Chapter 2 ท่อนเนื้อที่เหี่ยวแห้ง [2]
“ว่าแต่ท่านแน่ใจหรือเจ้าคะว่าจะจัดการชายคนนี้ไหว”
คณิกาสาวเอ่ยขึ้นปลุกให้นักฆ่าหญิงหลุดออกจากภวังค์แห่งความหลัง หลิงเสียเหลือบมองชายตัวโตรูปงามแล้วก็ถึงกับลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความเสียดาย ชายคนนี้หากนางได้มีโอกาสปรนเปรอเขาด้วยกามารมณ์นางคงจะสุขถึงขีดสุด เพราะที่ผ่านมานางต้องรับแขกตัวเหม็น บ้างก็แก่คราวพ่อคราวปู่ บ้างก็ขี้ริ้วจนทำให้ไร้อารมณ์ ไม่ง่ายเลยที่จะมีชายหนุ่มรูปงามผ่านเข้ามา
“เรื่องแค่นี้เอง”
ตอบออกไปทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ และแน่นอนว่าหญิงที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนเช่นหลิงเสีย มองปราดเดียวก็รู้ว่าผู้มีพระคุณของนางไม่คุ้นเคยกับการเสพกามารมณ์เลยแม้แต่น้อย
ต่อให้หวงซูเยี่ยนจะจับดาบฆ่าฟันมานับพันนับหมื่น แต่นั่นคือดาบที่ทำจากโลหะ หาใช่ดาบของบุรุษเพศที่มีทั้งเลือดเนื้อและความรู้สึก
“งั้นหรือเจ้าคะ”
หลิงเสียพยักหน้าน้อยๆ ถึงนางจะมีข้อสงสัยมากมายแต่ก็มิอาจซักถาม ด้วยรู้ดีว่าเบื้องหลังของผู้มีพระคุณเต็มไปด้วยความลับมากมาย แม้แต่ชื่อแซ่นางก็ไม่มีสิทธิ์ถามไถ่ จนนางต้องไปแอบสืบรู้มาโดยบังเอิญว่าผู้มีพระคุณของนางนั้นเป็นบุตรบุญธรรมของหัวหน้าพรรคมารที่ใครๆ ก็ต่างหวาดกลัว
แน่นอนว่าเมื่อรู้เช่นนี้ นางยิ่งไม่กล้าก้าวล่วงจนอาจทำให้อีกฝ่ายต้องหมางใจ เพราะการเป็นศัตรูกับพรรคมารเป็นเรื่องโง่เขลาเบาปัญญาอย่างที่สุด
“ข้ารู้ว่าเรื่องแค่นี้ท่านสามารถจัดการได้โดยง่าย แต่ได้โปรดรับสิ่งนี้ไว้เถอะเจ้าค่ะ เพราะมันอาจทำให้ท่านจัดการอะไรๆ ได้ง่ายขึ้นอีกหลายส่วนนัก”
จางหลิงเสียยื่นห่อกระดาษยัดใส่มือผู้มีพระคุณ ทว่าหญิงชุดดำกลับขมวดคิ้วมุ่นมองหญิงคณิกาอย่างต้องการคำตอบโดยมิได้เอ่ยถามออกไป
“นำยาลูกกลอนในห่อนี้ยัดใส่ปากชายหนุ่มผู้นั้นเพียงครั้งละหนึ่งเม็ด ทีนี้เรื่องอะไรที่ยากก็จะง่ายขึ้นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
พูดจบจางหลิงเสียก็ย่อตัวลงน้อยๆ แสดงถึงความเคารพอีกฝ่าย ก่อนจะก้าวออกจากประตูห้องไปแล้วปิดประตูอย่างเงียบเชียบ
นักฆ่าสาวมองห่อกระดาษในมืออย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่หลิงเสียพูดแม้แต่คำเดียว
“มันจะยากอะไรนักหนา ก็แค่ดูดกลืนปราณชีวิตของเขาด้วยการร่วมเพศ การร่วมเพศก็คือการที่อวัยวะของหญิงชายสอดใส่เข้าหากันจนกว่าฝ่ายชายจะปลดปล่อยสายน้ำสีขาวขุ่นซึ่งเป็นสายน้ำแห่งชาติพันธุ์ออกมา เพียงเท่านี้ก็จบสิ้น ไม่เห็นมีอะไรยากเลยสักนิด”
นางวางห่อยาลงบนโต๊ะแล้วเหยียดยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากอย่างทะนงตน ในบรรดาลูกศิษย์มากมายนับร้อยคนของพรรคมาร นางคือคนที่เก่งกาจที่สุด หัวไว เรียนรู้กระบวนท่าวิชาต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว เป็นที่รักของเหล่าอาจารย์มาโดยตลอด
อีกทั้งนางยังเป็นบุตรบุญธรรมของประมุขพรรคมารเหวินเคอ และที่สำคัญนี่เป็นงานสำคัญที่นางได้รับความไว้วางใจจากบิดา ดังนั้นงานครั้งนี้ต้องสำเร็จ จะไม่มีคำว่าพลาดเด็ดขาด
‘จงจำไว้นะซูเอ๋อร์ เจ้าต้องหลับนอนกับชายคนนั้นทั้งหมดเจ็ดราตรีติดต่อกันอย่าได้ขาด ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้สายน้ำแห่งชาติพันธุ์ของเขาไหลเข้ามาในตัวเจ้า จงจำไว้ว่างานนี้สำคัญมาก ปราณของเด็กหนุ่มคนนั้นจะช่วยต่ออายุให้กับข้า และเจ้าคือคนที่ข้าไว้ใจและรักมากที่สุด ดังนั้นข้าจึงไว้วางใจมอบงานที่เกี่ยวพันกับความเป็นความตายของข้าเอาไว้ในมือเจ้า จงใช้ความเป็นหญิงของเจ้าช่วยต่อลมหายใจให้กับข้า...’
คำว่า ‘รัก’ และ ‘ไว้ใจ’ ทำให้เด็กกำพร้าอย่างซูเยี่ยนถึงกับน้ำตาซึมด้วยความปลาบปลื้มใจ
“ข้าจะไม่ทำให้ท่านพ่อผิดหวัง”
นางเปล่งวาจาออกมาอย่างมุ่งมั่น ก่อนจะขยับกายเข้าไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียง มองชายที่สลบไสลจากฤทธิ์น้ำเมาด้วยความรู้สึกสมเพชในใจ
‘นี่นะหรือ หนึ่งในเก้าแห่งยอดฝีมือจากสำนักทรงธรรม ควรแล้วหรือที่จะเมามายในหอคณิกาจนทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ ช่างน่าละอายเหลือเกิน’
นางยื่นมือออกไปแตะเบาๆ ที่ข้างแก้มขาวนวลเต็มไปด้วยเลือดฝาดสีระเรื่อของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะมองยังไงเขาก็ดูคล้ายบุรุษหนุ่มเจ้าสำอางที่ชอบทำตัวสำมะเลเทเมามากกว่าจะเป็นหนึ่งในเก้ายอดฝีมือเลื่องชื่อแห่งสำนักทรงธรรม
มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่านะ...
หรือว่าผิดตัว! ทำไมทุกอย่างจึงดูง่ายดายนัก!
หวงซูเยี่ยนอดนึกสงสัยไม่ได้ ก่อนจะไล่สายตาไปตามเรือนกายของเขา ไม่หรอก... ไม่ผิดพลาดแน่ แม้จะมีใบหน้างดงามราวอิสตรี รูปกายดูสูงระหงทว่าภายใต้อาภรณ์สีเข้มกลับซ่อนมัดกล้ามที่ผ่านการฝึกฝนวรยุทธ์มาอย่างหนักหน่วงเอาไว้ได้อย่างมิดชิด
เริ่มเลยดีกว่า อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้เลย!
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะยื่นมือไปปลดกางเกงของชายหนุ่มออก จู่ๆ มือเล็กเรียวก็สั่นระริกด้วยความตื่นกลัวขึ้นมาเสียดื้อๆ
“บ้าจริง!”
นางสบถคล้ายหงุดหงิด พยายามเกร็งมือไม่ให้สั่นแต่กลับไม่เป็นดั่งใจ
จริงอยู่ที่ซูเยี่ยนเติบโตมากับเหล่าพรรคมารซึ่งล้วนเป็นชายกว่าเก้าในสิบส่วน ทว่านางกลับไม่เคยเห็นเครื่องเพศของบุรุษมาก่อน เพราะทุกคนต่างให้เกียรติและให้ความเคารพนางในฐานะบุตรบุญธรรมของท่านประมุขเหวินเคอ
ละ...แล้วนางจะจัดการกับไอ้ท่อนเอ็นที่นอนแห้งเหี่ยวแท่งนี้อย่างไรดีเล่า!
นางยกมือขึ้นตบที่กลางอกของตนเองหลายครั้งอย่างพยายามปลุกปลอบเรียกขวัญและกำลังใจ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพื่อทบทวนความจำจากตำราปกขาวที่นางได้ศึกษาอย่างคร่าวๆ ก่อนจะมาทำภารกิจในครั้งนี้
ลองดู!
นางลืมตาขึ้นแล้วยื่นนิ้วไปแตะที่ท่อนเนื้อแห้งเหี่ยว ค่อยๆ แตะ ค่อยๆ เขี่ย รู้สึกสะอิดสะเอียนเพราะมันเหมือนซากหนอนที่โดนแดดตากแห้งจนตาย แม้มันจะเป็นสีชมพูระเรื่อ แต่ด้วยความที่มันเป็นแท่ง มีหนังเหี่ยวๆ และเจ้าก้อนไข่สองก้อนที่ดูเหมือนผลหงเหมาตาน[1] ก็ยิ่งดูประหลาดชอบกล อีกทั้งยังขนยุบยับนั่นอีกเล่า
เจ้าสิ่งนี้หรือที่บางครั้งสตรีถึงกับแย่งชิงตบตีกันเพื่อได้ครอบครอง ไม่เห็นน่าพิศวาสแม้แต่นิดเดียว
ให้ตายเถอะ!
[1] เงาะ