Chapter 5 ร่างกายของเจ้าเป็นของข้า [2]

1176 Words
Chapter5 ร่างกายของเจ้าเป็นของข้า [2] “อ๊ะ...” ซูเยี่ยนตกใจเมื่อถูกกอบกุมทั้งช่วงบนและช่วงล่าง มือหนึ่งกำเต้านมของนางเอาไว้พลางบีบขยำเค้นคลึง ส่วนอีกมือกลับยังคงสอดนิ้วกลางค้างคาอยู่ในร่องกลีบบุปผาโดยไม่ยอมชักออก ยังผลให้นางถึงกับหายใจติดขัด เสียวซ่านจนเผลอห่อริมฝีปากส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างสุดจะกลั้น “อะ...อื้อ อื้อ” “ว่าอย่างไรเล่า ร่างกายของเจ้าเป็นของข้าแน่นะหรือ” เขาทวนถามอีกครั้งพลางฝังจมูกโด่งลงไปยังซอกคองามระหง นักฆ่าสาวรู้สึกสับสนเมื่อถูกไล่ต้อน คนเมาที่ไม่มีสติจะสามารถเอ่ยถามซักไซ้ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ... “ว่าอย่างไรเล่า” เขาทวงถามอีกครั้งพลางขยับนิ้วกลางบดขยี้ลงบนเมล็ดสวาทรัวเร็ว “อ๊ะ อ๊ะ อื้อ จะ...จะ...เจ้าค่ะ” หญิงสาวบิดตัวเกร็ง หอบหายใจแรงเมื่อความซ่านหฤหรรษ์โอบรัดจนเกร็งไปทั้งสรรพางค์กาย แล้วโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว เขาก็อุ้มนางด้วยแขนเพียงข้างเดียวให้นั่งลงบนโต๊ะไม้ทรงกลม ส่วนตัวเขานั้นคุกเข่าลงกับพื้นโดยที่ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ในระดับเดียวกันกับหว่างขาของนาง “อ้าขาออกสิ!” เป็นครั้งแรกที่หวงซูเยี่ยนได้ยินเสียงกลืนน้ำลายลงคอของตนเอง มันดังคล้ายกับเสียงหินตกลงกระทบผืนน้ำในถ้ำลึก ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ เปลือกตากะพริบถี่คล้ายกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เวลานี้นางทั้งกระดากอาย ทั้งงุนงงสงสัยในตัวชายตรงหน้า ทว่าความสงสัยกลับถูกกระชากจนซ่านกระเซ็นเมื่อมือหนาวางลงบนต้นขาขาวนวลแล้วจับเรียวขานั้นให้อ้าออกกว้าง ดวงตาที่คล้ายกับเลื่อนลอย นัยน์ตาดำเป็นสีหมอกควันฉายชัดว่ายังคงเมามายไม่ได้สติ แต่อะไรหลายๆ อย่างในตัวเขาทำให้นักฆ่าสาวรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาในหัวใจอย่างน่าประหลาด "บุปผาของเจ้าช่างดงามนัก" เรียวขาที่อ้าออกสั่นน้อยๆ นางกระดากจนต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แต่กระนั้นกลับเห็นเขาจากทางหางตา เห็นชัดว่าเขากำลังจับจ้องมองมายังบุปผาของนางราวกับหลงใหล “อ๊ะ!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ลมหายใจสะดุดจนก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายเต้นผิดจังหวะ ต้นขากระตุกเกร็งเมื่อรับรู้ได้ว่าเวลานี้เฉินฮ่านหลานได้ซุกใบหน้าลงมายังโหนกนูนแห่งอิสตรี “อะ...อื้อ” จมูกโด่งซุกลงไปสัมผัสกับเมล็ดแห่งชาติพันธุ์ที่อ่อนนุ่ม ฮ่านหลานใช้จมูกโด่งดุนดันถูไถไปกับเมล็ดสีชมพูระเรื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหยาดน้ำใสไหลออกมาจากรูสวาทชุ่มแฉะ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ แลบลิ้นออกมาตวัดเลียดื่มกินหยาดน้ำหวานราวกับหิวกระหาย ยิ่งเลีย... หยาดน้ำหวานกลับยิ่งไหลออกมา ไหลออกมามากมายเต็มไปหมด “หวานเหลือเกิน” น้ำเสียงของคนเมายังผลให้หัวใจของนักฆ่าสาวสับสน หลายครั้งที่นางอยากกระถดกายถอยหนี ทว่านี่คือภารกิจแห่งความเป็นความตายที่มีอายุขัยของบิดาบุญธรรมเป็นเดิมพัน นางไม่อาจถอยแม้ก้าวเดียว จำต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง กดข่มความซ่านหฤหรรษ์ที่กำลังถาโถมเข้ามาโอบรัดเรือนกายราวกับจะกลั่นแกล้ง “อื้อ...อื้อ” แม้ริมฝีปากจะเม้มสนิททว่าเสียงครวญครางด้วยความซ่านกระสันกลับอื้ออึงออกมาจากลำคอ นางหอบหายใจแรงคล้ายปลาเกลือกกลิ้งอยู่บนบกจนทรวงอกอิ่มกระเพื่อมไหว ศิษย์เอกแห่งสำนักทรงธรรมยังคงละเลงลิ้นลามเลียไปยังกลีบบุปผา บ้างก็ดุนดันปลายลิ้นเข้าไปยังบริเวณปากทางแคบชื้นจนทำให้ร่างเล็กผวาเฮือกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนที่เขาจะห่อปลายลิ้นเข้าหากันให้แข็งแล้วดุนดันถูไถระรัวไปยังเมล็ดสวาทอีกครั้ง “อา...อะ...อาห์” ซูเยี่ยนสะบัดใบหน้าแรงๆ อ้าปากส่งเสียงครวญครางอย่างไม่อาจเก็บงำซ่อนความรู้สึกเอาไว้ได้อีกต่อไป “ขะ...ข้าสะ...เสียวเหลือเกิน อื้อ พะ...พอได้แล้ว” มือเล็กเลื่อนไปดึงทึ้งผมสีดำขลับยาวจดกลางหลังของชายหนุ่มเอาไว้ ทั้งกระชาก ทั้งดึง ทว่าเขากลับยังคงซุกหน้าลงไปยังกลางหว่างหาโดยไม่สนใจคำทักท้วงของนางเลยแม้แต่น้อย “ขะ...ข้าไม่ไหวแล้ว มะ...ไม่ไหวแล้ว” นางหายใจคล้ายผวา หน้าท้องแบนราบขดเกร็ง เรียวขาที่ถูกจับให้อ้าออกถึงกับสั่นระริก ก่อนที่ภายในร่างกายจะเกร็งกระตุกคล้ายถูกควักหัวใจออกไปจากอกเสียกระนั้น “อื้อ!” ซูเยี่ยนครางเสียงดังก่อนจะผวาไปทั้งสรรพางค์กาย ไหล่บอบบางห่องุ้ม ความซ่านเสียวยังผลให้ร่างกายเกร็งกระตุก ช่องแคบชื้นตอดรัดอยู่ภายใน ในความเสียวเต็มไปด้วยความสุขอย่างน่าประหลาดล้ำ นางหอบหายใจแรงจนทรวงอกกระเพื่อมไหม เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้าราวกับคนที่เพิ่งก้าวผ่านจากการร่วงหล่นลงสู่หุบเหวลึก ทว่า... นางไม่มีโอกาสอันใดได้ตั้งตัว เจ้าของร่างสูงก็ยืนขึ้นเต็มความสูง ท่อนเอ็นใหญ่ยาวชี้มายังนางราวกับกำลังเรียกร้องความสุขสมจากนางบ้าง “คราเจ้าแล้ว” “อะ...อะไรนะเจ้าคะ” นางทวนถามด้วยความงุนงง เพ่งมองไปยังใบหน้าเรียบเฉยของชายหนุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างจ้องจับผิด “กลืนกินข้า เหมือนที่ข้ากลืนกินเจ้าเมื่อครู่อย่างไรเล่าแม่นางหลิงเสีย” ซูเยี่ยนได้ยินเขาเรียกนางว่า ‘หลิงเสีย’ ก็ค่อยคลายความสงสัยลงไปกว่าสองในสามส่วน ก่อนจะใช้ฟันบนขบกัดลงบนริมฝีปากล่างสีแดงชาดอย่างครุ่นคิด ‘ขะ...ข้าต้องกลืนกินเจ้าหนอนยักษ์นั่นสินะ’ นางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ปิดเปลือกตาลงอย่างพยายามทบทวนบทเรียนกามสูตรที่ได้ศึกษาในตำราปกขาวอย่างคร่าวๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ‘ข้าต้องทำได้ จำไว้นะซูเยี่ยนว่าตอนนี้เจ้าคือหลิงเสีย คณิกาที่มีหน้าที่บำบัดความใคร่ด้วยลีลาแพรวพราว’ แม้จะปลุกปลอบตนเองเช่นนั้นแต่นางกลับรู้สึกว่าริมฝีปากของนางแห้งผาก ลำคอตีบตัน หัวสมองตื้อตึงคล้ายมีหมอกขาวรายล้อม นางค่อยๆ สืบเท้าเข้าหาเขาที่บัดนี้ยืนเอนกายอยู่ข้างหน้าต่างเพื่อรอให้นางปรนนิบัติอย่างที่หญิงคณิกาจะต้องปรนเปรอแขกเหรื่อของตน เขาช่างรูปงามนัก... ยามเมื่อเขาโป๊เปลือยเผยให้เห็นมัดกล้ามและสัดส่วนของความเป็นชายราวกับรูปสลัก กอปรกับใบหน้าหวานล้ำดั่งอิสตรี ส่งผลให้เขาดูคล้ายเทพเซียนหาใช่มนุษย์เดินดินเฉกเช่นเดียวกับนาง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD