ในที่สุดบัวชมพูก็หลีกหนีชะตาของตนเองไม่พ้น ไม่ว่าเธอจะใจแข็งมากเพียงใดก็ตาม แต่สุดท้ายก็ต้องกลับเข้ามาสู่เส้นทางชีวิตของตนเองที่ถูกลิขิตเอาไว้
ในงานแต่งงานของทั้งคู่ เธอรับแขกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม รู้ว่าอย่างไรคืนนี้ทุกอย่างก็ต้องเกิดขึ้นตามที่มันควรจะเป็น เธอแค่ต้องเตรียมตัวตั้งสติและรับมือกับอนาคตที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้อีกสามปี ในตอนที่เธอจะต้องถูกรถชนเพราะความอ่อนแอของตัวเองที่รับภาพบาดตานั้นไม่ไหวแล้วเตลิดออกไป
“สำหรับคุณ อาจจะรักฉันมาสองปี แต่รู้ไหมว่าจริงๆแล้วฉันรักคุณมาเจ็ดปีแล้ว” เธอพึมพำออกมาหน้าโต๊ะเครื่องแป้งในขณะที่รอสามีเข้าไปอาบน้ำ
ภควัฒน์ก้าวออกมาแล้วมองเจ้าสาวของเขาที่นั่งเหม่ออยู่ด้วยความรักใคร่
“เห็นอนาคตอะไรอีก” เขาถามเธอเสียงนุ่ม สองปีที่คบกันมาเธอแสดงให้เขาเห็นหลายต่อหลายครั้งว่าเธอนั้นมองเห็นอนาคตของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นกำหนดวานเลี้ยงของบริษัทว่าจะจัดขึ้นวันไหนและจับฉลากว่าจะไปได้ที่ไหน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการที่จะตกบันไดขาหัก เพื่อนร่วมงานที่จะถูกขอแต่งงานในวันนั้น และบอกเขาว่ามารดาของเขาจะมาเยี่ยม ท่านต้องการเงินไปประกันตัวน้องชายที่ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ แต่ไม่กล้าบอกเขาตามตรง และทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เธอพูด
“ฉันเห็นว่าปีหน้า แฟนเก่าคุณจะเลิกกับสามี แล้วจะกลับมาหาคุณ เธอพยายามทำตัวสนิทสนมกับคุณเหมือนเพื่อน แต่จริงๆแล้วกำลังหาทางให้คุณกับฉันเลิกกันเพื่อทวงคุณคืนไป และสามปีหลังจากนี้เธอก็ทำสำเร็จ คุณกับเธอยืนจูบกันที่บ้านหลังนี้ ในวันครบรอบแต่งงานสามปีของเรา และเป็นวันที่ฉันเสียชีวิต”
“บัว บางทีสิ่งที่คุณเห็นมันอาจไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้ เชื่อใจผมนะ ผมไม่มีวันหลงมารยาของเธอ แล้วกลับไปคืนดีด้วยหรอก แม้แต่ความเป็นเพื่อนผมก็จะไม่มีให้กับเธอ รับรองได้” ภควัฒน์บอกเธอด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงและจริงจัง
“ฉันจะเชื่อใจคุณนะคะ”
“แล้วคุณเห็นนิมิตว่าคืนนี้คุณจะโดนผมจับเข้าหอหรือเปล่า” เขาถามเธอเสียงนุ่มแล้วดึงร่างภรรยาให้ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับเขา
“ฉันเห็นว่าคุณวางแผนจะเข้าหอกับฉันจนถึงเช้า และพรุ่งนี้ที่เราจะไปสัตหีบกันก็ต้องเลื่อนออกไปอีกวัน เพราะเจ้าบ่าวขาอ่อนขับรถพาเจ้าสาวไปฮันนีมูนไม่ไหว” เธอบอกเขาและสบตาอย่างรู้ใจ
“แล้วรู้เหรอว่าผมจะทำท่าไหนบ้าง”
“รู้สิคะ แต่ไม่เอาท่าหมาเริ่มต้นนะคะ ฉันเจ็บมาก คุณต้องเริ่มท่าเบาๆก่อน” เธอบอกเขาอย่างรู้ทัน
ผู้ชายส่วนใหญ่ ร่วมถึงภควัฒน์ชอบท่านี้ แม้กระทั่งคืนแรกที่เข้าหอกัน เขาก็จับเธอร่วมหอในท่านั้นเป็นท่าแรก ทำเอาเธอแสบขัดไปหมด
เขายิ้มที่เธอนั้นรู้ว่าเขาจะทำอย่างไร และบอกเธอว่าเขาจะไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่
“งั้นผมจะแก้ตัวใหม่ จะทำให้คุณมีความสุขจนต้องร้องขอชีวิตเลยทีเดียว” เจ้าบ่าวหมาดๆบอกเสียงพร่าต่ำ
เขาจับเธอถอดชิดนอนบางเบานั้นออกไปทางศีรษะ ก่อนจะกระตุกผ้าขนหนูออกจากร่างกายของตัวเอง แล้วดันเธอไปที่เตียงนอนที่ตอนนี้มีกลีบกุหลาบโรยเอาไว้กลางเตียง
“ทำไมไม่ใช่ชั้นใน” เขาถามเธอเสียงเบาพลางสบตา
“รู้ว่าคุณต้องถอดมันออกอยู่แล้ว จะใส่ทำไมล่ะคะ”
“คุณนี่นะบัว น่ารัก รู้ใจผมจริงๆ”
ภควัฒน์ก้มลงไปจูบที่ซอกคอของภรรยาแล้วเลื่อนจูบขึ้นมาที่ใบหน้า พรมจูบเธอไปทั่วแล้วหยุดที่ริมฝีปากฉ่ำหวานนั้น ในขณะที่มือของเขาก็ลูบไล้ปลุกเร้าอารมณ์ที่เนินอวบอูมนั้นอย่างเบามือ
ริมฝีปากร้อนบดจูบเธอด้วยความปรารถนา ปลายลิ้นของเขาสอดตวัดรัดเกี่ยวกับปลายลิ้นของเธอที่จูบตอบกลับมา ในขณะที่นิ้วเรียวยาวของเขาแหวกเส้นไหมสีดำขลับนั้นไปให้พ้นทางแล้วละเลงจุดกระสันของเธออย่างบ้าคลั่ง
บัวชมพูแอ่นรับปลายนิ้วของเขาที่พยายามปลุกเร้าอารมณ์ของเธอให้กระเจิง แล้วดันศีรษะของเขาลงไปด้านล่างเพื่อให้ใช้ปลายลิ้นมอบความสุขกับเธอ
เขาทำตามที่ร่างกายของเธอเรียกร้อง เลื่อนตัวลงไปดูดเลียที่หน้าอกจนพอใจขณะที่ใช้นิ้วแยงเข้าออกเบาๆในช่องที่ตอดรัดนั้น แล้วจึงเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงร่องสวาทที่ฉ่ำแฉะ บรรจงใช้ลิ้นดูดที่จุดกระสันเบาๆ ก่อนจะเกร็งปลายลิ้นแล้วตวัดรัวอย่างช่ำชอง
บัวชมพูครางเสียงกระเส่าด้วยความพอใจ ยิ่งเขาเลื่อนปลายลิ้นลงไปทำหน้าที่กับช่องคับแคบของเธอยิ่งทำให้เธอครางออกมาไม่หยุด
เธอจิกเกร็งปลายเท้าขณะที่ถึงจุดหมายด้วยปลายลิ้นของเขา หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงยกตัวขึ้น ปาดคราบน้ำสีใสออกจากปากแล้วสอดใส่เข้าไปอย่างเต็มรัก
“อ๊ะ อื้ม” เสียงครางของบัวชมพูดังขึ้นถี่ๆ ตามแรงกระทำของสามีที่ซอยแท่งลำเข้าไปด้วยความกำหนัด
เขาเร่งความเร็วขึ้นถี่ๆ เสียงครางกระเส่าของภรรยาดังขึ้นเรื่อยๆทำให้เขายิ่งรู้สึกฮึกเหิม
ภควัฒน์โน้มตัวลงไปจูบแลกลิ้นกับภรรยา กอดรั้งตัวเธอให้แนบชิดแล้วโถมแรงสะโพกลงไปอย่างดุดัน
คำว่าจะถนอมให้นุ่มนวลนั้นไม่มีจริง เมื่อเจอช่องคับแคบที่ตอดรัดเขาจนหยุดขยับตัวไม่ได้ เพราะมันปิ่มจะถึงจุดหมายอยู่เนืองๆ หากเขาชะลอความเร็วลงคงถูกภายในเธอบีบรัดจนถึงจุดหมายอย่างแน่นอน
“ไม่ไหวแล้ว อื้อ” บัวชมพูครางเสียงกระเส่า แล้วผลักเขาให้นอนหงาย
เธอขึ้นไปคร่อมทับเขาอยู่ด้านบนแล้วขย่มโยกเข้าหาเขาเพื่อเร่งเร้าให้เขาถึงจุดหมายไปพร้อมกัน
“อื้อ บัว.. อ๊า” เขาครางเสียงหลงเมื่อเจอลีลาขย่มตอของคนรักเข้าไป ถึงนี้เป็นครั้งแรกของเธอ แต่บัวชมพูก็ยังจำลีลาที่เธอเคยร่วมรักกับเขาที่ผ่านมาได้
ความตั้งใจที่จะทำให้ภรรยาถึงจุดหมายไปหลายน้ำนั้นจบลง เพราะว่าตอนนี้เธอเป็นฝ่ายควบคุมอยู่บนตัวเขา และทำให้เขาถึงจุดหมายไปพร้อมกับเธอในที่สุด
“อื้ม บัว คุณสุดยอดไปเลย ขนาดครั้งแรกคุณยังทำได้ขนาดนี้ รีดน้ำผมจนหมดตัว” เขาชมลีลาของเธอด้วยเสียงหายใจหอบถี่ แล้วนอนแผ่หลาด้วยความเหนื่อย
“ฉันไม่ยอมให้คุณเลื่อนฮันนีมูนที่สัตหีบของเราออกไปหรอกค่ะ” เธอบอกเขาแล้วก้มลงจูบที่ปลายคางของสามี แล้วทิ้งตัวนอนลงข้างๆ ด้วยความสุขที่ได้แต่งงานกับเขาอีกครั้ง
**********************
ชีวิตการแต่งงานเป็นไปอย่างราบรื่นเหมือนที่เคยเป็นมาจนล่วงเข้าปีที่สาม ในวันที่บัวชมพูกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอเหมือนอย่างเมื่อห้าปีก่อนหรือไม่
ภควัฒน์ที่ปฏิเสธและตัดการติดต่อจากทาริกา วันนี้เข้าต้องแปลกใจเมื่อเห็นเธอมายืนอยู่ต่อหน้าเขาในวันครบรอบวันแต่งงานอย่างที่บัวชมพูเคยบอกเอาไว้
“ฉันขอเข้าไปในบ้านหน่อยนะคะ”
“คุณมาที่นี่ได้ยังไง” เขาไม่ฟังสิ่งที่เธอบอก และถามเธอด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
“ฉันถามจากเพื่อนคุณ ขอร้องอยู่นานกว่าเขาจะยอมบอกที่อยู่คุณให้กับฉัน” เธอบอกเขาเสียงอ่อน แล้วยิ้มให้บางๆ
“ฉันพยายามติดต่อคุณมาเกือบปี คุณโกรธอะไรฉันนักหนา ทำไมถึงต้องหลบหน้ากันอย่างนี้ ตอนเลิกกันคุณเองก็ยังบอกว่าจะรอฉัน และเรายังเป็นเพื่อนกันได้” เธอถามเขาเสียงเครือ
ภควัฒน์ใจแข็งไม่ยอมเปิดประตูให้เธอเข้ามาในบ้าน บัวชมพูเองที่เป็นกังวลตอนนี้เธออยู่ในบ้านไม่ได้ออกมาที่หน้าบ้าน เพราะเขาขอเอาไว้ กลัวเธอจะเป็นอะไรไปอย่างที่เธอเคยบอก
“ให้ฉันเข้าไปคุยด้วยได้ไหมคะ”
“ไม่ได้หรอก ภรรยาผมคงไม่อยากให้ผมข้องเกี่ยวกับแฟนเก่า ผมไม่อยากให้เธอคิดมาก” เขาบอกเธอตามตรง
“แม้กระทั่งในฐานะเพื่อนเหรอคะ”
“ใช่ แม้กระทั่งในฐานะเพื่อน ผมไม่สามารถเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะ แต่คุณกลับไปเถอะ”
“ถ้าอย่างนั้นกอดลากันเป็นครั้งสุดท้ายได้หรือเปล่าคะ” เธอถามเขาเสียงอ่อน ตั้งใจจะทำมากกว่ากอดเพื่อให้เขาใจเต้นกับเธอ แล้วจะหาแผนมาป่วนเขากับภรรยาเรื่อยๆ
“อย่างนี้เองสินะคะ ขอกอดครั้งสุดท้าย ขอจูบครั้งสุดท้าย เพื่อให้คุณวัฒน์หวั่นไหวกับคุณ เสียใจด้วยนะคะ ฉันคงยอมให้สามีจูบกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้” บัวชมพูเดินออกมาจากบ้านแล้วขยับไปกอดแขนสามีเอาไว้
ทาริกามองอย่างเจ็บใจ ไม่รู้ว่าทำไมภควัฒน์ถึงระวังตัวแจขนาดนี้
“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นนะคะ คุณคงเข้าใจผิด” ทาริกาบอกแล้วยิ้มให้ แต่บัวชมพูรู้ว่าเธอเสแสร้ง
“กลับไปเถอะค่ะ” บัวชมพูไล่เธอทางอ้อม
“ฉันขอคุยกับวัฒน์ตามลำพังได้หรือเปล่าคะ” ทาริกาขอร้อง
“ไม่ได้ค่ะ คุณไม่มีสิทธิ์ในฐานะอะไรทั้งนั้น” บัวชมพูใจแข็งไม่ยอมให้ทาริกาเข้ามาสร้างความวุ่นวายกับเธอและสามี
ทาริกามองอย่างเจ็บใจ แววตาที่ดูน่าสงสารเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวแล้วกรีดร้องออกมาสุดเสียงก่อนที่จะเดินกลับไป ท่ามกลางความตกใจของภควัฒน์ที่เห็นธาตุแท้ของอดีตคนรักที่บอกว่าอยากกลับมาเป็นเพื่อนกับเขา
บัวชมพูควงสามีกลับเข้าไปในบ้าน เธอรู้สึกสบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แล้วยิ้มกว้างให้กับเขา
“แบบนี้ต้องฉลอง” เธอบอกสามีแล้วขึ้นไปหยิบขวดไวน์ที่เธอซื้อเตรียมมาไว้หลายวัยลงมาดื่มฉลองกับเขา
แต่เหมือนว่าทุกอย่างได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ตอนที่เธอเดินลงมาจากบันไดชั้นสอง บัวชมพูลื่นและตกบันไดลงมาต่อหน้าของภควัฒน์
เธอมองใบหน้าที่ดูร้อนใจของสามี ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างสุดท้ายมันก็ต้องจบลงแบบนี้
“แต่ครั้งนี้โชคดีที่คุณไม่ได้นอกใจฉันเหมือนครั้งที่แล้ว” เธอพูดกับเขาเสียงเบาแล้วสติก็ดับลงไป
**********************
บัวชมพูรู้สึกตัวขึ้นมาในโรงพยาบาล เธอลืมตามองดูเพดาน รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ร้าวไปทั่วร่าง ขยับส่วนไหนก็เจ็บปวดไปหมดจึงทำได้แค่กลอกตาและกระดิกนิ้ว
ภควัฒน์ที่นั่งข้างภรรยาและกุมมือเอาไว้ตลอด พอรู้สึกได้ถึงนิ้วที่เธอขยับก็ลุกขึ้นมาแล้วยิ้มให้กับเธอด้วยความดีใจ
“บัวสลบไปตั้งสามวันแน่ะ ฟื้นเสียทีนะ” เขาพูดด้วยความดีใจแล้วกดกริ่งเรียกพยาบาล ก่อนจะเทน้ำใส่แก้วแล้วเอาหลอดมาให้เธอดูด
“ฉันเจ็บ” เธอบอกเขาเสียงแหบ
ในตอนนั้นพยาบาลเดินเข้ามา เธอฉีดยาแก้ปวดตามคำสั่งของหมอที่บอกว่าถ้าคนไข้ฟื้นให้ฉีดยาระงับปวดให้แก่เธอ
“บัวแขนหักหนึ่งข้าง ขาไม่หักแต่กระดูกร้าว และคอเคล็ด หัวแตกและมีแผลตามตัวนิดหน่อย อดทนหน่อยนะบัว ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณจนหายดี” ภควัฒน์บอกภรรยาเสียงนุ่ม แล้วยกมือมาจุมพิตเบาๆด้วยความรักและรู้สึกผิดที่ตัวเองมีส่วนให้เธอเป็นอย่างนี้
“แค่ตกบันได เป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอคะ” เธอถามสามีเสียงเบา หลังจากพยาบาลออกไปแล้ว
“คุณโดนรถชนนะบัว ผมผิดเองที่เป็นสาเหตุให้คุณเป็นอย่างนี้
บัวชมพูนิ่งไป ทั้งหมดที่ผ่านมาเธอแค่ฝันไป หรือว่าเธอกลับมาเข้าร่างของตัวเองหลังจากที่ตายเป็นหนที่สองกันแน่
“ผมไล่ทาริกากลับไปแล้ว เธอขอกอดผมเป็นครั้งสุดท้าย ผมเลยกอดเธอให้จบๆไปไม่คิดว่าเธอจะจูบผมอย่างนั้น ตอนนี้เธอจะไม่มายุ่งกับเราอีกแล้วนะ ขนาดเธอขอมาเยี่ยมคุณผมยังไม่ให้มา วางใจได้นะบัว ผมไม่ได้นอกใจคุณแน่นอน” เขารีบอธิบายกับภรรยาด้วยน้ำเสียงที่ร้อนใจ
บัวชมพูเงียบไป เธอเชื่อเขาและนึกโทษตัวเองมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความฝันหรือความจริง ทุกอย่างก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอไม่สามารถฝืนชะตาได้ และคนที่ทำให้เธอเจ็บก็คือตัวเธอเอง ถ้าเธอมีสติสักนิด ฟังคำอธิบายกับเขา ก็ไม่ต้องเจ็บตัวหรือมานั่งโทษใครอย่างนี้
“ฉันเชื่อใจคุณค่ะ ขอโทษที่วิ่งออกไปอย่างนั้น” เธอบอกเขาเสียงเบา
“บัวไม่ผิด ผมผิดเองที่จัดการทุกอย่างไม่ได้จนมันเกิดเรื่องขึ้น ผมควรเข้าใจผู้หญิงให้มากกว่านี้ ว่าผมไม่ควรเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า ผมผิดเองที่ไว้ใจให้เธอเข้ามาในชีวิตเรา แต่ต่อจากนี้ผมรับรองว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว” เขาบอกเธอเสียงนุ่ม จุมพิตหน้าผากเธออย่างรักใคร่
บัวชมพูยิ้มออกมา ฤทธิ์ของยาและความอ่อนเพลียทำให้เธอง่วงและอยากพักผ่อนเต็มทีแล้ว
“ฉันรักคุณนะคะ”
“ผมก็รักคุณ พักผ่อนนะคนดี ผมจะอยู่ข้างๆคุณแบบนี้ไม่ห่างไปไหน ทุกครั้งที่คุณลืมตาขึ้นมา คุณจะเจอผมอยู่ที่นี่เสมอ” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน รู้ดีว่าเธอไม่ชอบโรงพยาบาลและไม่ชอบนอนแปลกที่ การมีเขาอยู่ด้วยตลอดเวลามันย่อมเป็นสิ่งที่จะทำให้เธออุ่นใจ
บัวชมพูอมยิ้มบางๆแล้วหลับตาลง หลังจากหายดีเธอสัญญากับตัวเองว่าจะมีสติให้มากกว่านี้ ไม่วู่วามทำอะไรให้ต้องเกิดเรื่องอะไรแบบนี้อีก
---จบ---