ตอนที่ 10

1420 Words
เขาจำรสชาติริมฝีปากของแม่โสเภณีพรหมจรรย์คนนั้นได้ไม่ลืม และหากได้จูบปาก เขาก็จะรู้ทันทีเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ใช่แม่สาวเนื้อหวานคนเมื่อคืนหรือเปล่า สายตาคมกริบของฟาเบียนไม่คลาดไปจากกลีบปากบวมเจ่อตรงหน้าแม้แต่วินาทีเดียว ใบหน้าของเขาก้มต่ำลงไปเรื่อยๆ จนแทบจะได้สัมผัสกับกลีบเนื้อนุ่มสีแดงระเรื่ออยู่แล้ว หากดวงตากลมโตของหล่อนไม่ลืมขึ้นมาเสียก่อน เขามองเห็นความตื่นตกใจในดวงตาของหล่อน “อย่า... อย่านะ... อื้อ...” อาการขัดขืนของคนตัวเล็กที่เพิ่งได้สติอ่อนแรงลงจนไม่เหลือเลย เมื่อเขาครอบครองกลีบปากอิ่มอย่างดูดดื่ม ร่างกายของเขาร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง ร่างทรงพลังตอบสนองความหอมหวานจากอุ้งปากสาวอย่างน่าตื่นตกใจ ความรู้สึกสุดแสนพิเศษเกิดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า และยิ่งเพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลิ้นใหญ่สัมผัสกับอุ้งปากอบอุ่นภายใน หล่อนนั่นเอง... ผู้หญิงที่เขากลืนกินมาตลอดทั้งค่ำคืนอย่างหื่นกระหาย ในที่สุดเขาก็พบหล่อนก่อนเรอัน ฟาเบียนยังคงดูดกลืนกลีบปากสาวอย่างดูดดื่ม เขาแนบตัวลงไปหามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขารู้สึกอยากจะปล้ำคาเตียงโรงพยาบาลแบบนี้มาก่อนเลย หล่อนชื่อเพียงออหรือ... แถมยังเป็นเพื่อนสนิทของเชอเอมอีกต่างหาก ทำไมโลกมันกลมแบบนี้นะ ฟาเบียนลุ่มหลงอยู่ในความหอมหวานของสาวน้อยจนโงหัวไม่ขึ้น สติสตังบินจากหายไป ความต้องการอยากจะเสพสมกับกายสาวเต้นเร่าอยู่ในความรู้สึกจนยากจะทานทนไหว “อืมมมม...” “อื้อ... พอ... พอค่ะ...” หล่อนมีสติกว่าเขา และเมื่อหล่อนใช้สองมือผลักไส มันก็เหมือนกับเรียกสติของเขาให้กลับคืนมา ฟาเบียนถอนปากออก ขณะดวงตาไม่ละไปจากดวงหน้าซีดเผือดของเพียงออเลย คนตัวเล็กตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อตื่นมาแล้วพบกับผู้ชายที่ฝากรอยมลทินเอาไว้กับตนเอง “แม่... แม่ฉันไปไหน” “นอนนิ่งๆ ก่อน เธอไม่สบาย” หล่อนสะบัดมือของเขาออกจากตัวอย่างรังเกียจ มองเขาผ่านม่านน้ำตา “ไปซะ ไปให้พ้น ถ้าคุณไม่อยากเดือดร้อน” เพียงออพอจะรู้ว่าตอนนี้ฟาเบียนรู้แล้วว่าหล่อนคือผู้หญิงโชคร้ายคนเมื่อคืน “ทำไมถึงเป็นเธอ” “คุณไม่ต้องมาสนใจหรอก อย่ามายุ่งกับฉัน” เพียงออกัดฟันลุกขึ้นนั่ง และจะลงจากเตียง แต่ฟาเบียนหยุด “อย่าดื้อ เธอต้องนอนพักผ่อน” “ไม่” “หรือว่าอยากให้ฉันทำแบบเมื่อคืนอีกล่ะ” เขาใช้สายตาหื่นกระหายกวาดมอง และมันก็ทำให้คนตัวเล็กร้อนวูบวาบไปทั้งตัว “ว่าแต่จะสู้แรงฉันไหวหรือเปล่า” “อย่ามายุ่งกับฉัน ไปให้พ้นเลย” น้ำเสียงของหล่อนแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน “เมื่อคืนเธอไม่ได้กินยาคุมตามที่ฉันสั่ง” “ฉัน... ไม่ท้องหรอกค่ะ” “มันไม่มีอะไรแน่นอน เพราะเราเอากันทั้งคืน” เพียงออหลบสายตาของเขา และพยายามตะกายที่จะรูดม่านให้เปิดออก แต่ก็ถูกฟาเบียนตีมือแรงๆ “เจ็บนะ” “อย่าดื้อ นอนลงไป เดี๋ยวฉันจะให้เจ้าหน้าที่มาพาเธอขึ้นไปพักบนห้องพักฟื้น” “ไม่... ฉันจะกลับบ้าน” “เธอกลับไม่ได้ ต้องนอนพักฟื้นที่นี่ก่อน อย่างน้อยๆ ก็ต้องสักสองสามวัน” “แต่ฉันจะกลับบ้าน แม่... แม่คะ... แม่...” “ถ้าอยากให้คนอื่นรู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน ก็แหกปากไปเลย ฉันไม่แคร์อยู่แล้ว” ท่าทางหยิ่งจองหองของผู้ชายตรงหน้า ทำให้เพียงออยิ่งเสียใจ หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าเขามาวุ่นวายกับหล่อนทำไมอีก ในเมื่อ... หล่อนก็ไม่เหลืออะไรให้เขาได้ทำลายอีกแล้ว “นอนลงซะ เดี๋ยวฉันจะไปตามแม่เธอกับเชอเอมให้” หล่อนไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าคนใจร้าย จึงล้มตัวลงนอน และหลับตาลง ฟาเบียนถอนใจออกมาแรงๆ ยกมือขึ้นลูบหน้า และก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เขาทำร้ายผู้หญิงจนบอบช้ำได้ขนาดนี้ ความละอายใจเกิดขึ้นในอก แต่ก็กัดฟันข่มเอาไว้ “ฉันไปนะ” เงียบไม่มีเสียงตอบ ซึ่งมันทำให้ฟาเบียนหงุดหงิดเหลือเกิน เขาก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องฉุกเฉิน และก็ตามให้เชอเอมกับวันเพ็ญเข้ามาดูเพียงออ “คุณน้าครับ หลังจากที่ผมตรวจอาการของลูกสาวคุณน้าซ้ำอีกครั้ง ผมคิดว่าเธอจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลสองสามวันครับ” “เอ่อ... แต่เราไม่มีเงินมากขนาดจะนอนค้างคืนที่นี่หรอกค่ะ” “เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะดูแลเรื่องนี้เอง” “พี่หมอฟาเบียนพูดเล่นหรือเปล่าคะเนี่ย” “ทำไมเธอถึงคิดว่าพี่พูดเล่นล่ะ” ฟาเบียนเลิกคิ้วถามเชอเอมด้วยความแคลงใจ “ก็พี่หมอฟาเบียนไม่เคยใจดีกับใครมาก่อนนี่คะ เอมไม่เคยเห็นเลย” “ก็เพราะเป็นเพื่อนของเธอไง พี่ก็เลยใจดีด้วย จบนะเชอเอม” เชอเอมไม่อยากจะจบ เพราะไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ไม่อยากจะทะเลาะกับฟาเบียน “ค่ะ ค่ะ จบก็จบค่ะ” ฟาเบียนไม่ได้ยิ้ม สีหน้าเคร่งเครียดจนเส้นเลือดปูดออกมาจากหน้าผาก “เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มาพาเพื่อนของเธอขึ้นไปห้องพัก พี่ขอตัวล่ะ ผมขอตัวครับคุณน้า” เชอเอมมองตามร่างสูงใหญ่ของฟาเบียนไปด้วยความแปลกใจไม่เลิกรา “นี่พี่หมอฟาเบียนจริงๆ เหรอเนี่ย” “มีอะไรเหรอหนูเอม” วันเพ็ญถามขณะเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน “ก็ปกติพี่หมอฟาเบียนใจดำจะตายไปค่ะ ไม่เคยสงสารใครเลย แต่นี่จะดูแลค่าใช้จ่ายให้กับเพียง มันน่าแปลกมากๆ เลยค่ะ” “คุณหมอคงสงสารเพียงมันนั่นแหละ” เชมเอมก็พยายามจะเชื่อแบบนั้น แต่มันเชื่อยากเชื่อเย็นเหลือเกิน “เพียง... เป็นยังไงบ้างลูก” วันเพ็ญเอ่ยถามเมื่อเข้ามาหยุดข้างเตียงของลูกสาว เพียงออน้ำตาริน แต่ก็พยายามฝืนยิ้ม “เพียง... ไม่เป็นไรแล้วจ้ะแม่” หล่อนตอบมารดา ก่อนจะมองเชมเอมด้วยความแปลกใจ “เอม... ทำไมไม่ยังไม่ไปสนามบินอีกล่ะ เอมมีบินวันนี้นะ” เชอเอมคว้ามือเล็กเย็นเฉียบของเพียงออกมากุมเอาไว้ บีบเบาๆ ให้กำลังใจ “ก็เพียงไม่สบาย เอมจะไปได้ยังไงกันล่ะ” “เพียงไม่เป็นไรแล้วเอม... ไปเถอะนะ เดี๋ยวไม่ทันเครื่องกันพอดี” เชอเอมส่ายหน้าไปมา “ถ้าไม่ทัน เอมบินตามไปที่หลังก็ได้ แต่เพียงนี่สิไม่สบาย เอมต้องมาดูแล” เพียงออน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจ “แต่เพียงไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ เอม แค่ยังมึนๆ หัวอยู่เท่านั้นเอง” “ไม่จริงหรอก ถ้าไม่เป็นอะไรแล้ว ทำไมพี่หมอ ฟาเบียนสั่งให้นอนค้างที่โรงพยาบาลล่ะ” สีหน้าของเพียงออซีดขาวเมื่อได้ยินชื่อของฟาเบียน แต่ก็พยายามซ่อนความผิดปกติเอาไว้ “เพียงไม่ค้างหรอกจ้ะ เพียงจะกลับบ้าน” “ไม่ได้นะเพียง หมอสั่งให้ค้างก็ต้องค้าง เผื่อเป็นอะไรหนักหนาขึ้นมาจะได้ช่วยเหลือทัน” เชอเอมพูดเพราะเป็นห่วงเพื่อน “แต่เพียงไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ นะเอม เพียง...” “ไม่เอาน่าเพียง เชื่อคุณหมอเถอะลูก” วันเพ็ญพูดขึ้นบ้าง และก็หวังว่าลูกสาวจะเชื่อฟัง “แต่แม่จ๊ะ เพียง...” “เชื่อคุณหมอเถอะลูก” เพียงอออยากจะหนีไปจากฟาเบียนให้ไกล แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ “จ้ะแม่” คำตอบตกลงของหล่อนทำให้ทั้งมารดาและทั้ง เชอเอมยิ้มออกมาอย่างโล่งอก แต่ใครจะรู้บ้างเล่าว่า หล่อนจะต้องทรมานแค่ไหนกับการอยู่ที่นี่ โดยที่รู้ว่าฟาเบียนอยู่ไม่ไกล หล่อนรักเขา... เคยรักมาก... เคยเห็นเขาเป็นเทพบุตร แต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นเมื่อคืน หล่อนจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วฟาเบียนคือเทพบุตรในคราบซาตานนั่นเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD