มือเรียวจับลูกบิดประตูแล้วหมุน ผลักให้เปิดออกกว้างก่อนจะก้มลงหยิบอุปกรณ์ที่นำมาด้วยแล้วเดินเข้าห้องด้านใน แต่พอเงยหน้าขึ้นกลับต้องชะงักไปกับภาพบางอย่าง
คนที่อยู่ในชุดสูททำงานตอนนี้ไม่มีแล้ว มีเพียงกางเกงสแล็คตัวเดียวช่วงล่าง เสื้อ ถุงเท้า เข็มขัดเขาถอดออกหมด
พัทธมนเพิ่งเคยเห็นสัดส่วนของเขาชัดๆ ก็วันนี้ กล้ามเนื้อเรียงตัวกันสวยงามเป็นลอน อกผายไหล่ผึ่งตามฉบับของผู้ชายชอบดูแลตัวเอง
ดึงสายตากลับมาแล้วเดินก้มหน้าไปวางอุปกรณ์ที่มุมห้อง ก่อนจะเดินกลับมาเพื่อเช็ดฝุ่นที่มันอยู่ตามชั้นวางของ แต่ภาพที่เห็นคือคนที่ใส่กางเกงสแล็คเมื่อกี้ตอนนี้ไม่มี! เขาเปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวตัวเดียวแล้วนั่งจิบไวน์ชิลๆ มองมาที่เธอ
พัทธมนพยายามไม่สนใจ ทว่าเธอจะเช็ดฝุ่นแต่เขามาดื่มไวน์แบบนี้เดี๋ยวฝุ่นก็เข้าในแก้วหรอก
ไหนต้องทำทั้งห้องฝุ่นคงฟุ้ง เธอก็ไม่ได้เอาเครื่องดูดฝุ่นขึ้นมาด้วยกะว่าจะใช้ผ้าเช็ดเอา
"คุณใหญ่คะ" ปรเมศวร์เลิกคิ้วทันทีเมื่อพัทธมนเรียกชื่อเขามา
"พอดีเอยต้องปัดกวาดเช็ดถู ฝุ่นมันอาจโดนคุณ เครื่องดื่มของคุณ เอยว่าคุณลงไปนั่งดื่มด้านล่างดีกว่ามั้ยคะ"
"งั้นเหรอ.." ปรเมศวร์พยักหน้าช้าๆพลางคิดตาม "ก็เข้าท่า"
หญิงสาวคลี่ยิ้มออกมาบางๆ เมื่อเขาว่าง่าย
"แต่ฉันอยากนั่งดูเธอทำความสะอาดมากกว่าไง จะทำได้ดีสักแค่ไหนกันเชียว"
"แต่.." พัทธมนมีสีหน้าลังเล
"ทำได้แล้วอย่าถ่วงเวลา" ตามจริงห้องเขาไม่ได้สกปรกขนาดนั้นจะไปเอาฝุ่นที่ไหนมาฟุ้ง คิดว่าเขาจะทนอยู่ในห้องสกปรกอย่างนั้นเหรอ หึ
พัทธมนเริ่มทำความสะอาดจากสิ่งของที่อยู่ด้านบนก่อน แต่เธอก็ไม่เห็นว่ามันจะสกปรกอะไรเลย ออกจะใหม่เอี่ยมด้วยซ้ำ ปาดมือลงบนชั้นที่เป็นไม้ขึ้นมองไม่มีสักนิดเลย มองไปทางเขาอย่างจ้องจับผิดว่าเขาจงใจแกล้งอะไรหรือเปล่า แต่พอเห็นเขาตวัดสายตามาทางนี้หญิงสาวรีบลงมือทำ
แต่พื้นที่ที่เขานั่งทำให้เธอทำได้ไม่ถนัด
"คุณใหญ่คะ เอยขอทำความสะอาดตรงนั้นหน่อยนะคะ"
ปรเมศวร์เลื่อนเก้าอี้ทำงานออกไปด้านหลังนิดหนึ่งพัทธมนจึงเดินเข้าไปทำ แต่เชื่อไหมว่าน้ำหอมจากกลิ่นกายของเขามันยิ่งได้กลิ่นชัดมากเมื่อเข้าใกล้
ตอนเขาใส่เสื้อไม่เท่าไหร่ แต่พอไม่มีชุดทำงานกลิ่นกายของเขาเป็นเอกลักษณ์มาก และเธอไม่เคยได้กลิ่นหอมของใครที่ทำให้รู้สึกหวั่นใจเช่นนี้ ถึงเธอจะคลุกคลีกับปรมมากกว่านี้สิบเท่าแต่เธอไม่เคยรู้สึกประหม่าเท่านี้มาก่อนเลย
"คุณใหญ่เขยิบให้เอยอีกนิดนะคะ" หญิงสาวบอกเขาเสียงเบาทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตาทำ
ปรเมศวร์ลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมไปยังด้านหลังคนตัวเล็กแล้วให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจ
จังหวะที่พัทธมนจะหันหลังกลับ กลับปะทะกับอกแกร่งของเขาทำให้เธอแทบล้มลงไปถ้าไม่ได้เขาช่วยเธอเอาไว้
"อื้อ" แต่ก็เพราะเขาไม่ใช่หรือไงที่มาอยู่ใกล้เลยทำให้เธอไม่ทันได้ระวังตัว หญิงสาวพยายามจะผลักเขาออกห่างแต่ไม่เป็นผล กลับกันเขาเปลี่ยนมากอดรัดตัวเธอแน่นขึ้นจนตัวแทบลอยขึ้นจากพื้น
"คุณใหญ่ปล่อยค่ะ เอยทำความสะอาดอยู่นะคะ อีกอย่างตัวเอยมีเหงื่ออย่ามาทำแบบนี้"
ฟอดดดด.. เขาโน้มใบหน้าลงใกล้ซอกคอแล้วดมพิสูจน์กลิ่น ท่ามกลางพัทธมนที่อึ้ง ขนลุกซู่ไปทั่วร่างกาย
"ไม่เห็นเหม็นเลย กลิ่นตัวเธอออกจะหอมด้วยซ้ำ โคตรยั่ว.." เขากระซิบเบาๆ ในประโยคท้าย
"คุณใหญ่!" พัทธมนเรียกกำลังใจตัวเองกลับมา คนที่อยู่ห่างเธอแทบจะไม่เข้าใกล้ คนที่ไม่เคยสนใจใดๆ ทำไมตอนนี้ช่างเหมือนโรคจิตตามติดเธอ
"ปล่อยค่ะเอยจะทำงาน" หญิงสาวพยายามขืนตัวออกห่าง
"ยิ่งขยับมันยิ่งขึ้นนะเผื่อเธอไม่รู้" เขากระซิบข้างใบหูพร้อมดมกลิ่นหอมอีกที ไม่ปฏิเสธว่าเพียงแค่ได้กลิ่นกายพัทธมนจะทำให้เขามีความรู้สึกเช่นนี้ โคตร..อยาก
เขาไม่ได้ขาดเรื่องอย่างว่า แต่เขาเป็นประเภทที่ต้องการมากๆ จึงไม่เคยเบื่อเรื่องนี้สักที พอมีผู้หญิงกลิ่นตัวหอมๆ มาอยู่ใกล้มันถึงได้มีความรู้สึกเช่นนี้ บอกตามตรงว่าอารมณ์ของเขามาตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว
คนตัวเล็กหยุดนิ่ง กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไปมันเข้ามาอยู่ในโสตประสาทของเธอให้เบนหน้าหนีไปอีกทางด้วยความประหม่า แล้วไอ้ที่มันดันข้างหลังเธอกำลังแปลงร่าง ทำให้อดนึกถึงตัวเลขบนซองถุงยางอนามัยไม่ได้
ใหญ่ขนาดนี้เลย!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาหญิงสาวตกใจรีบขืนตัวออกไปยืนห่างเขาอย่างไว ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อยู่นี่เอง ตามหาตั้งนาน เจอแม่บ้านบอกมาทำความสะอาดห้องให้พี่ใหญ่" เขาเอ่ยกับพัทธมน ใครก็รู้ว่าพี่ชายเขาน่ะขี้หวงพื้นที่ส่วนตัวมากแค่ไหน แต่ทำไมครั้งนี้ถึงใช้ให้พัทธมนมาทำแทน
"เสร็จหรือยังเอย"
พัทธมนพยักหน้าก่อนจะเดินไปเก็บของ ปรมก็ยืนรอ
ไม่นานพัทธมนก็เดินออกมาพร้อมอุปกรณ์ทุกอย่างในมือ แต่เมื่อเห็นร่างบอบบางที่ต้องหอบอะไรทุลักทุเลปรมจึงเข้าไปช่วย
"มาถือให้"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณเล็กเอยถือเองได้"
"เอามาเถอะน่า ตัวเล็กแค่นี้" ปรมแย่งมาถือด้วยมือข้างเดียว ก่อนอีกข้างจะกอดคอพัทธมนแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยกัน สนทนากันไปแล้วเดินไปทางห้องของปรม
เจ้าของห้องอย่างปรเมศวร์ขบกรามแน่นก่อนจะเดินไปปิดประตูลงตาม คว้าไวน์ที่ยังเหลือในแก้วขึ้นกระดกด้วยอารมณ์คุกรุ่น
ใกล้ถึงช่วงปิดเทอมทั้งสองต้องทำงานส่งอาจารย์ และปรมก็ยังต้องการคนที่ทำให้ด้วย
ชายหนุ่มนอนบนที่นอน ส่วนพัทธมนนั่งอยู่บนฟูกทำงานอยู่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค
"ถ้าทำดีเดี๋ยวปิดเทอมพาไปเที่ยว"
"จริงเหรอคะ" คนที่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนเพราะเกรงใจผู้ใหญ่ในบ้าน จะมีปีละครั้งสองครั้งที่ยกครัวทั้งหมดไปทะเลแบบค้างคืนอยู่กันเป็นอาทิตย์
เช่าบ้านเป็นหลัง ทานอาหารร่วมกัน ทั้งคนสวนแม่บ้านก็ไปด้วยกันหมด เธอชอบเที่ยวทะเลเป็นอย่างมาก
"จริงสิ เดี๋ยวชวนมายด์ไปด้วย ชวนแฟนเอยไปด้วยดีมั้ย"
พัทธมนนิ่ง เอาจริงตั้งแต่คุยกันมากับรุ่นพี่วิศวะยังไม่เคยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเลย ถ้าไม่ใช่เจอกันตามในมหาลัยแบบที่เราไปนั่งทานข้าวในศูนย์อาหาร พัทธมนยังไม่มีโมเมนต์แบบคู่อื่นๆ จนนึกเกรงใจคนที่ตัวเองคุยด้วย
"โอเค" หญิงสาวตอบตกลงก่อนจะตั้งใจทำงาน อีกหนึ่งชั่วโมงจึงชวนกันลงไปทานอาหารมื้อเย็น
พัทธมนเดินตามลูกชายคนเล็กของบ้าน ส่วนปรเมศวร์ที่รู้เวลาก็เดินออกจากห้องมาเหมือนกัน ทั้งพัทธมนและปรเมศวร์สบสายตากันเล็กน้อยก่อนหญิงสาวจะรีบเดินตามปรมลงไป
@ห้องอาหาร
ทานข้าวกันไปสักพักจนทุกคนเริ่มอิ่มกันแล้วปรมจึงคุยกับพ่อแม่ถึงเรื่องที่ตั้งใจไว้
"อีกสามอาทิตย์ผมกับเอยจะปิดเทอมแล้ว เราขอไปเที่ยวทะเลกันนะครับพ่อแม่"
"หืม เอาสิ อยากไปเที่ยวไหนก็ไปเลยลูกเพราะทำงานแล้วจะไม่มีเวลาเที่ยว เหมือนพ่อเหมือนพี่เรา" โบ้ยปากไปทางสามีและลูกชายคนโต
เท่าที่เห็นคนทั้งคู่อยู่แต่กับงาน ตอนที่ปรเมศวร์เรียนเธอก็ปล่อยลูกชายเต็มที่ พอเข้าทำงานก็ทำได้ดี
"แล้วใครจะไปกับเราบ้างล่ะเล็ก ชวนพี่เราไปด้วยสิ ใหญ่ว่างมั้ยลูกช่วงนั้น" คนเป็นแม่ถามลูกชายคนโตที่นั่งเงียบ
"ผมไปกับเอยกับแฟนผมครับ...กับแฟนเอย" ปรมหันไปมองหน้าพัทธมนว่าพูดได้ไหม แต่เขาก็พูดไปแล้ว "ต้องรอให้เอยชวนแฟนก่อนครับ"
"เอยมีแฟนแล้วเหรอลูก" คุณหญิงของบ้านแปลกใจเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ไม่ได้ห้ามอยู่แล้ว เพราะอีกฝ่ายก็โตเข้ามหาวิทยาลัย
"มีแล้วสิแม่สวยขนาดนี้ รุ่นพี่วิศวะปีสี่น่ะ"
"ชวนมาทานข้าวบ้านเราบ้างสิเอย ฉันอยากเห็น"
"นั่น เห็นมั้ยแม่อยากเห็นหน้าว่าที่หลานเขยน่ะเอย" ปรมเอยขำๆ
พัทธมนได้แต่นั่งอมยิ้มหน้าแดง แต่ไม่กล้าเอ่ยอะไรมากไปกว่านี้เพราะกลัวมันไม่เหมาะ อีกอย่างไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองไหมว่าคนข้างๆเธอเงียบมากเมื่อปรมพูดเรื่องแฟนของเธอ