เรื่องที่ 19 ทางเลือก (1/2)

2266 Words
ในคืนที่หนาวเหน็บสีนวลนอนกอดตนเองเอาไว้ น้ำตาเธอไหลพรากเมื่อต้องก้าวออกมาจากบ้านของคนที่เป็นพ่อของลูกในท้องของเธอในตอนนี้ เมื่อหลายวันก่อน เธอพึ่งมั่นใจว่าตนเองตั้งครรภ์หลังจากที่ประจำเดือนไม่มานานถึงสามเดือน หลังจากมั่นใจแล้วจึงจะนำข่าวดีนั้นไปบอกแก่ธนา แต่ว่าในวันที่เธอกำลังจะบอกข่าวดีกับเขานั้นก็เป็นวันเดียวกันกับที่เขาพาว่าที่คนรักของตนเข้ามาแนะนำตัวให้กับครอบ ครอบครัวรู้จัก สีนวลที่เป็นเพียงแค่คนรับใช้เธอจึงไม่กล้าที่จะเรียกร้องอะไรถึงแม้เขาจะสัญญากับเธอว่าจะเลี้ยงดูเธอในฐานะเมียคนหนึ่งแต่มันก็คงเป็นเพียงแค่ลมปากของเขาเท่านั้น คนรับใช้จะขึ้นมาเป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้มันคงเป็นอะไรที่เกินเอื้อม ธนาเห็นสายตาตัดพ้อของเธอเขาเบือนหน้าหนีแล้วโอบกอดคนรักของตน สีนวลได้แต่ยกของว่างและเครื่องดื่มไปวางให้ก่อนที่จะกลับไปร้องไห้ที่ห้องของตนเองอย่างเงียบๆ ในเช้าวันต่อมาเธอตัดสินใจลาออกจากงานกะทันหันโดยอ้างว่าจะกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดกับครอบครัว แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอลาออกมาเพราะไม่อยากทนดูธนาหมั้นกับหญิงสาวสวยที่คู่ควรกับเขาคนนั้น มีความคิดแวบหนึ่งที่เธออยากบอกเขาว่าเธอตั้งครรภ์ แต่จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อเธอเองที่ไม่รู้จักป้องกัน มิหนำซ้ำฐานะก็ต่ำต้อยพ่อแม่เขามีหรือว่าจะยอมรับเธอ ดีไม่ดีลูกเธอเกิดมาอาจจะโดนพรากไปจากอกแล้วผลักไสเธอไป การถอยออกมาโดยที่ไม่ต้องบอกเขาให้รับรู้มันคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สองวันแล้วที่เธอออกมาจากบ้านหลังนั้นมาอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ นี้ตัวคนเดียวและเอาแต่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ ธนาที่เคยบอกว่ารักและจะหาทางคุยกับครอบครัวเพื่อยกย่องเธอเป็นภรรยา แต่เธอน่าจะรู้ว่ามันเป็นเพียงแค่คำพูดหวานซึ้งเพื่อเอาใจและให้ความหวัง เพื่อที่จะให้เธอยินยอมมอบความสาวให้แก่เขาและเมื่อเขาเชยชมเธอจนพอใจแล้ว เขาก็ต้องเลือกผู้หญิงที่คู่ควรและเหมาะสมกับเขาที่ไม่ใช่เธอ ********************** ตอนที่อยู่บ้านหลังนั้นเธอได้รับเงินเดือน มีที่พักและอาหารฟรี ส่งเงินให้พ่อแม่ที่ต่างจังหวัดและมีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะอยู่นิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย สีนวลจบแค่มอสามเธอแม่มีความรู้อะไรนอกจากอาหารกับขนม และด้วยสภาพที่ตั้งครรภ์อย่างนี้กับความรู้ที่มี เธอคงไปสมัครงานที่ไหนไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คงเป็นแม่ค้าขายอาหารอยู่ในตลาด เธอเศร้าอยู่ไม่กี่วันก็เริ่มเช่าแผงลอยที่ว่างในตลาดแล้วทำข้าวแกงวันละสามหม้อตามกำลัง ในวันแรกนั้นเธอก็ขายได้ไม่ค่อยดีนักแต่พอวันต่อๆ มาเธอก็ขายหมดทุกวัน กำไรที่ได้มาก็เก็บไว้เพื่อใช้จ่ายในช่วงที่ตนเองคลอดลูก เวลาผ่านไปห้าเดือนแล้วกับการเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงอยู่ที่ตลาด พ่อค้าแม่ค้าหลายคนเอ็นดูเธอที่เข้มแข็งและทำงานหาเลี้ยงตนเองและลูกในครรภ์จึงช่วยเหลือเธอเสมอ ทำให้หญิงสาวรู้สึกตื้นตันใจทุกคนมีน้ำใจกับเธอเป็นอย่างมาก “เดือนหน้าก็จะคลอดแล้ว ต่อไปคงไม่มีเวลามาทำอาหารขายแล้วสินะ เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ทำอาหารสักหนึ่งอย่างแล้วมาฝากป้าขายเดี๋ยวป้าช่วยขายให้ ทำน้ำพริกก็ได้เก็บไว้นานแบบนี้ก็ขายดีเหมือนกัน” ป้าร้านขายไก่ทอดที่อยู่แผงข้างกันพูดขึ้นด้วยความห่วงใยกลัวว่าเธอจะขาดรายได้ “ขอบคุณมากๆ เลยจ้ะป้า ถ้ายังไงหนูจะลองดู ถ้าทำได้หนูคงต้องรบกวนฝากป้าขายให้” เธอบอกกับป้าขายไก่ทอดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ “แล้วจะมาขายจนคลอดเลยเหรอ ทำไมไม่พักสักเดือนก่อนคลอดล่ะ ทำงานหนักแบบนี้มันจะเหนื่อยนะ” ป้าร้านขายขนมครกถามขึ้นมาอีกคน “หนูก็คิดว่าอย่างนั้นแหละจ้ะ ตอนนี้เท้าก็เริ่มบวมเดินไม่ไหวแล้ว” เธอบอกแล้วลูบท้องตัวเองที่ตอนนี้มันขยายใหญ่ขึ้นมาหลายเท่า เท้าก็เริ่มบวมเดินลำบาก “ทำของหวานได้ไหมล่ะสีนวล ถ้าทำได้ก็มาฝากลุงขายให้ก็ได้นะ” ลุงขายคนละไม้ที่อยู่แผงตรงข้ามร้องบอกเธอด้วยความเอ็นดูเช่นกัน “ขอบคุณลุงกับป้าทุกคนมากเลยนะจ๊ะที่เอ็นดูหนู” เธอยกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทั้งสามคนแล้วยิ้มอย่างถ่อมตน “ถ้าจะเลิกขายวันไหน พี่จะเก็บหม้อกับเตาแก๊สไปส่งให้ที่ห้องนะ ไม่ต้องห่วง” ศักดิ์ พ่อค้าขายเนื้อไก่ที่อยู่เยื้องไป ถามขึ้นมาแล้วมองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าคิดกับเธอมากกว่าน้องนุ่ง สีนวลพยักหน้ายิ้มอย่างเกรงใจ เธอพอรู้ว่าศักดิ์ชอบพอเธอและไม่อยากให้ความหวังเขา เพราะตัวเองมีลูกติดมา แต่ก็ต้องรับความช่วยเหลือจากเขาเพราะตนเองไม่มีทางแบกเตาแก๊สกลับห้องได้แน่ “วันนี้เลยก็ได้จ้า พรุ่งนี้ฉันก็จะไปหาหมอนัดสุดท้ายแล้ว จะได้หยุดยาวรอคลอดไปเลย” เธอบอกเขาแล้วยิ้มให้บางๆ “คนหนึ่งก็โสด อีกคนก็ไม่มีใคร ทำไมไม่ลองเปิดใจคบดูล่ะสีนวล จะได้มีคนคอยดูแล” ป้าขายไก่ทอดถามแล้วยิ้มล้อ “หนูไม่อยากเป็นภาระให้ใครจ้า อีกอย่างหนูก็ไม่ดีพอสำหรับใครด้วย” เธอปฏิเสธออกมากลายๆ “แต่ว่าผมอยากมีใครสักคนนะป้า เป็นหมันมีลูกไม่ได้ ถ้าได้เมียแถมลูกมาสักคนก็คงดี” ศักดิ์ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ที่ผ่านมาเขาแค่ทำดีกับเธอไม่ได้แสดงออกชัดเจน แต่พอเธอยิ่งใกล้คลอด และจะไม่มาที่ตลาดแล้วเขาจึงต้องรีบรุกเช่นนี้ สีนวลหน้าแดงเรื่อที่เขาพูดออกมาชัดเจนขนาดนี้ ที่ผ่านมาเขาทำดีกับเธอมาโดยตลอด ช่วยเหลือทุกอย่าง เธอก็เดาออกว่าเขามีใจให้ แต่วันนี้พอได้ยินเขาพูดออกมาขนาดนี้ก็อดเขินไม่ได้ “พูดจริงหรือพูดเล่น เรื่องแบบนี้อย่าล้อเล่นนะพ่อหนุ่ม” ลุงร้านผลไม้ถามขึ้นมาเสียงเข้มราวกับบิดาที่หวงลูกสาว “พี่ชอบสีนวลนะ อยากดูแลในฐานะแฟน ถ้าสีนวลยอมให้พี่เป็นพ่อของลูก รับรองว่าสีนวลจะไม่ผิดหวังที่ให้โอกาสพี่” ศักดิ์เอามือป้องปากร้องออกมาอย่างชัดเจน สีนวลยิ้มอย่างเอียงอาย ในเมื่อเขาชัดเจนขนาดนี้ก็ถึงเวลาที่เธอต้องก้าวไปข้างหน้าเสียที “งั้นพรุ่งนี้พาไปฝากครรภ์ด้วยนะ” เธอตอบเสียงอ้อมแอ้ม ทุกคนที่ได้ยินปรบมือด้วยความยินดีและเป็นพยานรักให้กับทั้งคู่ ********************** สามปีผ่านไป ตอนนี้เด็กชายภูดิษกำลังอยู่ในวัยช่างเจรจา เดือนหน้าก็จะเป็นวันเกิดครบรอบสามขวบของเขาแล้ว ศักดิ์และสีนวลจึงวางแผนว่าวันเกิดของลูกปีนี้จะพาเขาไปฉลองที่ทะเล จะได้ถือเป็นการพักผ่อนไปด้วย ศักดิ์ทำหน้าที่ออกไปขายเนื้อไก่ที่ตลาดตั้งแต่ตีสาม กลับมาตอนบ่ายสองของทุกวัน ในขณะที่สีนวลเลี้ยงลูกอยู่บ้านทำอาหารไว้รอสามี ทำงานบ้านต่างๆ และพอภูดิษเริ่มโตเธอก็ทำกับข้าวถุงเปิดขายที่หน้าบ้านของสามีเขาต่อเติมเป็นห้องเล็กๆ ให้ โดยเลือกขายในช่วงเย็นที่คนเลิกงานและหาซื้อกับข้าวกลับบ้าน ทั้งสองช่วยกันทำมาหากินเพราะสีนวลไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าเกาะสามีกิน ถึงศักดิ์อยากให้เธออยู่เฉยๆ แต่ก็ต้องตามใจภรรยาที่เขาขอให้เธอจดทะเบียนกันอย่างถูกต้องตั้งแต่ก่อนคลอด ทำให้ภูดิษเป็นลูกตามกฎหมายของเขา “พี่ง่วงมาเลยวันนี้” เขากลับมาถึงก็กอดภรรยาแล้วหอมแก้มเธอเพื่อเติมพลัง “ทานข้าวก่อนค่อยไปนอนพักก็ได้จ้ะพี่ศักดิ์” เธอพูดแล้วดึงแขนสามีให้ไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ภูดิษวิ่งไปหาพ่อแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างเพื่อให้กำลังใจ ศักดิ์อุ้มลูกชายตัวน้อยมานั่งบนโต๊ะแล้วฟัดแก้มทั้งสองข้างจนหนูน้อยหัวเราะคิกคักที่โดนบิดาหยอกเย้า “เดือนหน้าก็ไปเป่าเค้กที่ทะเล อยากไปไหมเจ้าแสบ” “ไปฮับ” เด็กชายตัวน้อยพูดไม่ค่อยชัดนัก เขาขึ้นไปยืนบนโต๊ะแล้วกระโดดให้บิดารับไว้ ก่อนจะกอดกันแนบอกด้วยความผูกพันฉันท์พ่อลูกที่เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ “ทั้งพ่อทั้งลูกทานข้าวแล้วไปนอนกลางวันได้แล้ว แม่จะได้เริ่มเตรียมอาหารขายสักที” เธอพูดแล้ววางอาหารลงตรงหน้า มักรอทานอาหารกลางวันพร้อมสามีอยู่เสมอ เธอป้อนไข่พะโล้ให้ลูกชาย แล้วทานอาหารไปด้วย สบตาของสามีที่มองมาอย่างรักใคร่ ตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันเขาเสมอต้นเสมอปลายกับเธอมาก ไม่มีวันไหนที่จะไม่กอดไม่หอมเธอ และบอกว่ารักเธอก่อนนอนทุกครั้ง ********************** กับข้าวถุงหมดในเวลาไม่ถึงสามชั่วโมงหลังจากตั้งร้าน เพราะเธอขายในเขตบ้านที่เป็นชุมชนใหญ่และเป็นถนนสายหลัก สีนวลเดินกลับเข้ามาแล้วมองสองพ่อลูกที่นั่งเปิดรายการเพลงของเด็กดูด้วยกัน ศักดิ์เอาใจลูกชายของเธอมาก เขารักลูกของเธอเหมือนลูกจริงๆ ของเขา คงเป็นเพราะเขาเป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้จนภรรยาคนแรกต้องขอเลิกไป และอีกเหตุผลที่เธอไม่ได้เข้าข้างตัวเอง คือเขารักเธอมากจึงพลอยรักลูกของเธอไปด้วย สีนวลพาภูดิษไปอาบน้ำพร้อมกับเธอแล้วกล่อมนอนที่ห้องนอน ในนั้นมีเตียงขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง และมีเตียงเล็กที่ให้ภูดิษฝึกนอนแยก เพราะอีกหน่อยก็ต้องให้เขาแยกห้องนอนหากโตขึ้น ศักดิ์ที่ปิดล็อกรั้วบ้านเรียบร้อยแล้วตามขึ้นมานอน เขาดึงตัวภรรยากลับมากอดที่เตียงแล้วกดจมูกที่ซอกคอเธออย่างรักใคร่ “ลูกนอนหลับสนิทหรือยัง พี่อยากให้สีนวลกล่อมพี่นอนแล้วนะ” เขาบอกเธอเสียงเบา สีนวลยิ้มแล้วหันมาทางสามี มองเขาด้วยสายตาที่ยั่วยวนแล้วขึ้นไปคร่อมทับบนร่าง หญิงสาวก้มลงไปจูบบดริมฝีปากของสามีอย่างดูดดื่ม แล้วพรมจูบที่ซอกคอของเขาอย่างเอาใจก่อนที่จะเลื้อยตัวลงไปที่ด้านล่างถอดกางเกงนอนหัวยืดออกไปพร้อมชั้นในแล้วจับแท่งลำนั้นขึ้นมาดม ก่อนจะใช้ปลายลิ้นตวัดชิมส่วนหัวจนศักดิ์ครางออกมา “พี่จะขาดใจตายอยู่แล้ว อื้ม” สีนวลไม่ตอบ เธออมแท่งลำของเขา ใช้ปากรูดแท่งลำเอาใจเขา รู้ว่าเขาชอบให้เธอปรนนิบัติด้วยปากก่อนจะร่วมรักกัน เธอผละออกจากแท่งลำของเขาแล้วยกตัวขึ้น ถอดชุดนอนกระโปรงออกไป ข้างในไม่ได้สวมใส่อะไรเอาไว้เช่นทุกคืน แล้วขึ้นไปขย่มเบาๆ ให้กับสามี สีนวลร่อนสะโพกบดเบียดลงไป นิ่วหน้ากัดริมฝีปากล่างแล้วหายใจหอบถี่เบาๆ กลั้นเสียงครางไม่ให้ลูกชายตื่น สะโพกของเธอขยับขึ้นลงเป็นจังหวะที่เร่าร้อน ศักดิ์จิกผ้าปูที่นอนแน่นรับการขย่มจากภรรยา รู้สึกผ่อนคลายและเสียวซ่านเป็นอย่างมาก เธอถูไถจุดกระสันของตนเองกับส่วนที่แข็งแกร่งของเขา แล้วในที่สุดก็ถึงจุดหมายไปอย่างสุขสม แล้วมองตาเขาเป็นนัยว่าเขาต้องขึ้นมาต่อส่วนที่เหลือเอง ศักดิ์พลิกตัวไปอยู่ด้านบน โน้มลงจูบแลกลิ้นกับเธอแล้วขยับไปดูดที่ยอดอกเบาๆ แล้วขยำมันขึ้นมาดูดจนเกิดเสียง แล้วลากลิ้นวนไปทั่วเนินอกของเธอก่อนจะยกตัวขึ้นสบตาด้วยความรัก เขาจับแท่งลำนั้นกดเข้าไป มองดูกลีบสีหวานกลืนมันเข้าไปจนสุดแล้วโยกเข้าออกเบาๆ สูดปากครางแล้วเร่งเร้าสะโพกเข้าไปถี่ๆ ปลายหัวหยักเกร็งตอดตุบๆ พ่นน้ำขาวขุ่นออกมา ปลดปล่อยเข้าไปอย่างเต็มรักแล้วทิ้งตัวนอนกอดภรรยาเอาไว้ “นอนเถอะจ้ะ ต้องตื่นไปตลาดตอนตีสามอีก” เธอหยิบเสื้อผ้าให้เขาใส่ แล้วลุกไปล้างตัวในห้องน้ำ พอกลับออกมาสามีก็หลับไปแล้ว สีนวลขยับเข้าไปกอดเขาด้วยความรัก คิดไม่ผิดจริงๆ ที่มอบหัวใจให้กับเขา และวางใจฝากชีวิตไว้ด้วย **********************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD