“ไอ้เวย์ เรื่องร้านซ่อมรถที่ซื้อต่อน้ามึงเรียบร้อยยังวะ”
รามินเอ่ยถามเวย์ขึ้นขณะที่นั่งรอทำกิจกรรมรับน้องในช่วงบ่าย เพราะวันนี้ทั้งวันปีหนึ่งยังไม่ได้เรียนเพราะต้องทำกิจกรรมรับน้องก่อน
“เรียบร้อยแล้ว กูว่ารับน้องเสร็จจะเข้าไปดูร้านอยู่ กะว่าจะไปคุยเรื่องการดูแลร้านกับลูกน้องคนเก่าของน้ากูสักหน่อย ช่วงที่เรียนกูต้องหาคนที่ไว้ใจได้ดูแลให้ก่อนแล้วค่อยไปเคลียร์งานทุกๆ หลังเลิกเรียน”
เวย์ตอบรามินไปตามตรงเพราะเขาและรามินต่างก็สนิทกันตั้งแต่เรียนมัธยม เวย์จึงไว้ใจรามินมากถึงขั้นสามารถคุยได้ทุกเรื่องโดยไม่มีอะไรปิดบัง เช่นเดียวกับรามินที่ไว้ใจเวย์มากเหมือนกัน
“อืม มึงก็เลือกดีๆ ล่ะ มีอะไรให้กูช่วยก็บอกได้ตลอดนะ”
รามินพูดขึ้นพร้อมกับตบบ่าเวย์
“งั้นมึงก็ช่วยมาเป็นลูกค้าให้กูหน่อยสิ เอารถมาให้ร้านกูซ่อมทุกวันเลยยิ่งดี”
เวย์พูดขึ้นอย่างกวนๆ ใส่รามิน
“ไอ้สัส นี่มึงกะจะให้รถแข่งกูพังทุกวันเลยรึไง กูเจ๊งตายพอดี เอาเป็นว่ากูทำสัญญาใช้บริการซ่อมกับร้านมึงตลอดก็แล้วกันถือว่ากูดูแลเรื่องอะไหล่แต่ง ส่วนมึงดูแลเรื่องซ่อมรถ”
รามินตวาดด่าเวย์ทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เพราะรามินเปิดสนามแข่งรถจึงยื่นข้อเสนอให้เพื่อนรักตัวเองทันที เพราะฝีมือซ่อมรถของเวย์นั้นเทียบกับช่างฝีมือดีที่ผ่านประสบการณ์มาหลายปีเลยก็ว่าได้
“โอเค เดี๋ยววันไหนร้านกูไม่มีรถให้ซ่อม กูจะไปพังรถแข่งมึง มึงจะได้มาใช้บริการกู ฮ่าๆ”
“ไอ้สัส”
รามินด่าเวย์ทันทีเมื่อโดนพูดกวนใส่แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเพราะพวกเขาทั้งสองนั้นพูดกวนกันแบบนี้ตลอดอยู่แล้ว เวย์และรามินนั่งคุยกันสักพักก็ถึงเวลาทำกิจกรรมรับน้องต่อ ทั้งสองจึงหยุดคุยแล้วไปทำกิจกรรมทันที หลังจากทำกิจกรรมรับน้องเสร็จเวย์ก็แยกตัวจากรามินเพื่อจะไปดูร้านซ่อมรถของน้าวิทย์ที่ตอนนี้กลายมาเป็นของเขาเรียบร้อยแล้ว ขณะที่เวย์กำลังเตรียมจะสตาร์ทรถก็ต้องหยุดชะงักเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีสาวสวยผมแดงเดินมายืนฝั่งประตูคนขับที่เขานั่งอยู่ ตาคมหันไปมองอย่างตั้งคำถามว่าเธอมาหยุดอยู่ที่รถเขาทำไม
“จะทำอะไรว่ะ อย่าบอกนะว่าจะหาอะไรมาขูดรถ กูก็ไม่เคยไปทำอะไรให้ผู้หญิงคนไหนไม่พอใจนะ”
เวย์พูดขึ้นคนเดียวในรถเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นกำลังล้วงหยิบของในกระเป๋าตัวเองจนทำให้เขาระแวงว่าเธอจะหยิบอะไรมาขูดรถเขารึเปล่า
“เฮ้ออ! ทำเอาตกอกตกใจหมดเลยนะคนสวย”
เวย์ถอนหายใจโล่งอกทันทีเมื่อสิ่งที่เธอหยิบออกมาจากกระเป๋าก็คือลิปสติกนั่นเอง เวย์ได้แต่มองสาวสวยผมแดงที่ตอนนี้โน้มหน้ามาใกล้กระจกรถของเขาแล้วทาลิปสติกอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับทำท่าจุ๊บใส่กระจกรถเขาอีก ทำเอาเวย์ถึงกับนึกอย่างแกล้งเธอขึ้นมาทันที
“ว้ายยย!”
