“บางทีการเป็นลูกคนเดียว เป็นคุณหนูของบ้านก็ไม่ดีเลยนะคะ นอกจากจะเหงาไม่มีใครคอยพูดคุย คอยให้คำปรึกษาแล้ว ยังมีผลเสียพลอยทำให้ยูริทำอะไรไม่เป็นด้วย มีครั้งหนึ่งยูริอยากเข้าครัวไปหัดทำกับข้าว แต่แค่ยูริโผล่หน้าเข้าไป ก็ถูกแม่ครัวไล่ออกมาแล้วค่ะ สุดท้ายยูริก็ทำอะไรไม่เป็นนอกจากคอยชี้นิ้วสั่งอย่างเดียว” พอได้เอ่ยพูดในเรื่องราวที่ตนเองไม่สามารถพูดกับใครได้มาก่อน ก็ช่วยให้รินรดารู้สึกสบายใจขึ้นมามาก ใบหน้างามที่ไม่เคยแย้มยิ้มเลยนับตั้งแต่คืนวันที่สูญเสียบิดามารดาและทุกสิ่งในชีวิตที่เคยมีอยู่ ก็เริ่มคลี่ยิ้มขึ้นมาได้บ้าง แม้จะไม่สดใสเหมือนอดีตที่ผ่านๆ มาก็ตามที “การเป็นลูกคนเดียว เป็นคุณหนูของบ้าน บางทีมันก็มีข้อเสียแบบนี้แหละครับ” เพราะตัวเองก็มีประสบการณ์ตรงมาบ้าง พ่อเลี้ยงคิวากรจึงเข้าใจความรู้สึกของรินรดาดี “เดี๋ยวมาอยู่ที่นี่แล้ว ผมจะสอนให้คุณทำงานเป็นทุกอย่างนะครับ” พ่อเลี้ยงคิวากรเอ่ยย