EP.3 ป้าน้อย MVP
หลายวันผ่านไป
หลายวันที่ผ่านมานี้วิวตระเวนตามหาทำเลดีๆเพื่อเปิดร้านเบเกอรี่ เนื่องจากเธอมีความฝันอยากที่จะมีร้านขายขนมเค้กกึ่งคาเฟ่เป็นของตัวเอง ตอนที่มารดาของเธอยังอยู่ท่านก็สนับสนุนเป็นอย่างดี เพียงแต่ตอนนั้นเธอต้องดูแลแม่เพราะป่วยจึงไม่สามารถออกมาเปิดร้านได้
ทว่าตอนนี้เธอมีทั้งเวลาและเงินที่พร้อมจะเปิดร้านเป็นของตัวเองแล้ว ตอนนี้จึงยืนอยู่ที่หน้าร้านเบเกอรี่เก่าหน้ามหาวิทยาลัยกลางเมืองแห่งหนึ่ง
“ที่นี่น่าสนแฮะ ไม่ได้ต้องสร้างใหม่เลย~” วิวตัดสินใจเดินไปที่ร้านค้าฝั่งตรงข้ามเพื่อถามว่าใครคือเจ้าของที่เบเกอรี่แห่งนี้ เพราะเบอร์ที่เคยแขวนเอาไว้ให้ติดต่อตอนนี้เลขหายไปแล้วสามตัว
“สวัสดีค่ะคุณป้า หนูขออนุญาตถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“อะไรล่ะหนู หรือว่ามาถามเรื่องร้านฝั่งนู้นล่ะ เห็นยืนอยู่นานแล้ว”
“ใช่ค่ะ พอดีเบอร์ที่เขาติดเอาไว้เลขมันหายไปแล้วสามตัวค่ะ~ เลยอยากถามป้าว่าพอจะรู้วิธีติดต่อเจ้าของไหมคะ”
“มีซิอีหนู ก็เจ้าของที่คนเดียวกันกับร้านป้านี่แหละ รีบไหมล่ะเดี๋ยวลูกน้องเขามาเก็บค่าเช่าที่ป้าพอดีรอคุยกันเลย”
“อีกนานมากไหมคะป้า”
“นี่กี่โมงละ” ป้าเจ้าของร้านหันกลับไปมองนาฬิกาในร้านก่อนจะหันมาพูดกับวิวอีกครั้ง “อีกครึ่งชั่วโมงก็น่าจะมา พวกนี้เก็บค่าเช่าตรงเวลา แต่ใจดี”
“อ๋อ~ งั้นรอก็ได้ค่ะ”
“เอาๆ งั้นนั่งรอในร้านป้านี่แหละ ข้างนอกมันร้อน”
“ขอบคุณนะคะ” วิวไหว้ขอบคุณอย่างจริงใจก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ที่ป้าเจ้าของร้านนำมาให้ และไม่ลืมที่จะสั่งน้ำแดงมากินเพื่อรอเวลา
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ปัง! ปัง! ปัง!
จู่ๆก็มีชายฉกรรจ์สามคนเดินมาทุบที่ประตูเหล็กพร้อมกับตะโกนเรียกป้าเจ้าของร้าน ทำเอาวิวที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ถึงกับตกใจ
“ป้า! ป้าโว๊ย!”
“โอ๊ย! นี่แกจะแหกปากทำไมฮะ! ฉันไม่ได้หูตึงนะไอ้นี่!” ป้าน้อยตอบกลับอย่างหงุดหงิด และไม่มีท่าทีเกรงกลัวชายฉกรรจ์ทั้งสามเลยสักนิด
“มีอะไรหรือเปล่าคะป้า” ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี วิวจึงลุกและเดินมาถามป้าน้อยทันที
“ไม่มีอะไรหรอกอีหนู ไอ้พวกนี้มันมาเก็บค่าที่ พวกที่ป้าบอกเองเมื่อกี้ไง”
“นี่นะเหรอใจดี นักเลงชัดๆ~” วิวบ่นพึมพำในใจเพราะคำที่ป้าน้อยบอกสวนทางกับบุคลิกของคนพวกนี้ลิบลับ
“เอานี่ค่าเช่า ส่วนอีนางหนูคนนี้สนใจที่ฝั่งนู้นพวกเองเข้ามาคุยกับนางหนูมันก่อน” ป้าน้อยพูดกับชายฉกรรจ์ทั้งสามอย่างสนิทสนม ทำให้หนึ่งคนในกลุ่มเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามหญิงสาว
“ให้เท่าไหร่?”
“อะไรคะ มาถึงก็ถามให้เท่าไหร่โดยที่ยังไม่ได้ดูร้านหรือคุยรายละเอียดอะไรเลยเนี่ยนะคะ!” วิวตอบกลับอย่างไม่ชอบใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอคนขายที่พูดจาห้วนๆแบบนี้
“เออใช่! เองคุยกับนางหนูมันดีๆหน่อย นายเองอยากขายที่ตรงนี้อยู่ไม่ใช่หรือไง” ป้าน้อยช่วยวิวพูด
“เออๆ! เดี๋ยวพาไปดู มึงสองคนไปเก็บค่าที่ร้านอื่นก่อนเดี๋ยวกูพาผู้หญิงคนนี้ไปดูที่เอง” ชายฉกรรจ์ที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าเอ่ยสั่งทั้งสองก่อนจะเดินออกมา
“ไป เดี๋ยวป้าไปเป็นเพื่อน เผื่อไอ้นั่นมันพูดจาไม่ดีกับเอง”
“ขอบคุณมากนะคะ”
วิวและป้าน้อยพากันเดินข้ามมาที่ฝั่งร้านเบเกอรี่ก่อนจะเข้าไปในร้านเพื่อดูว่าด้านในผุพังมากแค่ไหน
“สภาพก็ยังเต็มร้อยอยู่เลยนะคะ”
“ใช่ซิ ก็เจ้าของเก่ามันพึ่งเลิกขายไปเมื่อห้าหกเดือนก่อนเอง หนูถูกใจไหมล่ะ แต่ป้าเชียร์นะ รู้สึกถูกชะตาเดี๋ยวเดินมาช่วยขาย ฮ่าๆๆ”
“ร้านตัวเองขายไม่ดีหรือไงป้า ถึงต้องมาช่วยคนอื่นเนี่ย” ชายฉกรรจ์ชุดดำพูดขึ้น
“หุบปากไปเลยมึง!”
“ว่าแต่ถ้าซื้อขาด ขายเท่าไหร่คะ” วิวเอ่ยถามชายฉกรรจ์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ซื้อขาดหนึ่งล้านบาท”
“ลดหน่อยไม่ได้เหรอคะ ฉันต้องรีโนเวทเองอีก ไหนจะต้องทำห้องน้ำใหม่ด้วยนะคะ”
“ไม่ได้ๆ ได้ราคานี้” ชายฉกรรจ์ยังคงยืนยันที่จะขายราคานี้ “ถ้าไม่ไหวก็ให้อีกคนที่พร้อมจบราคาไป”
“หมายความว่าไงคะ?”
“ลูกค้าที่เคยมาดูไว้ให้ราคาล้านสอง ถ้าเธอไม่ไหวก็ลองไปหาที่อื่นดู”
“คุณเป็นเจ้าของเลยใช่ไหมคะ?”
“ฉันมันแค่ลูกน้อง ขายตามที่เจ้าของที่สั่งก็เท่านั้น” พูดพลางหยิบบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อออกมาเพื่อหวังจะจุดสูบ
“อย่ามาสูบบุหรี่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันตีหัวแตก!” ป้าน้อยทำท่าทางจะตีชายฉกรรจ์
“โห่ป้า ผมไม่อยากรังแกคนแก่นะ!”