เมื่อเห็นเธอกำลังจะทาลิปซ้ำอีกมือหนาก็สตาร์ทรถทันทีทำเอาสาวสวยข้างนอกถึงกับร้องตกใจทาลิปเลยปากตัวเอง จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อมองกระจกหลังไปก็เห็นสาวสวยข้างหลังทำท่ากระฟัดกระเฟียดเหมือนกำลังด่าเขาอย่างไม่พอใจ
“อื้อออ ไอ้คนบ้า ไอ้คนนิสัยไม่ดี ทำไมทำกับคนสวยแบบนี้ งืออ เลอะหมดแล้วหน้าฉัน”
นิชาสาวสวยคณะนิเทศศาสตร์ปีสามพูดขึ้นอย่างหัวเสียเพราะขณะที่เธอกำลังรอพ่อมารับกลับบ้านก็เลยหยุดทาลิปเติมหน้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวเองเพราะเธอเป็นคนรักสวยรักงามจึงไม่ค่อยชอบให้หน้าตัวเองดูสดสักเท่าไหร่ด้วยความที่กระจกที่แป้งพัฟเธอดันแตกจึงมาหยุดส่องกระจกรถสปอร์ตที่จอดข้างฟุตบาทด้วยความที่คิดว่าในรถไม่มีคนเธอจึงหยิบลิปสติกมาทาแล้วโน้มหน้าส่องกระจกรถ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ในรถแถมยังแกล้งสตาร์ทรถให้เธอตกใจจนทาลิปเลยปากตัวเองอีกด้วย
“ไม่ลงมาขอโทษสักคำ ตั้งใจแกล้งกันชัดๆ อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร แม่จะหยุมหน้าให้เข็ดเลยคอยดู”
นิชาพูดขึ้นอย่างคาดโทษขณะเดินมาส่องกระจกรถอีกคันเพื่อมาเช็ดหน้าตัวเอง
“ยัยนิ ไหนแกบอกว่าพ่อมารับแล้วทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ นั่นหน้าแกไปโดนอะไรมา”
เค้กเพื่อนสนิทของนิชาเอ่ยถามทันทีด้วยความสงสัยเพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกเลยยังไม่ได้เริ่มเรียน เค้กจึงแยกตัวจากนิชาเพื่อไปหาแฟนของเธอ แต่แฟนเธอดันกลับไปโดยไม่บอกเธอก่อนเค้กจึงเดินมาที่จอดรถก็เห็นเพื่อนตัวเองกำลังเช็ดหน้าอย่างอารมณ์เสียอยู่
“พ่อใกล้จะถึงแล้ว ฉันเลยมายืนเติมลิปสักหน่อย แต่ไม่รู้ไอ้บ้าที่ไหนมาแกล้งสตาร์ทรถใส่ฉันจนฉันตกใจทาลิปเลยปากตัวเองเลยเนี่ย โอ้ยย! พูดแล้วก็โมโห อย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร แม่จะหยุมผมมาตบเลย แกล้งเรื่องอื่นพอรับได้แต่มาแกล้งให้หน้าเลอะหมดสวยแบบนี้นิชายอมไม่ได้ค่า”
นิชาพูดร่ายยาวอย่างคาดโทษคนที่แกล้งเธอด้วยความโมโหจนเค้กได้แต่หัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ แกก็เจ้าคิดเจ้าแค้นเค้าเนาะ เค้าอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้”
เค้กพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางโมโหของเพื่อนตัวเอง
“ไม่ได้ตั้งใจอะไรล่ะ ขอโทษก็ไม่มี มันตั้งใจแกล้งกันชัดๆ เลย”
นิชาตอบเค้กไปอย่างอารมณ์เสีย
“แล้วถ้าคนในรถเป็นผู้ชายหล่อๆ ล่ะ แกจะให้อภัยเค้ามั้ยจ้ะเพื่อน”
เค้กแกล้งพูดแซวนิชาทันทีเพราะอยากรู้ว่าเพื่อนเธอจะตอบยังไง
“หล่อแต่นิสัยไม่ดีชอบแกล้งแบบนี้ฉันไม่เอาหรอกย่ะ ถ้าเจอนะฉันจะเตะให้ไข่แตกเลยคอยดู”
เค้กหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของนิชา
“ว่าแต่แก ไหนบอกจะไปหาพี่เรนทำไมถึงมานี่ได้ล่ะ”
นิชาเอ่ยถามเพื่อนด้วยความสงสัย จนเค้กหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินคำถามของนิชา
“พี่เรนกลับคอนโดเค้าไปแล้ว”
“ห๊ะ! อีกแล้วหรอ เป็นแฟนประสาอะไรไปไหนมาไหนไม่ยอมบอก เลิกเรียนก็หนีกลับก่อนตลอด แกโอเคป่ะเนี่ยยัยเค้ก”
นิชาถามเค้กด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นหน้าเพื่อนตัวเองซึมลงอย่างชัดเจนเพราะรู้ว่าตอนนี้เพื่อนรักของเธอกำลังระหองระแหงกับแฟนอยู่
“ฉันชินแล้ว ฉันไม่เป็นไรไม่ต้องห่วงนะแก นั่นรถพ่อแกมาแล้ว”
นิชาหันไปมองทันทีเมื่อได้ยินเค้กพูดก็เห็นรถของพ่อตัวเองกำลังขับตรงมาหาพวกเธอทั้งสอง
“มีอะไรโทรหาฉันนะยัยเค้ก ห้ามเก็บไว้คนเดียว”
นิชาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“อืออ ขอบใจนะแก”
ขณะที่นิชาและเค้กกำลังคุยกันรถของพ่อนิชาก็มาจอดข้างๆ พวกเธอ
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
เค้กยกมือไหว้พ่อของนิชาทันทีเมื่อท่านลดกระจกรถลง
“หวัดดีจ้ะหนูเค้ก วันนี้เอารถมามั้ยให้พ่อไปส่งมั้ยลูก”
นวัชรพ่อของนิชาเอ่ยถามเพื่อนลูกสาวอย่างเป็นกันเอง
“วันนี้หนูเอารถมาค่ะคุณพ่อ งั้นหนูขอตัวนะคะ บ๊ายบายแก”
เค้กกล่าวลานวัชรแล้วหันไปพูดกับนิชา
“อืออ บ๊ายบาย เจอกันพรุ่งนี้แก”
นิชาตอบเค้กด้วยรอยยิ้มเมื่อลากันแล้วนิชาก็ขึ้นรถพ่อตัวเองทันที
“ใครมาทำให้ลูกสาวคนสวยของพ่ออารมณ์เสียกันน๊า หน้าบึ้งเชียว”
นวัชรพูดแซวลูกสาวตัวเองด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นนิชาทำหน้าเหมือนกำลังโกรธใครอยู่
“ก็มีคนมาทำให้หน้าคนสวยของพ่อเลอะน่ะสิคะ งืออ ดีนะเช็ดออกไม่งั้นหมดสวยเลย”
นิชาฟ้องพ่อตัวเองพร้อมกับทำหน้าเบ้จะร้องไห้ใส่พ่อจนนวัชรได้แต่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“โอ้ ใครช่างเป็นผู้กล้าสามารถแกล้งคนสวยของพ่อได้เนี่ย ฮ่าๆ สงสัยต้องตบรางวัลที่ทำให้ลูกพ่อโกรธได้”
“พ่อ! นี่ลูกสาวคนสวยของพ่อนะ แทนที่จะไปจัดการคนที่แกล้งนิไม่ใช่จะไปตบรางวัลเค้า โป้งพ่อแล้ว”
นิชาพูดโวยวายใส่พ่อตัวเองทันทีเมื่อโดนพ่อพูดกวนใส่
“ฮ่าๆ ก็มันจริงนิ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นใครทำให้ลูกโมโหแบบนี้ หรือเรียกว่าไม่เคยมีใครกล้าแกล้งลูกเลยมากกว่า แต่วันนี้มาโดนแกล้งเอาซะพ่ออย่างเห็นหน้าคนแกล้งเลย ฮ่าๆ ”
นวัชรพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี ด้วยสกิลปากและนิสัยไม่ยอมคนของลูกสาวเขาจึงแทบไม่มีใครกล้าหาเรื่องหรือกล้าแกล้งเธอเลยสักคน
“ชิ ไม่พูดกับพ่อแล้ว”
นิชาแกล้งพูดงอนพ่อตัวเองอีกคนเพราะไม่อยากเถียงกับท่านต่อจนนวัชรได้แต่พูดกวนลูกสาวตัวเองไปเรื่อยๆ จนขับรถมาถึงบ้านนิชาก็วิ่งแจ้นมาฟ้องแม่ตัวเองทันทีทำเอาเธอหัวเสียมากกว่าเดิมเพราะแม่ดันหัวเราะแล้วบอกอยากเห็นหน้าคนแกล้งเธอด้วยอีกคน