“งั้นพริ้มเอาห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ปลากะพงทอดน้ำปลา ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์นะคะ” พริ้มเพราเอ่ยออกมาเสียงหวาน
“ครับ” ชายหนุ่มตอบรับตามมารยาท
เมื่อตกลงกับชายหนุ่มเรียร้อยแล้ว เธอก็เรียกบริกรมารับออเดอร์ ก่อนที่เธอจะหันมาชวนชายหนุ่มสนทนาอีกครั้ง
“ปกติพี่องศาชอบอาหารแบบไหนคะ พริ้มจะได้จำไว้ เผื่อว่าเราแต่งงานกันแล้วพริ้มจะได้ทำให้พี่องศาทาน” พริ้มเพราเอ่ยขึ้นมาอย่างพยายามเอาใจชายหนุ่ม ในขณะที่ชายหนุ่มก็เริ่มเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เป็นอยู่ เขากำลังจะหมั้นและแต่งงานกับเธอในอีกไม่กี่วัน แต่ทำไมเขาถึงไม่ได้รู้สึกดีใจหรือมีความสุขแม้แต่น้อย
“พี่ทานอะไรก็ได้ครับ น้องพริ้มไม่ต้องลำบากหรอก” ชายหนุ่มบอกอย่างรำคาญ
“ไม่ได้ลำบากอะไรเลยค่ะ มันเป็นหน้าที่ของภรรยาอยู่แล้ว ที่ต้องทำอาหารให้สามีรับประทาน” พริ้มเพรากล่าวอย่างเอาใจ เธอไม่สนใจในท่าทีอึดอัดใจของอีกฝ่าย
“งั้นก็เอาตามที่น้องพริ้มสะดวกเถอะครับ” องศาตอบเพื่อตัดรำคาญ ทำไมยิ่งนานวันเขายิ่งรู้สึกอึดอัด ในใจของเขาตอนนี้มีแต่คำถามถึงศิริกัญญา เธอไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่กับใคร แล้วเธอมีคนใหม่หรือยัง นั่นเป็นคำถามที่มันเริ่มย้ำไปย้ำมาอยู่ในหัวของเขาทุกวัน
“เดี๋ยวพริ้มจะไปเข้าคอร์สเรียนทำอาหารเลยค่ะ” พริ้มเพราไม่ได้สนใจท่าทางของเขา เธอยังคงฝันถึงวันที่เธอจะได้ใส่ชุดเจ้าสาวราคาแพงยืนเคียงข้างเขา ในขณะที่อีกฝ่ายกลับยังไม่ได้คิดไปถึงเรื่องนั้นเลย ที่ทำทุกอย่างก็เพื่อมีทายาทสืบทอดตระกูลกับผู้หญิงที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาต้องถามตัวเองว่าความเหมาะสมนั้นมันสามารถทำให้ชีวิตคู่ของคนสองคนยืนยาวไปถึงวันสุดท้ายของชีวิตได้หรือไม่
“ครับ พี่มีอะไรจะถามน้องพริ้มสักอย่างได้มั้ยครับ” หลังจากที่ไตร่ตรองดูแล้ว เขาก็เริ่มรู้ว่าบางทีเธออาจจะไม่ใช่คนที่จะมอบความสุขให้กับเขาได้ เขาจึงเลือกที่จะเอ่ยถามออกไป
“ถามพริ้มได้เลยค่ะ พริ้มยินดีตอบ” พริ้มเพรายิ้มให้อย่างอ่อนหวาน ในที่สุดเขาก็เริ่มสนใจเรื่องของเธอขึ้นมาแล้วสินะ
“ถ้าพริ้มไม่ได้แต่งงานกับพี่ พริ้มจะเสียใจมั้ย” เป็นการถามที่ตรงไปตรงมาที่สุด
“อย่ามาล้อเล่นค่ะพี่องศา ยังไงเราก็ต้องแต่งงานกัน พริ้มไม่เล่นด้วยหรอกนะคะ” แม้ว่าจะใจเสียกับคำถามของชายหนุ่ม แต่พริ้มเพราก็พยายามแก้สถานการณ์ กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ มันไม่ง่ายเธอไม่มีทางยอมเสียมันไปง่ายๆหรอกนะ
“ทานข้าวเถอะครับ อาหารมาแล้ว” โชคดีที่อาหารเข้ามาเสิร์ฟทำให้ทั้งสองยุติบทสนทนาลง และอีกทั้งชายหนุ่มยังไม่อยากทำร้ายจิตใจพริ้มเพรา เขาเลยยังไม่อยากเอ่ยออกไป เขาขอเวลาทบทวนตนเองก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะเอายังไงกับชีวิตของตนดี