองก็ไม่คิดว่าจะคบกับใครจนถึงขั้นเป็นแฟนเหมือนกัน อย่างน้อยๆ ก็ในตอนที่ยังเรียนไม่จบแบบนี้ ฝันยังไม่เคยคิดเรื่องมีแฟนหรอกค่ะ” “ดี ยังไม่มีก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ ว่าตอนที่เราแต่งงานกันไปแล้ว เธอได้ชื่อว่าเป็นเมียของฉัน เพราะฉะนั้น ถ้าจะมีใครเข้ามาคุยด้วยในช่วงนี้ ก็ระมัดระวังตัวเองให้ดี อย่าให้มีเรื่องเสียหายเกิดขึ้นตามมา อย่าทำให้ฉันและครอบครัวขายขี้หน้าก็แล้วกัน” คนตัวบางตวัดสายตามองว่าที่สามีของตัวเอง คนอย่างเธอมีความยับยั้งชั่งใจมากพอ คนที่ควรระวังคือเขาเสียมากกว่า ไม่เห็นจะต้องมาสั่งสอนเธอเลย เธออยากจะรู้นักว่าตลอดเวลาที่แต่งงานอยู่ด้วยกัน เขาจะมีข่าวเสียหายออกมาอีกสักกี่ครั้ง “เอาล่ะตาเหนือ อย่าไปข่มขู่น้องมากนัก แม่บอกแล้วว่าน้องเป็นเด็กดีและเชื่อฟังผู้ใหญ่ รู้จักผิดชอบชั่วดีมากพอ ระวังเอาไว้แต่ฝ่ายตัวเองนั่นแหละ อย่าไปทำรุ่มร่ามกับสาวๆ ในสต๊อกของตัวเองจนนักข่าวจับได้ แล้วเอาไปทำข่าวซุบซิบเสียหายมาถึงครอบครัวเราก็แล้วกัน” “โธ่แม่ครับ แม่เข้าข้างลูกคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง แบบนี้มันไม่ได้นะครับ” “แม่ไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น ว่ากันไปตามเนื้อผ้า เพราะแม่เองก็เห็นฝันมาตั้งแต่เกิด เคยเจอหน้ากันก็หลายครั้ง ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าน้องเป็นเด็กแบบไหน และเราที่แม่คลอดและเลี้ยงมาเองกับมือ โตมาจนอายุขนาดนี้ ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าลูกตัวเองเป็นคนแบบไหน” “พูดอะไรก็เข้าตัวไปซะหมด ดูสิครับพ่อ ขนาดยังไม่ทันได้แต่งเลย แม่ก็เห่อลูกสาวคนใหม่ซะแล้ว เห็นทีว่าผม ไอ้น่านแล้วก็มะลิ คงจะตกกระป๋องซะแล้วครับคราวนี้” คนที่ถูกเอ่ยถึงทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วอมยิ้มขำ เห็นทีคนที่ตกกระป๋องจะเป็นแค่ว่าที่เจ้าบ่าวคนเดียวเท่านั้นแหละ เพราะชอบทำตัวดื้อดึงขัดใจคนเป็นแม่อยู่ร่ำไป “มาหาข้อสรุปกันดีกว่า สรุปว่าฝันยอมแต่งงานกับพี่เขาไหมลูก” “ได้ค่ะ ตกลงว่าฝันจะแต่งงานกับคุณเหนือเมฆค่ะ” “ก็เท่านั้น” เหนือเมฆหันไปประสานสายตากับว่าที่เจ้าสาวคนสวย ซึ่งเธอเองก็มองมายังเขาอย่างไม่ลดละ คนหล่อจึงยกยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ หึ กล้าดีนี่ ตัวแค่นี้ กล้ามองจ้องสบตาดุๆ ของเขาได้นานขนาดนี้เชียวหรือ ท่าทางเด็กนี่จะไม่ธรรมดาเสียแล้ว ก็ดีเหมือนกันชีวิตที่มีแต่งานของเขาจะได้มีสีสันขึ้นมาบ้าง แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าถ้าเธอดื้อกับเขาและไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของสามีที่แก่กว่าเธอถึงสิบสี่ปีอย่างเขาแล้วล่ะก็ เขาจะสวดเธอทุกวัน จะหาเรื่องมาทำโทษ เอาให้เธอไม่กล้ากับเขาอีกเลย บนรถตู้แบบ vip คันหรูสีดำมันปลาบ เหนือเมฆนั่งเคียงข้างมากับว่าที่เจ้าสาวเพื่อมาส่งเธอจนถึงคอนโดมิเนียมตามคำสั่งของผู้ใหญ่ ภายในรถเงียบกริบมีเพียงเสียงลมหายใจของคนทั้งคู่เท่านั้น ที่ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของตัวเอง แต่แล้วโทรศัพท์มือถือของคนตัวบางก็ดังขึ้น เธอจึงกดรับสายแล้วกรอกเสียงหวานๆ ลงไปตามสายนั้น ทำให้ว่าที่สามีที่นั่งอยู่เคียงข้างและได้ยินทุกสิ่งอย่างที่ดังเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูนั้น อดที่จะลอบเบะปากไม่ได้ คุยกับผู้ชายคนอื่นนี่เสียงอ่อนเสียงหวาน ทีคุยกับว่าที่สามีอย่างเขาเสียงแข็งอย่างกับอะไร จ้องตาเขาไม่เคยลดละ ราวกับเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาแต่ชาติปางไหน ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอแท้ๆ เด็กบ้าอะไรไม่รู้คุณคนเอาเสียเลย “สวัสดีค่ะพี่ไอย์ มีอะไรหรือเปล่าคะ โทรมาดึกเชียว” “สวัสดีครับฝัน พี่รบกวนหรือเปล่า กำลังทำอะไรอยู่ครับ” พาฝันเหลือบตามองว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเองที่นั่งอยู่เคียงข้าง รู้สึกเกรงใจเขา จึงไม่ค่อยอยากจะพูดคุยโทรศัพท์ตรงนี้สักเท่าไหร่ “เอ่อ ฝันอยู่บนรถค่ะ ไว้ถึงคอนโดแล้วฝันโทรหาพี่ใหม่ได้ไหมคะ ตอนนี้ยังไม่ค่อยสะดวกเลยค่ะ” “ได้ครับ งั้นพี่รอนะ ถึงคอนโดอาบน้ำแล้วรีบโทรหาพี่นะครับ” “ค่ะพี่ไอย์” เธอกดวางสายไปก็พอดีกับที่รถจอดเทียบทางขึ้นคอนโด จึงเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเอ่ยร่ำลาเจ้าของรถที่อุตส่าห์มาส่ง ทั้งที่ก็ไม่ได้ดูจะเต็มใจสักเท่าไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD