“เจอเหยื่อแล้วหรอมึง กูละสงสารแม่กวางตัวน้อยที่มาเจอนายพรานเหี้ยๆ แบบมึงสะเหลือเกิน”
เฟยต้านที่หย่อนก้นลงตรงข้าม ในมือถือแก้วเหล้าลายเหลี่ยมที่มีน้ำสีสวยรสชาตินุ่มคอ เอาไว้ดื่มกระตุ้นความสนุกให้กระแสเลือดได้พลุ่งพล่าน จึงเอ่ยปากแหย่พยัคฆ์เพื่อนรักอย่างรู้ใจ
สายตาคมที่มองเหยื่ออยู่ในมุมมืด ยกยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ เหยื่อในค่ำคืนนี้ช่างสวยเซ็กซี่แสนหวานอยู่ในคนๆเดียวกัน มันช่างน่าเหลือเชื่อสะจริง ความขาวออร่าเปล่งประกายในความมืดเหมือนหลอดไฟนีออนล่อหมู่ภมรตัวผู้มาดอมดม แหละหนึ่งในนั้นก็คือพยัคฆ์ที่พร้อมจะกางปีกบิน บินว่อนไปหาแสงนีออน
“เดี๋ยวกูมา”
พยัคฆ์กระดกดื่มเหล้ากลิ่นฉุนนุ่มลงคอรวดเดียวจนหมด ส่งวางแก้วเปล่าลงด้วยความเร็ว
“ถุงยางไหมวะ!”
เฟยต้านรีบเอ่ยถามก่อนที่พยัคฆ์จะเดินพ้นขอบประตูออกไป
“วันนี้กูรู้สึกอยากสด อยากยกซดเพียวๆ แบบไม่ผสมน้ำแข็งโซดา”
“สัส”
เฟยต้านเอ่ยด่าในความห้าวของเพื่อน เค้าขยับก้นลุกขึ้นเต็มความสูงเพื่อมองไปด้านล่าง สำรวจความเรียบร้อยในยามค่ำคืน เพราะวันนี้ผู้คนมากมายสะเหลือเกิน เดินพลุกพล่านเข้ามาหาความสุขที่ไนท์คลับกันอย่างเนืองแน่น
“ถ้ารู้ว่าจะพานารีมาที่นี่ นารีไม่มาด้วยหรอก”
เด็กสาวนารีผู้สวยอ่อนหวานเซ็กซี่ในค่ำคืนนี้เอ่ยอย่างเง้างอน เมื่อเพื่อนพามาในสถานที่อโคจร ก็เธอนะไม่ชอบเธอรู้สึกอึดอัดและหายใจไม่ออก กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ตีกันคละคลุ้งมันเหม็นไปหมด
“เอาน่านารีไหนๆก็มาแล้วถ้าบอกก่อนนารีก็ไม่มาสิ พวกเราเลยตัดสินใจไม่บอกดีกว่า” ลูกกวาดเอ่ยอย่างรู้สึกผิดที่ไม่ยอมบอกเพื่อนรักก่อน เธอกับนารีรู้จักกันตอนที่เข้าเรียนมหาลัย ที่บ้านลูกกวาดเป็นคนมีฐานะมีหน้าตาทางสังคมพอสมควร แต่เธอก็ไม่เคยคิดรังเกียจนารี แถมคุณพ่อคุณแม่ลูกกวาดยังเอ็นดูนารีเหมือนลูกด้วยซ้ำ
“งั้นนารีขอน้ำส้มหรือไม่ก็น้ำเปล่านะ”
“นารีพวกเรามาคลับนะก็ต้องดื่มเหล้าสิ ไม่ใช่มาวัดจะได้ดื่มน้ำส้มน้ำเปล่า” ซาร่าเอ่ยเสียงดุที่เห็นเพื่อนมีท่าทีงอแงไม่เลิก
“งั้นนารีขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” นารีเอ่ยอย่างน้ำตาซึมเมื่อเจอเพื่อนดุในเวลานี้ ร่างบางรีบลุกเดินฝ่าความมืดไปอย่างไม่สนใจเพื่อนร่วมโต๊ะและคนรอบข้าง เธอมีแต่ความน้อยใจเท่านั้นในตอนนี้
อ๊ะ!
ขาเรียวเล็กที่เกือบจะก้าวถึงห้องน้ำในภายในตัวคลับ กลับต้องชะงักร้องจนเสียงหลง แขนเล็กถูกกระชากด้วยความเร็วและแรงจนแขนแทบหลุด
“ปล่อยนารีนะ”
กำปั้นเล็กของมืออีกข้างที่ยังว่างรัวกระหน่ำเข้าที่อกแกร่งอย่างแรง ปากก็ร้องบอกให้ชายหนุ่มปล่อยตัวเธอ โดยที่เห็นหน้าค่าตากันแบบไม่ชัดเพราะข้างในมืดมาก แต่ร่างกายกำยำกลับไม่สะท้านกับแรงอันน้อยนิด แถมกอดรัดเธอเข้าแนบอกอย่างเอาแต่ใจ
“ถ้าไม่หยุดโวยวาย ฉันจะเอาเธอให้เดินไม่เลยคอยดู”
“ไอ้คนโรคจิต ไอ้วิตถาร นารีจะแจ้งตำร…อื้อ”
เพียงแค่นั้นที่เธอได้เอ่ย ประโยคที่เกือบสมบูรณ์ถูกปิดลงด้วยปากหยักที่พร้อมจะดูดจูบเธออยู่แล้ว ตั้งแต่นารีย่างกรายเข้ามาในคลับ
จ๊วบ~อื้ม~จ๊วบ
พยัคฆ์ส่งลิ้นหนาเข้าหาความหวานอย่างไม่รีรอ เมื่อความแปลกใหม่ส่งผลให้นารีเผยอปากออกมาเล็กน้อย นั่นยิ่งทำให้พยัคฆ์ได้ใจใช้ลิ้นหนากวาดหาความหวานอย่างสุขสมในโพรงปากอุ่นอย่างถูกใจ ปากหยักดูดดุนหยอกล้อลิ้นเล็กอย่างไม่ยอมลดละ ฟันคมเลื่อนขบเม้มกัดปากล่างเล็กที่อวบอิ่ม กระตุ้นให้อีกคนสยิวจนทำให้อารมณ์หวั่นไหวอย่างง่ายดาย ร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดอ่อนปวกเปียกเหมือนขี้ผึ้งถูกไฟลน เมื่อได้สัมผัสกับรสจูบครั้งแรกจากชายหนุ่ม มันช่างไม่อ่อนโยนไม่อ่อนหวานเหมือนในนิยายเอาสะเลย
นารีส่งแรงกัดงับเข้าที่ปากหยักด้วยความแรงในยามที่ชายหนุ่มเผลอ “โอ้ย” เสียงร้องครวญในห้องมืดทำให้นารีหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะพยัคฆ์มัวแต่ตกใจปล่อยมือจากเอวคอดกิ่ว พลางส่งมือลูบปากป้อยๆ ด้วยความเจ็บ
“อย่าให้ฉันได้เจออีกนะไอ้เด็กแสบ พ่อจะเอาให้พรุนเลย”