สถานะเมีย - 9

1330 Words
"ซี้ดดด" ฉันสูดปากเมื่อพยายามลองเดินดูแต่มันเสียวแปลบ ๆ ทุกครั้งที่ขยับตัว "แบบนี้ขับรถไม่ได้แน่ ๆ" ฉันบ่นพึมพำคนเดียวครั้นจะหยิบโทรศัพท์ออกมาขอความช่วยเหลือจากลูกหว้าก็ลืมไปว่าเครื่องมันซี้ม่องเท่งไปแล้ว สุดท้ายของที่หยิบใส่รถเข็นสองสามอย่างก็เป็นอันต้องทิ้งไป พยายามเดินด้วยความเจ็บแปลบไปซื้อรองเท้าธรรมดามาใส่แทนส้นสูงแล้วมาที่รถที่จอดอยู่โรงจอดรถชั้นใต้ดินด้วยความทุลักทุเล "แล้วจะขับไหวมั้ยเนี่ย" แค่ขยับเท้าขวามันก็แปล๊บ ๆ เขาไปถึงกระดูกแล้วไง "ลองเสี่ยงดูละกัน" ปี๊บ ปี๊บ ตัดสินใจปลดล็อกประตูเตรียมจะเข้าไปประจำที่คนขับ แต่เสียงเสียงหนึ่งกลับดังขัดไว้ "อยากตายนักหรือไง แท็กซี่มี หัดใช้บริการบ้างก็ได้" หมับ.. พรึ่บ!! กุญแจรถในมือถูกแย่งไป พร้อมร่างสูงผมสีเงินที่หน้าด้านเข้าไปนั่งประจำที่คนขับแทนฉัน "เอ้า! ยืนอวดหุ่นนางแบบอยู่ได้ ขึ้นรถสิ ฉันมีงานต้องทำต่อนะ" อยากต่อว่าหมอนี่คืนเหมือนกัน 'ถ้าลำบากนักจะเข้ามาเผือกเรื่องฉันอีกทำไม' ปัง!! แต่ไม่เอาดีกว่า ขี้เกียจมานั่งทะเลาะกับไอ้บ้ากิเลนจนถึงคอนโดฯ ตัวเอง พรึ่บ!! ถุงพลาสติกสีสันสวยงามพร้อมตราโลโก้ที่คุ้นตาถูกวางลงตรงหน้าทันทีที่ถึงคอนโดฯ "อะไร?" มือก็นวดข้อเท้า หน้าก็เอียงมองเจ้าของถุงที่ว่า "เปิดดูสิ แล้วมือน่ะเลิกนวดได้แล้ว" กิเลนทำหน้าดุใส่ฉัน สายตาเขามองมาที่ข้อเท้าข้างที่มันเริ่มบวมและช้ำ "มียาไหม?" "ยาอะไร" "เฮ้อ!" เอ้า! อะไรของหมอนี่ ฉันถามอะไรผิด ทำไมถึงถอนหายใจออกมาเหมือนไม่พอใจซะงั้น "เดี๋ยว! นั่นนายจะไปไหนน่ะ" ถอนหายใจใส่ไม่พอ ยังมีหน้าเดินพล่านทั่วห้องฉันอีก ไร้มารยาทที่สุด เพื่อนใครเนี่ย! "กิเลนนายจะเข้าห้องไหนก็เข้า แต่อย่าเข้าห้องนะ... นอน" ตุ้บ!! "โอ๊ย!" "ทำบ้าอะไรของเธอแยมโรล!?" หมับ... ก็กลัวหมอนี่เดินเข้าห้องนอนฉันน่ะสิเลยเขย่งเท้าเดินตาม แต่เพราะมันไม่ถนัด การทรงตัวเลยเสียสมดุล ร่างบอบบางอันไร้ไขมันส่วนเกินเลยเกือบล้ม โชคดีที่คว้าตู้โชว์ที่อยู่กลางห้องนั่งเล่นไว้ทันเลยไม่ล้มหน้าทิ่ม อีกอย่าง กิเลนที่ยืนอยู่ห่างสองช่วงตัววิ่งมารับร่างฉันได้ทันพอดีเลยไม่ต้องเจ็บตัวซ้ำสอง "ขาก็เจ็บยังจะดื้ออีกนะ" ฉันบุ้ยปากไม่พอใจที่ถูกคนข้าง ๆ บ่น "ก็ใครใช้ให้นายเดินทั่วห้องฉันล่ะ" ตัวเองผิดแท้ ๆ ยังมาว่าฉันดื้ออีก "ก็จะไปหายา" "ฉันก็ถามอยู่นี่ไงนายจะหายาอะไร" ฉันเลิกคิ้วจ้องหน้าเขา "ขาบวมขนาดนั้น หายาแก้ไข้หวัดมั้ง" อ้าว... ถามดี ๆ ทำไมต้องตอบกวนเบื้องล่างด้วย "ถ้านายจะหายาทาแก้บวม นู้น.. อยู่ชั้นด้านบนในครัว" บอกแต่แรกก็สิ้นเรื่อง ฉันบ่นอุบอิบต่อในใจ ถ้าขืนบ่นออกมาให้หมอนี่ได้ยินมีหวังไม่ต้องทามันแล้วยา "แล้วนี่มีไข่หรือเปล่า" กิเลนหันมาถามหลังจากที่เขาเดินไปได้หนึ่งก้าว "ไม่มี" นึกถึงสาเหตุที่ไข่หมดตู้เย็นขึ้นมาแล้วก็โมโห "เป็นผู้หญิงประสาอะไรไม่รู้จักหาของมาไว้ในตู้เย็น สั่งกินจากข้างนอกบางทีก็ไม่สดสะอาดเหมือนทำกินเองรู้หรือเปล่า" "..." ถึงกับกลอกตามองบน นี่สรุปฉันมีพ่อคนที่สามโผล่มาเพิ่มอีกใช่ไหม ว่ายูโรหนักแล้ว มาเจอกิเลนเข้าฉันว่าหนักยิ่งกว่า "ถ้านายจะอยู่แล้วบ่นฉันว่านายกลับไปเถอะ" รำคาญจริง ๆ นะเวลามีคนมาคอยจุ้นจ้านกับตัวเองน่ะ "ไม่ต้องไล่" ฉันเบะปากเล็กน้อยก่อนจะพึมพำเบา ๆ "ไล่ยากไล่เย็นเหมือนสองคนเมื่อคืนไม่มีผิด" "สองคนเมื่อคืน?" "เฮ้ย!" ตกใจแทบตาถลน... จู่ ๆ กิเลนที่ยังเห็นอยู่ในครัวก็วาร์ปมาอยู่ด้านหลังฉันอย่างไม่รู้ตัว "จะตกใจอะไร ฉันออกจะหล่อ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นป่านนี้กระโดดเกาะคอจูบฉันไปนานแล้ว" อี๋... แหวะ! ช่างกล้าพูด แสลงหูที่สุด!! "นั่นมันผู้หญิงของนาย ไม่ใช่ฉัน" "อ๋อเหรอ?" แล้วดูหมอนี่ทำเสียงเข้าสิ เหมือนคำพูดฉันเมื่อกี้มันไม่มีมูลความจริงอะไรสักอย่าง "แต่ฉันว่า ใครบางคนแถวนี้ก็เคยขโมยจูบฉันไปอยู่น้า~" "กิล!!" "โมโห?" หึย!! ได้แต่กัดฟันข่มอารมณ์เดือดไว้ในใจ คนอุตส่าห์อยากจะลืม ๆ เรื่องคืนนั้นไปให้พ้น ๆ จากความทรงจำ แต่ไอ้บ้ากิเลนกลับมาตอกย้ำซึ่ง ๆ หน้าอีก ไม่ให้โมโหจะไหวเรอะ!? "โอ๋ ๆ ก็ได้ ๆ ฉันจะไม่กวนประสาทเธอแล้ว รอนี่นะ เดี๋ยวเอายามาทาให้" นี่เรียกตบหัวแล้วลูบหลังได้ป้ะ? ทำฉันโกรธแล้วมาทำดีทีหลังแบบนี้ "แล้วสรุป สองคนที่ว่าคือใครเกี่ยวอะไรกับเธอหรือเปล่า" นึกว่าจะลืมไปแล้วซะอีก "ก็จะมีใครล่ะ เฮียราชย์กับลัคกี้ไง" "พวกนั้นมาที่นี่" "อืม เฮียราชย์เมา ลัคกี้เลยตามมา" "ทำตัวเหมือนผัวเป็นห่วงเมีย" เห็นมั้ย ขนาดกิเลนยังคิดเหมือนฉันเลย "แล้วพวกนั้นค้างที่นี่" "ให้ค้างก็บ้า" จริง ๆ เมื่อคืนก็ไม่อยากให้เฮียราชันย์ขับรถกลับดึก ๆ ดื่น ๆ หรอก แต่มีลัคกี้พ่วงมาด้วยไง ให้ผู้ชายตั้งสองคนนอนค้างที่ห้องคงงามหน้าดูถ้าใครรู้เข้า "อืม ดีแล้ว" ฉันเอียงคอมองหน้าเจ้าของน้ำเสียงคล้ายโล่งอกอะไรสักอย่างด้วยความมึนงง "มา เดี๋ยวช่วยดูเท้าให้" หมับ... ไม่ประวิงเวลารอให้ฉันอนุญาต กิเลนก็เลือกทำตามใจตัวเองทันที "ซี้ดดด เบา ๆ หน่อยสิ" ฉันขยับขาหนีมือหนาของกิเลนที่ใช้ไข่ต้มร้อน ๆ ห่อผ้าขาวบางมาประคบข้อเท้าให้ และเพราะกิเลนนั่งบนพื้นแล้วยกเท้าฉันขึ้นวางเหยียบบนหน้าขา ทำให้ฉันที่ใส่กระโปรงสั้นเหนือเข่ารู้สึกเย็นวูบวาบแม้จะมีหมอนใบใหญ่วางทับบนหน้าตักก็เถอะ "ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะแอบมอง เธอถ่ายแบบมาเยอะกว่านี้จนฉันเห็นชินแล้วล่ะ" เอิ่ม.... ควรจะต่อประโยคนี้ของกิเลนยังไงดี คือ... เขาน่าจะรู้ไหมว่าสิ่งที่เขาเห็นจากการถ่ายแบบของฉันมันเป็นแค่รูปรูปหนึ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่มีความอายเวลามีคนจ้องมอง แต่สถานการณ์ตอนนี้มันคนละฟิวกันเลยป้ะ? ถ้าเขาแอบมองจริงนี่คือเห็นของจริงเลยนะ ตุบ... มือที่ถือไข่สำหรับประคบข้อเท้าอยู่ผละออกจากข้อเท้าฉันช้า ๆ เขาวางมันลงบนกะละมังใบเล็ก ๆ ที่วางอยู่ข้างตัว ก่อนใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มจะเงยขึ้นมาสบตา "ฉันไม่ชอบทำแค่แอบมอง" เฮือก... ทำไมรู้สึกถึงความหมายบางอย่างในสายตาคู่คมที่จ้องเข้ามานัยน์ตาฉันกันนะ แบบว่ามันให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก ปนความวาบหวิวจนอธิบายไม่ถูก "เพราะแค่มองมันไม่ช่วยให้ฉันพึงพอใจ" "อื้อ" ฉันนิ่วหน้าเมื่อกิเลนค่อย ๆ นวดข้อเท้าฉันด้วยยาแก้ฟกช้ำแบบไม่ให้ตั้งตัว แล้วรู้อะไรไหม? พอจบประโยคสนทนานั้นของหมอนี่ ฉันถึงกับไม่กล้ามองหน้าเขาตรง ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD