หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกงานจักราเทพได้นัดกับเพื่อนสนิทไปดื่มคลายเครียดกันที่ผับเดิม เมื่อมาถึงและหาที่จอดรถได้ เขาก็ก้าวเข้าไปข้างในทันที แน่นอนว่าพอการ์ดเห็นหน้าเขาก็ปล่อยผ่านไปอย่างง่ายดาย
ภายในร้านมีเสียงเพลงดังกระหึ่ม แสงไฟหลากสีกะพริบถี่ตามจังหวะดนตรี ร่างสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตรของจักราเทพย่อกายนั่งลงบนโซฟาหรูตัวยาวในโซนวีไอพี เขาหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบพลางกวาดตามองไปรอบ ๆ ผับที่มาเป็นประจำ ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว เริ่มเป็นช่วงที่นักสังสรรค์จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนหนาตา เรียกได้ว่ายิ่งดึกยิ่งครึกครื้น พอ ๆ กับกลุ่มของเขาเองที่ชนแก้วเหล้าวนเวียนกัน
ข้างโต๊ะของจักราเทพมีกลุ่มของผู้หญิงนั่งอยู่ เขาเห็นอลันเพื่อนสนิทสอดส่ายสายตามองหาผู้หญิงที่จะเข้าไปทักทายอย่างตั้งอกตั้งใจ ในขณะที่เขานั้นตั้งใจมาเพื่อดื่มโดยเฉพาะ
“วันนี้สาวสวยเต็มไปหมดเลย” อลันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตาตื่นใจ จักราเทพเพียงแค่ตอบรับในลำคอสั้น ๆ “คนนั้นก็สวย คนนี้ก็มีเสน่ห์ นี่ไอ้จัมพ์มึงชอบส่วนไหนบนใบหน้าผู้หญิงมากที่สุดวะ”
จักราเทพเลิกคิ้วมองอลันด้วยความแปลกใจ และเนื่องจากเขาเป็นหมอฟันจึงตอบออกไปโดยไม่ลังเล
“ชอบฟัน… ฟันผู้หญิงที่สวย ๆ”
พลันเสียงเพลงลดลงกะทันหันเพราะกำลังจะเปลี่ยนจังหวะ ลัลลนาที่มาดื่มกับเพื่อนเหมือนกันเดินผ่านโต๊ะของจักราเทพพอดีหลังจากไปเข้าห้องน้ำมา เธอได้ยินเขาพูดว่า ‘ชอบฟัน… ฟันผู้หญิงที่สวย ๆ’ อย่างชัดเจน มันทำให้เธอถึงกับมีสีหน้าเหยเก ไม่คิดว่าผู้ชายที่ดูดีและมีการศึกษาสูงอย่างเขาจะทำตัวเหลวแหลกเช่นนี้
“แล้วคนนั้นละ” อลันชี้นิ้วไปยังผู้หญิงที่ยืนอยู่โต๊ะข้าง ๆ จักราเทพเลิกคิ้วมองไปตามมือของเพื่อนสนิท และไม่คิดว่าจะเจอผู้หญิงที่พ่อของเขายกยอปอปั้นว่าดีอย่างนู้นอย่างนี้ในสถานที่แบบนี้ เขาส่ายหน้าด้วยความระอาแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเนิบนาบทันที ราวกับไม่สนใจเธอ
“ไม่เอา ฉันไม่ชอบฟันคนนี้”
เมื่อลัลลนาได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากของคนที่ตนชอบก็รู้สึกโกรธขึ้นมาจนไม่สามารถทนได้ โปร์ไฟล์ก็ดีแท้ ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นพวกนินทาผู้หญิงและตำหนิจุดด้อยคนอื่นให้เสียความมั่นใจแบบนี้ มือเรียวคว้าแก้วเหล้าที่อลันกำลังถืออยู่ขึ้นมาสาดใส่ใบหน้าหล่อเหลาที่สาว ๆ ต่างหลงใหลของจักราเทพจนกลิ่นแอลกอฮอล์ตีขึ้นจมูกทันที เขาชะงักค้างไม่คิดว่าจะโดนอะไรแบบนี้ นัยน์ตาเข้มจ้องมองเธอด้วยความไม่พอใจด้วยไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำแบบนี้กับเขามาก่อน
จักราเทพคว้าแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว ก่อนจะหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาแล้วสาดไปที่ใบหน้าของเธอกลับ
“!!!” ลัลลนาถอยหลังหนีทันทีเมื่อเห็นท่าทีตอบโต้กลับไม่ต่างจากตัวเอง ทว่าไม่ทัน ใบหน้าสวยเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำเงยขึ้นมองชายตรงหน้าที่เปียกน้ำสีอำพันไม่แพ้กัน
เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจแก่คนรอบข้างให้หันมามอง ผู้คนเริ่มถอยห่างและรุมดูพฤติกรรมของชายหญิงทั้งสอง
“เฮ้ย มีอะไรก็ค่อย ๆ คุยกันก็ได้” อลันยกมือห้ามเมื่อเห็นท่าทางโกรธจัดของจักราเทพ ทว่ากลับถูกเขาผลักให้นั่งลงกลับไปที่โซฟาตามเดิม จากนั้นเขาก็พุ่งตัวไปลากแขนลัลลนาแล้วออกแรงกระชากออกไปจากตรงนี้
“มานี่ !”
“ปล่อยฉันนะ !” ลัลลนาพยายามดึงแขนออกจากการเกาะกุมของเขา
“เธอทำตัวเองเลิฟ” น้ำเสียงของจักราเทพกดต่ำสะกดกลั้นความโกรธไว้ มือหนาก็บีบที่แขนของเธอแน่นจนเธอเจ็บต้องบิดแขนยื้อยุดไปมา ทว่าเขาแข็งแรงกว่ามาก เธอจึงทำอะไรไม่ได้มากนัก ได้แต่โดนเขาลากขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นห้า
“อึก เจ็บ… ปล่อยนะ”
เมื่อมาถึงห้องที่เปิดไว้จักราเทพก็เปิดประตูแล้วดันลัลลนาเข้าไปด้านใน ผลักเธอให้ล้มไปกับเตียงนอน ตามด้วยกายสูงใหญ่ที่คร่อมทับไว้ไม่ให้เธอคลานหนี แม้เธอจะดิ้นรนมากแค่ไหนก็ไม่อาจหลุดพ้นจากอ้อมแขนแกร่งของเขาได้
“คุณจัมพ์ ปล่อยเลิฟนะคะ !” หญิงสาวดันแผ่นอกกว้างและกระเถิบตัวหนี ทว่าข้อมือทั้งสองกลับโดนรวบไว้เหนือศีรษะด้วยมือเดียวของจักราเทพ
ลัลลนาไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เธอสาดใส่จักราเทพนั้นผสมกับกลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาทำให้เธอท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมา ลมหายใจอุ่นร้อนของเขารินรดเธอจนขนในกายลุกชัน อีกทั้งสายตาที่เขามองมายังทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาด้วย
“เธอทำให้ฉันโกรธเองนะเลิฟ”
“ไม่ค่ะ อื้อ !” ลัลลนาที่อ้าปากกำลังจะพูดต้องหุบปากลงทันที เมื่อกลีบปากอิ่มเคลือบลิปสติกถูกจักราเทพบดริมฝีปากหนาลงมาอย่างรุนแรง ลิ้นร้อนของเขาดุนดันสอดเข้ามาในโพรงปากเธอจนได้กลิ่นและรสชาติแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้ง เธอพยายามขยับลิ้นหนี ทว่าเขาใช้ความช่ำชองกดริมฝีปากลงมาเกี่ยวกระหวัดละเลียดชิมเธอ ลัลลนาหลับตาปี๋กลั้นหายใจไปกับรสจูบที่แสนเร่าร้อน มือบางที่ทุบตีบ่าและดันอกกว้างออกค่อย ๆ หยุดลง ร่างกายที่พยายามดิ้นหนีในตอนแรกนั้นเริ่มตอบรับสัมผัสของเขา