EP 11-12 คิดมากไปเอง

2594 Words
"แกกับพี่ครินต์ทะเลาะกันเหรอซินเนีย?" นาราเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง เพราะทั้งสองดูแปลกไปจนคนรอบข้างเห็นได้ชัด "เปล่าหนิ" "อย่าโกหกฉันเลย เรารู้จักกันมาตั้งเท่าไหร่แล้ว" เพื่อนสาวเพียงคนเดียวที่ซินเนียมีคงไม่พ้นนาราคนนี้ และแน่นอนว่าการรู้จักกันดี แค่มองตาก็รู้ใจ "ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้ครินต์แปลกไป" "ยังไง?" นาราเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม เพราะมองยังไง ครินต์ที่เธอเห็นและรู้จักผ่านคนรักอย่างอัทก็ดูปกติไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลง "เขาพูดเหมือนกำลังหลงรักฉัน" "แกคิดมากไปหรือไง อยู่กันมาสี่ปีแล้วนะแบบนี้" นาราแทบไม่เชื่อสิ่งที่เพื่อนสาวคิด แต่ถึงเป็นแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเสียหายอะไรหากสองคนจะคบกันแบบคนปกติทั่วไป "อืม ฉันคิดมากไปเอง" "ถามจริง ๆ นะซิน แกไม่คิดจะคบกันแบบผัวเมียเหรอ แกกับพี่ครินต์ดูเหมาะสมกันมากเวลาที่อยู่ด้วยกัน" "สิ่งที่ฉันได้ยินมาตอนคือคนอย่างคฌากรไม่เคยรักใคร แกคิดว่าฉันจะเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะรักฉันงั้นเหรอนารา?" เธอถามและแสยะยิ้มด้วยความสมเพสให้กับความสัมพันธ์ของเขาและตัวเธอเอง "ไม่เคยรักใคร ก็ใช่ว่าจะเริ่มรักไม่ได้หนิ" นาราพูดทำนองเดียวกันกับครินต์ไม่มีผิด "ฉันอยู่กับครินต์มาสี่ปีแล้วนารา เพราะแบบนั้นฉันถึงมั่นใจว่ารู้จักเขาดีพอ" "แกอย่ามั่นใจสิ่งที่แกคิดมากเลยซิน เพราะถ้ามันไม่ใช่แบบนั้นนอกจากแกจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับตัวเอง แกยังดูถูกความรู้สึกของพี่ครินต์แบบไม่รู้ตัวด้วย" หลังจากได้ฟังแบบนี้ เธอเริ่มเม้ปากแน่นราวกับว่ากำลังประหม่า "ไม่ไปนั่งกับพี่อัทเหรอ?" "ไม่ล่ะ แกทะเลาะกันแบบนี้ ถ้ารวมโต๊ะคงอึดอัดใจน่าดู" ซินเนียไหวไหล่เล็กน้อยเชิงชิลล์ให้กับเพื่อนสาว ก่อนสายตาจะเบือนไปอีกทางและพบกับบางคนที่เธอคุ้นหน้าเป็นอย่างดี "ศรันต์" เสียงของซินเนียที่เอ่ยเรียกบางคน เรียกความสนใจจากโต๊ะของครินต์ได้เป็นอย่างดี พวกเขาพากันหันไปมองตามคนที่ซินเนียกำลังให้ความสนใจ ก่อนผู้ชายร่างกำยำทุกคนในโต๊ะจะหันมามองที่คนคนเดียว "มองทำไม?" "เด็กมึงไม่ใช่หรือไงไอครินต์" "แล้วยังไง?" ครินต์ทำหน้าเรียบนิ่งเหมือนเขาไม่รู้สึกอะไรสักนิด ทั้งที่ตอนนี้ในใจกระวนกระวายแทบตาย "ไม่อยากรู้เหรอว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร" อัทแฟนของนารา ถามและยิ้มเล็กน้อยให้กับเพื่อนชาย "มันคือเรื่องส่วนตัว ฉันไม่ยุ่ง" "แน่ใจ?" อัทพูดเหมือนว่าเขารู้อะไรมา แต่ก็แค่เหมือนเพราะเขาแค่อยากจะลองเชิงเพื่อน สุดท้ายอัทก็ได้คำตอบให้ตัวเองว่าคนอย่างครินต์ไม่รักใครจริง ๆ ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เขาประเมินเพื่อนของตัวเองต่ำไป และไม่มีใครรู้จักชายหนุ่มได้ดีพอ "อืม" "โอ้ว มุมนี้อย่างกับหอมแก้มกัน" เพื่อนคนนึงในกลุ่มพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นชายหญิงสองคนกระซิบอะไรอย่างสนิทแนบชิด "ยอมได้เหรอคฌากร นั่นมันของของมึงนะ" "นั่งเงียบ ๆ กันไปเถอะ คนของกู กูคุมได้" ครินต์เริ่มไม่พอใจเท่าไหร่ที่มีคนยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขามากไป และมองว่าเขาเอาซินเนียไม่อยู่ ทั้งที่ความจริงเธอครวญครางร้องขอให้เขาทำเธอราวกับสัตว์ทุกวัน เมื่อนึกถึงตรงนี้ ครินต์กระตุกยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์และหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาซินเนีย "อยากเล่นหนังสดโชว์ผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า ถ้าไม่ห่างหน่อยก็ดี ฉันมีอารมณ์ทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้คนอื่นเกิน 1 เมตร" ตามคาด ซินเนียหยิบโ? รศัพท์ขึ้นมาอ่านและถอยห่างจากศรันต์ เพื่อนในโตจ๊ะได้แต่นั่งหน้าเหว๋อเพราะไม่รู้ว่าครินต์ใช้วิธีไหนในการทำให้ซินเนียดีดตัวออกแม้เขาไม่ได้เดินเข้าไป "มึงนี่มัน..." "กูบอกแล้วไง คนของกู กูคุมอยู่" "แต่ถ้าเขาอยากสร้างครอบครัวหรือมีผัว วันนั้นมึงนั่นแหละที่ต้องบอกให้ตัวเองคุมตัวเองให้อยู่" อัทพูดด้วยความหวังดี ความสัมพันธ์ที่ยาวนานแบบนี้ เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีฝ่ายใดที่รู้สึก เพียงแต่ที่เขาคิดไม่ใช่ครินต์เท่านั้นเอง "ซินเนีย ให้ศรันต์กลับโต๊ะก่อนดีมั้ย สายตาพี่ครินต์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี" "ไม่ต้องห่วงไปหรอก พวกฉันไม่เคยหึงหวงกัน เพราะรู้ดีว่าข้อตกลงคือการไม่ไปนอนกับใคร" ซินเนียยังคงยกแก้วดื่มต่อแม้เพื่อนจะเตือนแล้วก็ตาม "พี่นาราร้อนเหรอครับ?" "ป่าวหรอก พี่แค่กลัวคนในคลับจะมีเรื่องกันน่ะ" นาราตอบและยิ้มแหยะ ๆ ให้กับศรันต์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าตัวเองกำลังเป็นเป้าสายตา "หมายถึงอะไรเหรอครับ" เด็กหนุ่มหันมองรอบตัว แต่ก็ไม่เห็นอยู่ดีว่ามีผู้ชายหน้าดุกำลังจ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "ไม่มีอะไรหรอก นาราก็พูดไปแบบนั้น" ซินเนียไม่อยากให้ใครต้องหมดสนุกเพราะเธอเป็นต้นเหตุเลยแก้ต่างไป "ว่าแต่มากับเพื่อนเหรอศรันต์?" "ครับ แล้วแฟนพี่ล่ะพี่นารา?" ศรันต์เอ่ยถามกลับบ้างเพราะได้ข่าวมาว่าเพื่อนของพี่สาวข้างบ้านคตนนี้มีเจ้าของหัวใจแล้ว เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศจึงไม่เคยเห็นหน้าของอัทมาก่อน ต่างจากอัทที่รู้จักเด็กหนุ่มตั้งแต่วันแรกที่เขารู้ว่าแฟนสาวไปเดินห้างโดยมีศรันต์ไปด้วยแล้ว เพียงแค่ไม่เข้าไปยุ่งเพราะรู้ดีว่าคนที่ศรันต์ต้องการและแอบมองไม่ใช่นาราแฟนสาวของเขา "นั่งอยู่ตรงโต๊ะวีไอพีน่ะ เรามองไม่เห็นเขาหรอก" นาราไม่กล้าบอกจุดนั่งเพราะกลัวว่าหากศรันต์หันไปมอง จะกลายเป็นคนในโต๊ะแฟนเธอคิดในแง่ลบว่าหาเรื่อง เพราะแค่การที่เด็กคนนี้มานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเธอ ความปลอดภัยของศรันต์ก็ลดลงไปถึง 50% แล้ว "อ่อ แล้วแฟนพี่ล่ะพี่ซิน" "พี่มะ..." "คุณซินเนียครับ นายฝากให้มาตามครับ แจ้งว่ามีธุระจะคุยด้วย" ไม่ทันจะได้พูดประโยคจบ การ์ดคนนึงของครินต์ก็เดินเข้ามาขัดเสียก่อน "นาย?" "ศรันต์ไปหาเพื่อนได้แล้ว พอดีเพื่อนพวกพี่ตามแล้วแหละ" ซินเนียเป็นคตอบเองเพราะกลัวว่านาราจะลนจนศรันต์รู้ว่าคนที่การ์ดพูดถึงเป็นอะไรกับเธอมากกว่าเพื่อนอย่างที่เธออ้างไป "งั้นถ้าพี่เมาจนขับรถไม่ไหวแค่เดินไปเรียกผมที่ตรงนั้น ผมจะไปส่งพี่เอง" ซินเนียพยักหน้าเล็กน้อยและมองตามน้องข้างบ้านจนเขาเดินไปถึงโต๊ะ ก่อนจะหันกลับมามองการ์ดที่ยืนรอ "บอกครินต์ว่าถ้าอยากคุยอะไรก็เดินมา ฉันไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องเดินไปหาใคร" "ครับ" ครินต์ดุนลิ้นไปมาหลังจากที่ได้ยินคำพูดของซินเนียจากการ์ด เขาหัวเสียเล็กน้อย แต่ก็คิดเพียงว่าไม่เป็นไร อย่างน้อยเธอก็อยู่ห่างจากเด็กคนนั้น "ให้ผมทำไงต่อครับนาย" "ไปเถอะ เดี๋ยวกูจัดการเอง" ครินต์ปัดมือเล็กน้อยเป็นเชิงไล่ เขามองวไปยังโต๊ะของซินเนียและยกแก้วขึ้นดื่ม ก่อนจะลุกขึ้นยืน "มึงจะไปไหน" อัทเอ่ยถามเพื่อนชายที่ตอนนี้สายตาไม่แม้แต่จะมองเพื่อนรอบตัว "เดี๋ยวมา" เขาไม่บอกเหตุผลใครทั้งสิ้นเพราะคิดว่าไม่จำเป็น ครินต์เดินตรงมายังโต๊ะของซินเนีย โดนถูกสายตาผู้หญิงกว่าครึ่งคลับมองอย่างแทะโลมในตัวเขา "อุ้ย ขอโทษค่ะ" อีกแค่ก้าวเดียวจะถึงตัวซินเนีย กลับมีผู้หญิงโง่ ๆ คนนึงแกล้งเดินมาชนเขาแล้วทำน้ำหกใส่เพื่อหวังว่าครินต์จะสนใจในใบหน้าสละสวยของเธอและได้จบลงที่เตียงนอน "ไปใช้วิธีนี้กับคนอื่น กูไม่ใช่คนที่มึงจะได้จบด้วยในคืนนี้หรอก" ชายหนุ่มพูดพรางดึงสีหน้าที่เรียบนิ่งออกมาใช้ ทำเอาหญิงสาวคนนั้นหน้าเสียเลยทีเดียว เธอถอยหลังห่างเขาอัตโนมัติราวกับว่ารู้ดีหากเซ้าซี้จะไปจบที่ตรงไหน "งั้นเดี๋ยวฉันไปหาพี่อัทก่อนนะ พี่ครินต์กลับโต๊ะเดี๋ยวเดินมาหาใหม่" นาราเอ่ยบอกซินเนียที่นั่งนิ่ง ๆ เหมือนครินต์ไม่มีตัวตน "ไง" "นายมีอะไร?" เธอเลิกคิ้วสูงไม่เข้าใจว่าเขายุ่งอะไรในตอนที่เธอกำลังบริหารเสน่ห์ "เดินไปหาฉันมันจะตายหรือไงซินเนีย" "นายคือคนที่ต้องการคุย ไม่ใช่ฉันที่เรียกร้อง แล้วทำไมฉันจะต้องเป็นคนเสียเวลาเดินไปด้วย?" เธอเอ่ยถามพรางลุกขึ้นและนั่งลงบนตักแกร่งของเขาด้วยความเคยชิน "เธอรู้ตัวมั้ยว่ากำลังลองดี" "ฉันจำได้ว่าตัวเองลองดีมาตลอด ไม่งั้นนายคงไปนอนกับคนอื่นแล้ว จริงมั้ย?" เธอเอี้ยวตัวหันหลังกลับมาถาม แววตาที่ยั่วยวนแบบนั้นทำเอาครินต์แทบอยากจะจับร่างบางกระแทกกลางคลับให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย "เมาหรือไง?" "ไม่รู้สิ" เธอไหวไหล่เล็กน้อย ให้คำตอบไม่ได้เพราะวันนี้เธอคิดเรื่องของเขาจนยกไปไม่รู้กี่แก้ว "มะรืนนี้ฉันต้องไปเคลียร์งานที่สิงคโปร์" เสียววินาทีที่เธอเม้มปากแน่นราวกับว่าไม่ได้สนใจเรื่องที่เขาพูด "ไปนานหรือเปล่าล่ะ?" "ฉันยังไม่รู้ เพราะแบบนั้นพรุ่งนี้ฉันต้องตุนก่อนไป เธออย่าเมาจนไม่มีแรงสู้ฉัน เข้าใจหรือเปล่า" ครินต์บีบเอวบางของเธอเบา ๆ และกระซิบที่ข้างหูราวกับว่ากำลังปลุกเร้าอารมณ์ "นายรู้ดีว่ายิ่งฉันเมา ฉันยิ่งสู้ ให้ฉันดื่มมอมตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ?" เธอยกยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ และก็เป็นครินต์อีกเช่นเคยที่ต้องยอมแพ้ เขาไม่เคยแพ้ใคร แต่อย่างที่รู้ซินเนียคือข้อยกเว้น "คืนนี้ผับปิด เราลองกันกลางคลับดีมั้ยซินเนีย ยังไม่เคยทำกันเลยนะ" "ก็เอาสิ ถ้านายมั่นใจว่ากล้า ฉันไม่ปฏิเสธอยู่แล้วนายก็รู้" ที่บอกว่าเธอตอบสนองเขาได้ดี ไม่ใช่เพียงแค่การรับแรงกระแทก แต่หมายถึงเรื่องต่าง ๆ ในเซ็กที่เขาร้องขอ เธอไม่เคยขัดเลยสักครั้ง มันเป็นอีกอย่างที่ดึงคนอย่างคฌากรไว้ได้อย่างดี "หึ! ฉันชอบเธอเพราะแบบนี้ งั้นไปนั่งดื่มโต๊ะเดียวกัน เสร็จแล้วเดี๋ยวไปรอเคลียร์คลับที่ด้านบนกับฉัน" เธอพยักหน้ารับเล็กน้อย โชคดีที่คลับนี้เป็นของอาอย่างเพลิง เขาจึงขอทำธุระได้ไม่ยาก มาถึงโต๊ะ เพื่อน ๆ ในโต๊ะของครินต์พากันนั่งเงียบ เพราะรู้ดีว่าเขาไม่ชอบให้ใครเอ่ยแซวเวลาที่ซินเนียเดินมาพร้อมเขา มันก็ไม่เชิงว่าตัวเขาหรอกที่ไม่ชอบ แต่คนที่ไม่ชอบมันคือเธอต่างหาก อะไรที่เธอไม่พอใจตรงไหน เธอบอกเขาไว้เสมอ เพื่อที่มันจะได้ไม่เกิดขึ้น "ไปนั่งข้างเพื่อนหนูเถอะ" อัทพูดกับเมียสาวเพื่อให้นาราลดความเกร็ง แม้ว่าจะเจอครินต์มากี่ครั้ง เธอก็ยังคงเกร็งเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเพราะกิตติศักดิ์ที่เขาพูดกันต่อ ๆ มาหรือใบหน้าดุ ๆ ที่ทำให้นารากลัว "ดื่มกันเข้าไปสิ มองหน้ากูแล้วเมาหรือไง?" ครินต์ถามอย่างไม่พอใจ เขาไม่ชอบความไม่มีมารยาทแบบนี้ เพราะหากเป็นผู้หญิงเงียบ ๆ เรียบร้อย อาจจะเกร็งได้เวลาที่เข้ามาเจอคนแบบนี้ เกือบเที่ยงคืน ครินต์เริ่มมองเวลาที่ติดอยู่ตามมุมต่าง ๆ เขาอดใจแทบไม่ไหวเมื่อนึกถึงภาพของซินเนียที่กำลังถูกเขาสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปในรูร่องของเธอบนโซฟากลางคลับ เพียงแค่จินตนาการเขาก็แทบปวดหนึบกลางกาย "อดใจหน่อยครินต์ ฉันรู้ว่านายอยากจนแทบบ้า ฉันสัญญาคืนนี้นายจะได้ตุนจนสำนักน้ำตาย" เธออดจะประชดไม่ได้ ไม่รู้ว่าพ่อแม่ชายหนุ่มเลี้ยงเขามายังไง ทำไมเซ็กจัดอะไรขนาดนีั้ แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่าเขาเซ็กจัดขึ้นมันก็เพราะเธอทั้งนั้น "ทำให้ได้อย่างปากพูดนะ ฉันจะยอมสำนักความสุขจนตายให้เธอดู" "หึ!" เธอเบือนหน้าหนีไปอีกฝั่ง การคุยกันของสองคน อยู่ในสายตาของคนนับสิบตลอด เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาไม่ใช่ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่เป็นวันเที่ยง คลับจึงปิดเพียงแค่เที่ยงคืน ทำให้ครินต์ไม่ต้องรอนาน เขาส่งข้อความบอกเบบี้ลูกสาวเจ้าของคลับว่าคืนนี้อยากจะยืมสถานที่และเดี๋ยวเขาจะเก็บกวาดเอง ซึ่งอีกฝ่ายตอบตกลงอย่างรวดเร็ว "หมดเวลาสนุกแล้ว แยกย้ายกันกลับป่ะ" เพื่อนคนนึงในกลุ่มพูดขึ้นเมื่อเพลงถูกปิดลง "พวกมึงไปเถอะ กูเคลียร์เองบิลนี้" ครินต์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาไม่เลี้ยงเพื่อนพร่ำเพื่อ แต่เพราะวันนี้มีสิ่งดี ๆ รออยู่ เขาถึงใจป๊าแบบที่เป็น "อารมณ์ดีอะไรมา" อัทกระซิบถามเบา ๆ เขาถือว่าสนิทกับครินต์มากที่สุดในบรรดาเพื่อนแล้ว และอัทเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ครินต์คอยปรึกษาเรื่องของซินเนียมาเสมอ "มึงก็รู้ดีว่ากูมีไม่กี่อย่างที่ทำให้เป็นสุข" เขายกยิ้มร้ายและมองไปยังซินเนียที่กำลังล่ำลานารา "หึ! กูเคยบอกไปแล้ว แต่จะขอพูดอีกครั้ง มึงสองคนเวลาที่อยู่ด้วยกันเหมาะสมกันมาก ๆ ยิ่งกว่าภายนอกคือภายใน" อัทตบบ่าครินต์เบา ๆ สองสามทีและเดินตรงหาแฟนสาวของเขา กอดจะกระชับกอดเอวบางและหอมลงเบา ๆ เหมือนเย้ยที่ครินต์ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน "กลับกันครับคนดี ครินต์กับน้องซินคงอยากพักกันเต็มที่แล้ว" "ขับรถดี ๆ ค่ะพี่อัท ฝากดูแลนาราด้วย" ซินเนียห่วงใยนาราไม่น้อยเพราะสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก และอยู่ในช่วงแย่ ๆ ของชีวิตกันและกัน "พี่เองก็ฝากเราให้ความสุขกับมันด้วยนะ เดี๋ยวมันต้องไปทำงานอีกหลายวัน" "ค่ะ เดี๋ยวให้สุขจนตาย ๆ อยู่ที่นี่ไปเลย" "!!" #คอมเม้นเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะค้าบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD