บทที่ 3 การลาจากที่ไม่อยากเจอ E.2

1122 Words
ขวัญใจพูดน้ำเสียงแหลม ดวงหน้าที่พอกเครื่องสำอางมาจนจัดจ้านเพ่งมองไปยังร่างของอดีตเพื่อนที่เวลานี้นอนอยู่ในโลงศพด้วยสายตาเย้ยหยัน ทั้งยังนึกก่นด่าสาปแช่งอยู่ในใจ...ตายไปเสียได้ก็ดี ไม่งั้นเป็นหอกข้างแคร่ของนางอยู่ทุกวันนี้ เพราะสามีที่นางใช้เล่ห์มารยายื้อแย่งมาได้นั้น แม้จะเลิกรากับอีกฝ่ายไปแล้ว แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสใหม่กับนางได้ ดังนั้นถ้าตายแบบนี้ถือว่าทุกอย่างจบสิ้นลงโดยปริยาย ที่สำคัญในเมื่อสามีนางได้ชื่อว่ายังเป็นคู่สมรส สมบัติของภรรยาที่ตายไปแล้วน่าจะมีส่วนแบ่งด้วย เพราะที่ทางของอดีตเพื่อนนั้นมีอยู่มากมาย...ขวัญใจคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องเช่นคนเห็นแก่ได้และเต็มไปด้วยความโลภ “นั่นสิแม่ น้าเพ็ญพูดเกินไป ทำไมฉันกับแม่จะมาไม่ได้ล่ะ งานศพใครๆ ก็มาได้ทั้งนั้นแหละ แล้วแม่ยังเคยเป็นเพื่อนกับคนตายมาก่อนด้วย” สมใจผู้เป็นบุตรสาวซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสมใจปรารถนาพูดน้ำเสียงเยาะหยันไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ ทั้งยังเน้นหนักตรงคำว่าคนตายอย่างจงใจ “และจะว่าไปแล้วฉันก็เกี่ยวดองเป็นญาติกับหลานสาวน้าเพ็ญ หรือฉันพูดไม่จริง?” “ใช่ แกพูดไม่จริง...สมใจ เพราะฉันไม่เคยนับญาติกับแก ลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองน่ะมันแค่ลูกติดเมียใหม่ของพ่อฉันเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับฉันสักนิด” น้ำเสียงราบเรียบที่ดังขึ้นทางเบื้องหลังทำให้สมใจปรารถนาหันขวับไปมอง แล้วต้องยกมือขึ้นขยี้ตาด้วยนึกว่าตัวเองตาฝาด เมื่อเห็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนตอนมัธยมศึกษาปีที่สี่ผู้ไม่เคยมีอะไรจะเทียบเทียมเธอได้ยกเว้นอย่างเดียวคือเรื่องการเรียน บัดนี้จากรูปร่างที่เคยผอมบางไร้ส่วนโค้งส่วนเว้า หน้าตาแสนจะธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น มิหนำซ้ำผมยังหยิกแถมฟันก็เหยิน มีดีอย่างเดียวคือผิวพรรณเท่านั้น ตอนนี้ช่างดูราวกับเป็นคนละคน รูปร่างผอมบางเหมือนไม้เสียบผีที่เธอเคยได้ยินใครบางคนพูดถึงเปลี่ยนเป็นได้ส่วนสัดในชุดแส็กสีดำที่ถ้าหุ่นไม่ดีจริงใส่แล้วคงดูไม่จืด และจากเคยเตี้ยกว่าเธอตอนนี้กลับสูงกว่าน่าจะเป็นฟุต ผมที่เคยหยิกจนจับตัวเป็นขอดบัดนี้กลายเป็นหยิกสลวยราวกับผมตุ๊กตา หยิกแบบที่ต่อให้ใช้น้ำยาดัดแพงเพียงไหนหรือช่างทำผมเก่งกาจเพียงใดคงทำได้ไม่สวยเท่านี้ ที่สำคัญหน้าตาอันแสนจะธรรมดาหาได้ตามท้องตลาด กลับดูสะสวยราวกับไปทำศัลยกรรมมา อีกทั้งฟันก็ไม่เหยินเหมือนเก่า ดังนั้นความรู้สึกที่ตามมาติดๆ และกำลังแล่นพล่านอยู่แทบทุกอณูของขุมขนคือความริษยา “แกไปทำศัลยกรรมมาทั้งตัวหรือไงยายแพง หน้าตาถึงได้เปลี่ยนไปอย่างนี้” “นั่นสิหนูสม” ขวัญใจซึ่งประหลาดใจไม่ต่างกันพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อเห็นอดีตเด็กสาวที่เคยมีท่าทางแหยๆ ขี้แย เอะอะอะไรก็ร้องไห้ และที่สำคัญไม่มีอะไรจะเทียบกับบุตรสาวของนางได้ ทว่าแค่ไม่เห็นหลายปีกลับเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เพราะหลังจากนางเข้าครอบครองสามีของผู้เป็นเพื่อนก็ต้องย้ายตามไปอยู่จังหวัดตราดด้วย จึงไม่เคยเห็นหน้าอีกฝ่ายเลยนับจากนั้น รู้แต่ว่าเจ้าตัวย้ายไปเรียนที่กรุงเทพฯ “อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานสิสมใจ ตัวเองทำก็คิดว่าคนอื่นจะทำด้วย” พิมพกานต์มองอดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วยแววตาวาวโรจน์ “จมูกแกดูเบี้ยวๆ นะ แล้วคิ้วที่ทำน่ะเหมือนปลิงไม่มีผิด หน้าก็บวม สงสัยจะฉีดฟิลเลอร์มากเกินไปหรือเปล่า ปากก็เจ่อเชียว” น้ำเสียงของคนพูดราบเรียบก็จริงทว่าเจือแววเยาะเอาไว้จนเต็มเปี่ยม คนฟังแทบเต้นเผลอยกมือขึ้นลูบจมูกที่ถูกพูดถึง ความระแวงบังเกิดขึ้นว่าเบี้ยวจริงอย่างที่อีกฝ่ายพูดหรือเปล่า แล้วก็เลยไปถึงคิ้วเก้ามิติที่เพิ่งไปทำมารวมทั้งแก้มและปากที่เพิ่งไปสักมาเมื่อวานด้วยเช่นกัน “แกรู้ได้ยังไงว่าฉันทำ นังแพง” พิมพกานต์ยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่งและตอบโต้ออกไปทันควัน “ฉันแค่เดาเอา นังสมใจ ฉันเดาถูกจริงๆ ใช่ไหมล่ะ” พรเพ็ญที่กำลังจะด่าแทนถึงกับอ้าปากค้างเมื่อได้ฟังคำพูดของหลานสาว รูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะใบหน้าถอดเค้ามาจากผู้เป็นพ่อราวกับพิมพ์เดียวกัน เค้าความสะสวยนั้นเธอเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เรื่องที่นึกไม่ถึงคือจากคนที่เคยหงิมๆ จนดูแหยกลับเปลี่ยนเป็นพูดจาฉะฉานต่อปากต่อคำ และยังทำได้ดีจนเธอเกือบลืมตัวปรบมือให้เลยทีเดียว สมใจปรารถนาแทบจะร้องกรี๊ดออกมา ยกมือชี้ไปทางคนที่บอกว่าเดาด้วยท่าทางโกรธจัด แต่ไม่รู้จะหาคำพูดใดมาโต้ตอบ เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นถูกต้องทุกอย่าง “เดี๋ยวนี้ปากเก่งขึ้นเยอะเลยนะ” ขวัญใจพูดน้ำเสียงเยาะๆ มองบุตรสาวของสามีอย่างไม่เชื่อสายตา คนปากเก่งมองภรรยาใหม่ของบิดาด้วยสายตาชิงชัง เป็นเพราะความใจดีของมารดาที่เห็นเพื่อนเก่าที่เคยเรียนร่วมมหาวิทยาลัยมีปัญหาครอบครัว ซ้ำยังเดือดร้อนไร้ที่พักพิงจึงมีน้ำใจไมตรีให้เข้ามาอาศัยอยู่ด้วย และผลตอบแทนที่ได้รับคือถูกหักหลังแย่งชิงสามีที่พื้นฐานเป็นคนเจ้าชู้อยู่แล้วจนทำให้ครอบครัวของเธอพังยับเยิน “ไม่ใช่เก่งแต่ปากอย่างเดียว อย่างอื่นก็เก่งด้วย หรืออยากจะลองก็เชิญ” พิมพกานต์ย่างสามขุมเข้าไปหา ทำเอาสองคนแม่ลูกพากันถอยกรูด ด้วยรูปร่างผิดกันจนเห็นได้ชัด “เชิญแกสองคนแม่ลูกออกไปจากงานศพพี่สาวฉัน ก่อนที่ฉันจะเอาน้ำมาสาดไล่ตัวเสนียดจัญไร” คนถูกเปรียบเป็นตัวเสนียดจัญไรโกรธจนตัวสั่น ขวัญใจยกมือชี้หน้าคนพูด “นังเพ็ญ แกจะพูดจาอะไรก็ระวังปากบ้างนะ ยังไงฉันก็เคยเป็นเพื่อนกับพี่สาวที่หาชีวิตไม่ของแกมาก่อน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD