เย็น
ครินต์กลับมาถึงคอนโดไวกว่าเวลาปกติ วันนี้เขาใช้เรี่ยวแรงในการทำงานไปจนหมด และคิดว่าดีกว่ามั้ยหากได้พักบ้าง การฝืนทำงานโดยที่เหนื่อยมันอาจทำให้เขาทำงานออกมาได้ดีไม่พอ
เครื่องปรับอากาศในห้องที่ไม่มีการทำงาน ไฟที่ถูกปิดจนมืดสนิทหมายถึงตอนนี้สิ่งมีชีวิตเดียวของห้องคือตัวเขาเอง มือหนาล้วงไปหยิบโทรศัพท์กดโทรออกหาการ์ดคนสนิท
"ครับนาย"
"ได้ไปส่งซินเนียหรือเปล่า?"
"ครับ ตอนนี้ผมตามอยู่ครับ" มันเป็นเหมือนหน้าที่ที่เขาทำไปแล้ว เพราะครินต์สั่งเอาไว้ห้ามคาดสายตาจากคนตัวเล็ก แรก ๆ เขาระแวงว่าเธออาจจะไปหาความสุขจากที่อื่นและทำให้เขาเกิดอันตรายจากโรคทางเพศ แต่คำตอบของช่วงหลังมานี้เขาไม่เคยมั่นใจเลยว่าเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่า
"เธออยู่กับใคร"
"แฟนคุณอัทครับ และก็มีผู้ชายอีกคน" คิ้วหนาขมวดเป็นปมหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาไม่ชอบใจมากนัก
"รู้ชื่อมั้ย?"
"ชื่อผมให้คนอื่นสืบอยู่ครับนาย แต่เท่าที่รู้เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ และดูเหมือนว่ารู้จักกับคุณซินมาก่อนหน้าครับ"
"อืม จับตาดูไว้ ถ้ามีอะไรที่รู้ว่ากูไม่ชอบจัดการได้เลย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะกดวางสาย และโยนสมาร์ทโฟนเครื่องหรูไปอีกมุมของโซฟา
"ใครว่ะ" ครินต์สบทเบา ๆ กับตัวเองและพยายามทำให้สมองผ่อนคลาย
ทางด้านซินเนีย เธอเดินช้อปตามภาษาผู้หญิงที่ว่างงานและไม่มีอะไรทำโดยไม่รู้ตัวว่าการกระทำของตัวเองนั้นถูกจับตาอยู่ตลอดเวลาที่เธอห่างกับครินต์
"ซินเนีย พี่อัทโทรตามแล้ว ฉันต้องกลับก่อน เธอกับ..."
"อ่า เดี๋ยวรันต์อยู่เป็นเพื่อนพี่เนียเอง" ศรันต์ ผู้ชายที่ครินต์ได้รับรายงานจากการ์ด เขาเป็นรุ่นน้องข้างบ้านของซินเนีย รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก
"ไม่ต้องเป็นห่วง ไปเถอะ" ซินเนียเห็นสายตาที่นารามองมาก็เข้าใจได้ เธอรู้เรื่องของซินเนียและครินต์ และรู้ดีว่าครินต์เป็นยังไงตามคำบอกเล่าของอัทแฟนหนุ่ม
"แต่..."
"เดี๋ยวอีกชั่วโมงฉันก็กลับแล้ว" สุดท้ายนาราก็ยอมกลับแต่โดยดี แม้ว่าจะแอบหวั่นอยู่บ้างว่าซินเนียอาจจะทะเลาะกับครินต์หากเขารู้เข้า
"ทำไมพี่นาราต้องเครียดขนาดนั้น เขาไม่ไว้ใจรันต์เหรอครับ?" ศรันต์ยังคงงงกับเหตุการณ์ที่เกิดจึงเอ่ยถามซินเนีย แต่เธอไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มให้บาง ๆ
หากไม่จำเป็นเธอไม่อยากให้มีใครรู้เรื่องระหว่างเธอและครินต์เลย เพราะหากวันนึงมันต้องจบจะได้ไม่ต้องมาคอยอธิบายให้ใครฟังด้วยคำพูดที่เรียบหรูอย่างเช่นไปกันไม่ได้
"ไม่ตอบผมเลย"
"ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวอีกสักพักพี่จะกลับแล้ว รันต์อยากได้อะไรรึเปล่า?" ซินเนียตัดปัญหาด้วยการชวนคุยเรื่องอื่นแทน
"ไปกินข้าวกับผมสักมื้อสิครับ ผมกลับมาทั้งทีกว่าจะได้เจอพี่แต่ละครั้งยากเย็นมาก" เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนจนเธอเอ็นดูยกมือขึ้นไปยีหัวเขา
"ไม่ต้องมาน้อยใจหรอก ทีรันต์ไปเรียนต่อที่นั่นไม่บอกพี่ พี่ยังไม่ว่าเลย"
"เราหาข้าวกินกันดีกว่าครับ" ทั้งคู่หัวเราะและยิ้มให้กันเมื่ออีกฝ่ายเบี่ยงกันไปมา
หลังกินข้าวเสร็จสองคนแยกย้าย ซินเนียเดินกลับมาที่รถของตัวเองและขับออกจากห้างตรงไปยังคอนโดของครินต์ด้วยความอารมณ์ดี เมื่อเปิดประตูถือของเข้าไปในห้องต้องแปลกใจที่วันนี้เขากลับมาถึงก่อนเธอ
"สนุกมั้ยวันนี้?" ครินต์เลิกคิ้วสูงเอ่ยถามโดยไม่ได้หันมามองเธอเลยสักนิด ที่มือเขาถือแก้วเตกีลาราคาแพงอยู่
"สนุกสิ ไปกินข้าวกับนารามาน่ะ"
"งั้นเหรอ แค่สองคน?" ถึงคำถามนี้ชายหนุ่มหันมามองซินเนียด้วยแววตาเรียบนิ่ง เธอไม่ได้มีพิรุธหรือกลัวเขาจะจับอะไรได้สักนิด เพราะมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรที่มันเสียหาย
"ทำไม เกิดอาการหวงฉันขึ้นมาหรือไง"
"ฉันไม่ได้หวง แต่ถ้าเธอยังไม่ลืม จำข้อตกลงของเราได้ใช่มั้ย"
"ครินต์ถ้านายรู้จักฉันดีอย่ามาจับผิดฉัน ฉันคนมีสังคมไม่แพ้นาย ถ้าการไปกินข้าวกับใครหมายถึงจบที่เตียงนอน แบบนั้นนายกับลูกสาวนักการเมืองคนนั้นก็เหมือนกันใช่รึเปล่า?" คำพูดของซินเนียและประโยคที่เธอพูดออกมากำลังบ่งบอกว่าเธอไม่พอใจอย่างมาก
"ฉันเคยบอกแล้วว่าถ้าฉันบอกว่าจะไม่ยุ่งกับใครก็คือฉันจะไม่ยุ่ง"
"งั้นนายก็ต้องเชื่อฉันเหมือนที่ฉันเชื่อนายบ้าง ฉันไม่ก้าวก่ายนาย นายก็อย่าทำ อย่าลืมว่าเราสองคนไม่ใช่คนรักกัน" ซินเนียพูดจบก็เดินเข้าห้องนอนไปเลยเพื่อที่จะเลี่ยงการทะเลาะ เธอไม่ใช่คนใจเย็น เขาก็ด้วย เพราะแบบนั่นไม่คุยกันตอนนี้ย่อมดีที่สุด
หลังจากร่างบางเข้าไป ครินต์นั่งสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนั้นคนเดียวพักใหญ่ เขากำลังทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อนคือการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่นั่นมันเพราะเธอไม่เคยไปไหนกับผู้ชายมาก่อน ถึงมีก็ล้วนเป็นคนที่เขารู้จักทั้งนั้น มันผิดตรงไหนที่เขาจะถาม
แกร๊ก! เสียงประตูห้องนอนเปิดออกพร้อมกับซินเนียที่อยู่ในชุดเดรสสีดำ ชุดที่ไม่ต้องถามก็รู้ดีว่าเธอจะออกไปไหน
"จะไปไหนของเธอ"
"มันเรื่องของฉันหรือเปล่าครินต์" เธอเลิกคิ้วสูงเอ่ยถามเขากลับ เมื่อก่อนไม่เห็นว่าชายหนุ่มจะมาอะไรกับเธอมากมาย ดูเหมือนว่าเดี๋ยวนี้เขาชักเยอะขึ้นทุกวัน
"ฉันไม่อนุญาตให้เธอออกไปไหนทั้งนั้นแหละคืนนี้ กลับเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดแล้วอ้าขารอฉันบนเตียง"
"ฉันไม่ใช่ลูกน้องนาย และเชื่อว่าตัวฉันไม่จำเป็นต้องฟังคำพูดของนายด้วย" เธอพูดพรางจะเดินออกไป แต่เพียงแค่สองก้าว เท้ากลับชะงักลงดื้อ ๆ
"รอบที่แล้วที่เธอโกรธฉันเป็นยังไงยังจำมันได้ใช่มั้ยซินเนีย เธออยากให้ฉันทำแบบนั้นเหรอ?" ครินต์ยกยิ้มร้ายและเหวี่ยงแก้วไปมาจนเครื่องดื่มวน ๆ อยู่ในแก้ว
"อย่ามาขู่นะครินต์" เธอเริ่มหมดความอดทน อะไรถึงทำให้เขาเป็นแบบนี้ไม่เข้าใจ
"ฉันไม่เคยขู่ ถ้าเธออยากลองดีฉันก็ไม่มีปัญหา" เธอทบทวนอีกครั้งและสุดท้ายซินเนียก็หมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไป ครินต์ผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งใจที่อย่างน้อยวันนี้เขาก็ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่ม
ร่างแกร่งลุกขึ้นยืนและปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำออกจนหมด ก่อนจะยกแก้วดื่มเตกีลาที่เหลือให้หมดไม่เหลือสักหยดและเดินเปิดประตูห้องนอนเข้าไป
"โกรธฉันมากเหรอ?" ชายหนุ่มเดินเข้าไปซุกไซ้เธอจากด้านหลัง มือหนาเอื้อมไปปลดตะขอบราแบบไร้สายของเธอออกและเขวี้ยงมันไปทางอื่นอย่างไม่ไยดี
"สมควรโกรธมั้ยครินต์ คำพูดนายน่ะ ถึงเราไม่ได้รักกัน นายไม่ได้แคร์ฉัน แต่นายไม่ควรดูถูกฉัน"
"ใครว่าฉันไม่แคร์เธอ" ปากก็ว่ามือก็ขยับ เขาลูบไล้เธอที่ช่วงขาจนกระโปรงถกขึ้นมาสูง
"นายจะบอกว่าแคร์ฉันงั้นเหรอ คำพูดนายมันเหมือนคนที่แคร์อะไร อีกอย่างเราไม่ได้อยู่ในจุดที่จะต้องมานั่งแคร์กัน" ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองชายหนุ่มกำลังคิดว่าเธอไม่ได้โกรธเขา ก็เพียงแค่น้อยใจเท่านั้น
"เอาเป็นว่าฉันแคร์เธอ อะไรที่ฉันพูดแล้วทำให้เธอไม่สบายใจฉันจะไม่พูดอีก ตกลงมั้ย"
"ฉันหวังว่าครั้งนี้นายจะทำมันได้เหมือนที่เคยทำทุกอย่างที่รับปากไว้ได้"
"อืม ถอดนะ" ครินต์พูดเชิงขออนุญาต แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตอบ ชุดเดรสก็ลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้ว
"วันนี้จะเอาตรงไหน?"
"หน้าตู้นี่แหละ เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นวอร์มไลท์เอา ผิวขาว ๆ ของเธอพอกระทบกับแสงสีนี้มันยั่วเ..็ด จนฉันแทบคลั่ง" น้ำเสียงกระเซ่าของครินต์ก็เหมือนกัน มันปลุกเร้าอารมณ์ของเธอได้อย่างดี เรื่องนี้เขาเองก็รู้เพราะซินเนียไม่เคยอ้อมค้อม ชอบแบบไหนเธอก็บอกไปตรง ๆ
"งั้นก็เปลี่ยนสิ ฉันอยากยั่วให้นายเอาจนตัวสั่นไปหมด" สายตาที่ยั่วยวนแบบนั้นเป็นภาพที่ครินต์ชอบมากที่สุด เธอสวยทุกครั้งที่อยู่ใกล้ร่างของเขา โดยเฉพาะตอนร่วมกิจกรรมกาม
"อ่าส์ แรงหน่อยซินเนีย ลิ้นของเธอวนตรงหัวมันอีกนิด อื้มมม แบบนั้นแหละ" ปอกคอสีดำถูกครินต์สวมกเข้าที่คอของขาวของเธอโดยไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ซินเนียกำลังออรัลเซ็กให้เขาอย่างถึงพริกถึงขิง
"อื้มมมม ดูดเน้นมันหน่อยเด็กดี" เธอช้อนตามองหน้าของชายหนุ่มเวลากำลังเสียวจนแทบขาดใจ เขาสนองด้วยการกัดปากยั่วเธอคืน
"ดีมั้ยครินต์ เวลามันถูกปากฉันครอบครองจนมองไม่เห็นแม้กระทั้งโคน นายชอบรึเปล่า?" ครินต์จับคางมนให้เงยขึ้นสบตากับเขาพร้อมกับเช็ดตามมุมปากที่มีน้ำสีขาวขุ่นติดอยู่
"ชอบ จะชอบมากกว่านี้ถ้าเธอกลืนมันลงไปด้วย น้ำฉันเวลาเธอกินมัน รู้มั้ยว่าเธอสวยที่สุดเลยตอนนั้น"
"ก็แตกใส่มาสิ ฉันจะได้กลืนมันแบบที่นายต้องการ" ครินต์กระชากซินเนียให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะช้อนเธอไปวางลงที่เตียงและคร่อมร่างกายของเธอเอาไว้จนท่อนเอ็นลำโตอยู่ตรงกับปากของหญิงสาว
"อย่าสำลักล่ะซินเนีย"
"ทำสักที ลีลาแบบนี้จะรู้ได้ไงว่าฉันจะสำลักหรือไม่"
อ๊อก!!อ๊อก!!อ๊อก!! เขากระแทกท่อนเอ็นของตัวเองเข้าออกปากเล็กของเธอราวกับว่ากำลังทำที่ตรงนั้น ซินเนียหน้าแดงไปหมดแต่ไม่ร้องขอให้เขาหยุดเลยสักครั้ง อาจจะเพราะเธอเองที่ชอบแบบนี้เหมือนกัน ถึงบอกว่าสองคนอยู่ด้วยความต้องการที่มีพอกัน
"ซี๊ด! ใกล้แล้ว ตะ..แตกอ่าาา" ผ่านไปราวสิบนาที น้ำสีขาวขุ่นถูกพ้นเข้าไปเต็มปากของคนใต้ร่างครินต์ ส่วนเล็กน้อยที่ไหลออกมาข้างปาก แต่ส่วนใหญ่มันไหลลงคอของเธอไปจนหมด ครินต์แลบลิ้นเลียไปตามรอบปากของซินเนียเป็นการทำความสะอาดให้
"ฉันทำเลอะ ฉันก็เช็ดให้"
"แล้วถ้านายทำฉันเ..ี่ยน นายจะทำให้หายด้วยรึเปล่า"
"ร้องขอฉันสิ ฉันจะทำให้เธอหายจนไม่อยากไปอีกหลายวันเลย" ครินนั่งพิงเตียงและยกร่างบางให้นั่งบนไหลเขา กลีบกุหลาบอูม ๆ นั่นอยู่พอดีกับปากชายหนุ่ม ซินเนียทรงตัวได้อย่างดีทำให้ไม่ให้ร่วงลงมา
"ท่านี้นายไม่ทำมานานแล้ว"
"เธอชอบฉันรู้"
แพล่บ!!แพล่บ!!แพล่บ!! เสียงดังลามกที่เกิดจากลิ้นของครินต์ดูดเลียไปตามร่องรักของเธอดังระงมเมื่อมันไม่มีเสียงอะไรแทรกเข้ามา เส้นเลือดตามลำคอของซินเนียขึ้นปูดเมื่อเธอพยายามระงับเสียงครางเอาไว้เนื่องจากอยากจะแกล้งให้ครินต์หัวเสีย
"กลั้นให้ไหวนะซินเนีย ถ้าเธอครางเมื่อไหร่ ฉันจะกระแทกให้เธอร้องขอเลย"คนที่รู้ทันเริ่มพูดข่มขู่ แบบนั้นยิ่งทำให้เกมนี้สนุกมากขึ้น คนสองคนที่ชอบเอาชนะเหมือนกันมาอยู่ด้วยกัน มีอะไรที่น่าตื่นเต้นมากกว่านี้อรก
"อยากโดนนายกระแทกจนแทบขาดใจแล้ว อื้อ สะ..เสียวดีจัง" เธอขยุมหัวของครินต์ระบายอารมณ์ ร่องรักที่เริ่มบีบตัวยิ่งทำให้ครินต์รู้ว่าเธอกำลังจะปลดปล่อย เขาสอดนิ้วร้ายเข้าไปจนสุดเพื่อกระตุ้นให้เธอปล่อยมันออกมา
"อะ..อื้ออ อีกนิด อ่าส์!" ในที่สุดก็สมดั่งใจหมายทั้งคู่ สวรรค์ที่เขาทั้งสองหมอบให้กันนั่นรับรองได้ว่าไม่มีใครทำได้อีกแล้ว