“อย่าพึ่งตีกันค่ะ คุยเรื่องร้านฉันให้จบก่อน คือฉันถูกใจกับที่ตรงนี้จริงๆ ช่วยคุยกับเจ้าของที่ให้หน่อยได้ไหม หรือจะให้ฉันคุยเองก็ได้”
“ก็บอกว่าได้ราคานี้ไง”
“งั้นขอฉันคุยกับเจ้าของที่เองก่อนได้ไหม ถ้าไม่ได้จริงๆก็ค่อยขายให้อีกคน” กว่าเธอจะหาที่ที่ถูกใจและทำเลดีๆแบบนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด
ไม่ใช่ว่าราคาหนึ่งล้านเธอไม่ไหว เพียงแต่อยากต่อรองราคาดูสักตั้ง เพราะถ้าเจ้าของที่ตกลงนั่นก็เป็นเรื่องที่ดีของเธอ
“เออๆๆ รอแป๊บนึง!”
“ขอบคุณค่ะ” วิวถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งรออย่างใจเย็นโดยมีป้าน้อยนั่งอยู่ด้วย
“ป้าว่าเจ้าของที่ต้องให้แน่นอน”
“ป้ารู้จักกับเจ้าของที่เหรอคะ”
“ก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอก แต่เวลาเดือนไหนที่ป้าไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าที่ เขาก็ให้ผลัดได้ ไม่ได้ปากร้ายเหมือนลูกน้องที่เดินตามต้อยๆ”
“ถ้าได้จริงๆหนูจะเอาหัวหมูมาถวายเจ้าที่เจ้าทางกับผีบ้านผีเรือนเลยค่ะ!” ด้วยความที่เธอเป็นหญิงสาวสายมูจูยกมือไหว้อธิษฐานในใจ ป้าน้อยที่เห็นจึงยกมือไหว้ตามไปด้วย
ไม่กี่นาทีต่อมาชายฉกรรจ์คนเดิมก็เดินกลับเข้ามาในร้าน
“ว่าไงคะ”
“นายกำลังเข้ามาคุยเอง รอก่อน”
วิวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะนั่งมองไปรอบๆเพื่อดูว่าต้องปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้าง
“ว่าแต่อีหนูมีแฟนไหม สวยๆแบบนี้น่าจะมีนะ” ป้าน้อยถามขึ้น
“ไม่มีหรอกค่ะ หนูไม่ชอบผูกมัดกับใคร แถมผู้ชายสมัยนี้ก็มักมากแล้วก็เจ้าชู้ไม่เลือกที่” คำพูดของวิวทำเอาชายฉกรรจ์ถึงกับต้องหันมามอง
“ป้าก็ว่างั้น ป้าถึงไม่มีลูกไม่มีผัวไง”
“ไม่มีใครเอาป้ามากกว่ามั่ง” เสียงทุ้มของชายฉกรรจ์ตอบกลับ ทำเอาป้าน้อยถึงกับควันออกหู
“ไอ้ปากหมา! กูไม่อยากจะคุย ตอนกูสวยๆหัวกระไดไม่เคยแห้ง! หนุ่มๆตามต่อแถวจีบกูเยอะแยะโถ่! มึงเถอะ มีผู้หญิงเอาไหม!”
“ต้องมีดิป้า! หล่อๆแบบนี้ทำไมจะไม่มี!”
กริ่ง!
ขณะเดียวกันประตูร้านก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มที่มีใบหน้าเหมือนชายฉกรรจ์ที่กำลังถกเถียงกับป้าน้อยอยู่
____________________________
ป้าน้อย MVP ปังทุกช็อต55555
ขอคนละ 1 คอมเมนต์ 1 ใจค่ะ 💙
มาช้าหน่อยค้า กำลังปั่นอีบุ๊กครับ อยากให้ทันสินเดือนนี้💜