CLUB
“คนเราถ้าไม่ได้รักกัน แต่งงานกันไปมันจะอยู่ด้วยกันรอดหรอวะ?!” พยัคฆ์ที่นั่งดื่มเหล้าในมุมประจำ มองแก้วเหล้าในมืออย่างครุ่นคิด เพราะครั้งนี้ดูเหมือนคุณย่าจะเด็ดขาดบังคับให้เค้าแต่งงานกับนารีเด็กคุณแม่อุปการะให้ได้
“ได้ข่าวว่าแม่มึงรับหนูนารีมาอยู่บ้านแล้วหรอ” เฟยต้านที่เดินเข้ามาพร้อมกับลมเหนือเอ่ยถาม เพราะเค้าได้ยินข่าวมานานแล้วว่าคุณหญิงรัศมีอยากให้พยัคฆ์แต่งงานกับเด็กสาวที่ท่านอุปการะไว้ จนพยัคฆ์รู้สึกอึดอัดและหงุดหงิดเมื่อได้ยินชื่อของนารี ทั้งๆที่เธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ
“อืมรับมาละ แถมดูท่าทางอยู่เป็นสะด้วยประจบประแจงเก่งน่าดู คุณปู่คุณย่าถึงได้หลงขนาดนั้น”
“มึงอคติมากไปรึเปล่า?” ลมเหนือที่แวะเวียนเข้ามาไนท์คลับช่วยเฟยต้านดูแลทุกอย่างอีกแรง นั่งฟังสิ่งที่พยัคฆ์เอ่ยอธิบายด้วยใบหน้าที่เครียดเรียบตึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงถามด้วยความสงสัยเพราะลมเหนือคิดว่าพยัคฆ์มีอคติกับเด็กสาวมากเกินไป
“น้อยไปนะสิ! มึงไม่เห็นเหมือนที่กูเห็นมึงไม่รู้หรอกท่าทางร้ายกาจไม่เบา”
“เอาขาวๆอวบๆไปกินที่ห้องสักคนดิวะจะได้หายเครียด” พยัคฆ์ที่เอนหัวเอนหลังพิงโซฟาสีมืดเงยหน้าขึ้นมองเพดานหลับตาลงอย่างใช้ความคิด สิ่งที่เพื่อนบอกเมื่อครู่ไม่เข้าหัวเค้าสักนิด พยัคฆ์ถอนหายใจเป็นร้อยรอบความเครียดที่มีอยู่ก็ไม่โล่งไม่ลดลงเลยสักที
เฟยต้านกวักมือเรียกพริตตี้สาวให้เข้ามาดูแลพยัคฆ์ แน่นอนไม่มีใครกล้าขัดแถมยังเต็มใจอีกด้วยเพราะได้ทั้งเงินได้ทั้งความสุขใครจะไม่ชอบ
“คุณพยัคฆ์ขาเชอรี่ช่วยให้หายเครียดดีไหมคะ” พริตตี้สาวที่ใส่เสื้อผ้าบางๆ กระโปรงที่สั้นจากจุดสงวนลงมาแค่คืบ นั่งซบไหลกว้างใช้มือลูกคลำเป้าใหญ่ที่มีความเป็นชายซุกซ่อนอยู่ใต้กางเกงยีนส์ขายาว พยัคฆ์กลับนิ่งไม่สนใจคนข้างๆปกติถ้าเจอแบบนี้เวลานี้พยัคฆ์จะลากเข้าห้องเชือดทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาให้พวกเธอได้ลูบคลำ
“เอาน่ามึงสมองจะได้โล่ง”
พยัคฆ์ลุกขึ้นเต็มความสูงดึงมือเล็กที่คลำเป้าเค้าอยู่เมื่อครู่ให้เข้าห้องไปด้วยกัน
“อ๊ะ!รุนแรงจังคะ”
“ลุกขึ้นมาทำให้ฉัน ทำยังไงก็ได้ให้ฉันหายเครียดแล้วเธอจะได้เงินก้อนนั้นไป” พยัคฆ์ปรายตาไปที่หัวเตียงที่มีเงินปึกใหญ่วางอยู่ข้างๆโคมไฟ แบงค์สีเทาหลายใบที่ทับซ้อนกันช่างล้อตาล้อใจให้สาวไซส์ใหญ่สนใจสะเหลือเกิน
พยัคฆ์ก้าวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอย่างใจเย็น เสื้อผ้าอาภรณ์ทุกชิ้นถูกถอดออกอย่างชำนาญ มือเล็กขาวเล็บที่ยาวเคลือบด้วยน้ำยาทาเล็บสีแดงค่อยๆกำรูดแท่งเอ็นขนาดใหญ่ยาวขึ้นลงอย่างอ้อยอิ่ง พยัคฆ์ใช้แขนแกร่งสอดประสานไว้ใต้หัวทุยของตัวเองมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างชอบใจ ในยามที่กลืนกินแท่งเอ็นอุ่นของเค้า
“ห้ามจูบปากฉัน ห้ามขึ้นมานั่งควบบนตัวฉัน สิ่งที่เธอทำได้คืออมรูดดูดเลียลูกชายฉันแค่นั้นเข้าใจไหม?” ถึงพยัคฆ์จะถูกใจแต่ก็ใช่ว่าเค้าจะยอมใช้ปากจูบกับใครง่ายๆ เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงจำพวกนี้แต่ละคนใช้ปากอมให้กับผู้ชายคนไหนบ้างในแต่ละวัน
“ได้ค่ะ”
ปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีสวยอมรูดตั้งแต่ปลายหัวเห็ดบานจนถึงลำโคนที่มีขนเล็กๆขึ้นรายล้อม เธอออกแรงดูดจนแก้มตรอบทั้งสองข้างมือเล็กรูดสาวขึ้นลงอย่างชำนาญ จนพยัคฆ์เงยหน้าซี๊ดปากด้วยความเสียว น้ำเหนียวๆ สีใสไหลเยิ้มออกมาทางรอยแยกที่ปลายหัวเห็ดแดง เชอรี่มองมันอย่างภูมิใจ เธอส่งลิ้นเสียตวัดมันอีกครั้งพร้อมใช้ฟันขบเบาๆเพื่อเป็นการหยอกล้อเหมือนมันมีชีวิตยังไงยังงั้น
อ่าาาาส์!
บ๊วบ~บ๊วบ
อื้ม!
พยัคฆ์ส่งมือใหญ่กดเข้าที่กลุ่มผมดำของหญิงสาวเด้งเอวขึ้นอัดกระแทกลำเอ็นใหญ่ใส่ช่องปากเล็กอย่างไม่ยั้ง จนอีกคนน้ำตาเล็ดแทบจะอวก มันทั้งใหญ่และยาวจนเวลาที่พยัคฆ์อัดกระแทกปลายหัวหยักส่งลึกเข้าไปถึงโพรงคอหอยทำให้เธอหายใจแทบไม่ออก
อ่าส์~อ่าาาาส์
น้ำขาวขุ่นหนืดเหนียวหลั่งไหลใส่ปากอิ่มเธอกลืนกินมันลงคอทุกหยาดหยดอย่างแสนอร่อย
“ออกไป” ร่างกายชายหนุ่มที่เปลือยเปล่านอนราบทับอยู่บนเตียงนุ่มเอ่ยปากไล่อีกคนอย่างไม่สนใจ ปกติในแต่ละคืนเค้าจะปล่อยน้ำไม่ต่ำกว่าห้าถึงหกครั้งจนน้ำแทบจะหมดตัว ปกติผู้หญิงที่ได้ขึ้นเตียงกับเค้าแทบจะลุกเดินออกจากห้องไม่ไหวเพราะเอวที่ดุเดือดของเค้า