ตอนที่ 6

995 Words
ดาวเรืองรั้งบุตรสาวมาโอบกอดไว้ รอคอยมานานเหลือเกินให้ลูกกลับเมืองไทย บินมาหาทุกเดือนก็ไม่หายคิดถึง เคยอยู่ด้วยกันพอยัยมิมาเรียนเป็นห่วงหมดทุกอย่าง พ่อกับแม่แก่เฒ่ากันทุกวัน ลูกเองกลายเป็นสาวเติบโตสมดังความหวังพ่อแม่ มิลันดาไม่เคยทำให้หล่อนและสามีผิดหวังเลย “ดีแล้วลูก กลับบ้านเรากันพ่อจะได้ไม่ต้องห่วง”คนเป็นพ่อลูบศีรษะลูกด้วยความเอ็นดูเหมือนสมัยยังเด็ก “ห่วงอะไรกันคะพ่อ หนูไม่ได้ทำตัวเหลวไหลสักหน่อย” “จ้าๆ พ่อกับแม่รู้แล้วว่าลูกน่ะไม่ได้ทำตัวเหลวไหล” ชัยเดชรีบแก้ ดางเรืองดันบุตรสาวออกห่างกายแล้วยิ้มอ่อนโยน หล่อนมีเรื่องอยากบอกลูกมากมาย รวมถึงเรื่องชอบชายหนุ่มที่ลูกเคยหลงรักมาก่อน “มิ ตอนนี้คมเปิดบริษัทเป็นประธานหนุ่มไฟแรงเชียวล่ะลูก” มิลันดาแสร้งงทำเป็นไม่สนใจฟัง หล่อนรู้ดีมารดากำลังทำให้หล่อนหายโกรธเขา แต่หล่อนไม่อยากสนใจเรื่องของเขาอีกแล้ว ไม่ลืมแต่ไม่ได้หมายความว่าหล่อนจะต้องยินยอมให้โดนพูดจาไม่รักษาน้ำใจอีก “แม่ไม่ต้องเล่าเรื่องของเขาหรอกค่ะ มิไม่สนใจอยากจะฟัง” “มิ... เลิกโกรธพี่คมได้แล้วนะลูก” ดาวเรืองพยายามไกล่เกลี่ย “แม่คะ มางานรับปริญญามิทั้งที อย่าพูดเรื่องที่ทำให้ใจหนูห่อเหี่ยวเลยค่ะ มิไม่อยากได้ยินชื่อนี้อีก” ใบหน้าเรียวสวยเริ่มงอ “มิลดทิฐิลงบ้างนะลูก คมเองก็รู้สึกผิดที่ทำไม่ดีต่อลูกไว้แล้วนะ” ชัยเดชช่วยพูดอีกคน คนตัวเล็กเริ่มอึดอัด พ่อกับแม่เป็นอะไรไปทำไมเห็นดีเห็นงามไปกับเขาเสียหมด หล่อนถูกกระทำแท้ๆ ดูสิพากันช่วยพูดเข้าข้าง จะสนใจพี่คมเพื่ออะไรในเมื่อเป็นแค่ลูกชายเพื่อนเท่านั้น ป่านนี้เขาคงมีสาวในสังกัดนับไม่ถ้วนแล้วล่ะมั้ง “พ่อคะ แม่คะ ถ้าอยากให้มิกลับเมืองไทย อย่าพูดเรื่องพี่คมอีกเลยค่ะ” หญิงสาวตัดบท ดาวเรืองและชัยเดชจำต้องเงียบ ถึงแม้ว่าจะพยายามไกล่เกลี่ยเรื่องราวที่เนิ่นนานมาเกือบสิบปีแล้วก็ตาม แต่บุตรสาวของพวกเขากลับไม่เคยลืมเลือนได้เลย “ก็ได้จ้ะมิ พ่อกับแม่ไม่พูดแล้ว” มิลันดาเตรียมเก็บกระเป๋า หล่อนตั้งใจจะกลับพร้อมบิดามารดาเลย ส่วนเรื่องงานที่เมืองไทยหล่อนเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว หล่อนส่งข้อมูลตนเองให้กับโรงพยาบาลรัฐในเมืองไทย เมื่อกลับไปถึงต้องไปสัมภาษณ์และสอบเข้าแผนกที่ตนเองถนัดอีกที เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มิลันดารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องหล่อนกำลังจะกลับเมืองไทย ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนกันนะ ทั้งเมืองไทย และทั้งเขาอีกคน...   มิลันดาเดินเบียดเสียดคนมากมายที่สนามบิน สายตาหล่อนหยุดมองคนขับรถที่มารับกระเป๋าของหล่อนกับบิดามารดา ยิ่งแปลกใจหนักเมื่อเห็นรถมารอรับหล่อนดูหรูหราผิดหูผิดตาไปจากเมื่อก่อน “แม่คะ ทำไมเรามีรถแบบนี้ล่ะคะ”  หล่อนรู้สึกสงสัย พ่อไม่ได้ทำธุรกิจอะไรใหญ่โต ทำไมมีรถราคาแพงแบบนี้ได้ “พ่อเราได้เป็นถึงรัฐมนตรี ลูกจะให้พ่อนั่งรถกระป๋องหรือไงลูก” ดาวเรืองเย้า “หนูรู้แล้วล่ะค่ะ แต่ทำไมถึงมีเงินซื้อรถหรูๆ แบบนี้ล่ะคะ” “ก็พ่อของลูกซื้อหุ้นบริษัทของพ่อคมไงจ๊ะ ตอนนี้บริษัทเขากำลังรุ่งเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเนื้อหอมไปแล้ว” ชื่อนี้อีกแล้ว พ่อกับแม่พูดถึงเขาไม่ขาดปาก หล่อนเบื่อจะฟังจึงเงียบตลอดเส้นทาง มองผ่านกระจกหน้าต่างดูเหมือนเมืองไทยเปลี่ยนไปมากทีเดียว รถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้าน มิลันดาลงจากรถกวาดตามองรอบบ้านด้วยความแปลกใจ ทุกอย่างถูกตกแต่งทำใหม่จนไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลยก็ว่าได้ แม้กระทั่งบ้านตรงข้ามที่เคยเป็นของเขาบัดนี้ก็ดูหรูหราโอ่อ่าราวกับคฤหาสน์ในอังกฤษที่หล่อนเคยเห็นพวกเศรษฐีอยู่กัน ดาวเรืองสั่งสาวใช้ให้พามิลันดาไปที่ห้อง หล่อนชะงักถึงขนาดต้องมีสาวใช้กันเลยทีเดียว ถึงห้องนอน หล่อนจัดการเสื้อผ้าในกระเป๋าเรียบร้อยแล้วเดินไปรูดม่านตรงหน้าต่าง ยืนมองวิวภายนอกสายลมอ่อนๆ พัดมากระทบผิวหน้า สายตาหล่อนหยุดตรงหน้าต่างห้องของบ้านฝั่งตรงข้าม พลางคิดห้องนี้เป็นของใครกันนะ ร่างสูงก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากชำระร่างกายในลักษณะผ้าขนหนูพันท่อนล่างแค่ผืนเดียว ก่อนเอื้อมหยิบผ้าอีกผืนเพื่อเช็ดศีรษะที่กำลังเปียกปอน แล้วเดินไปตรงหน้าต่างเปิดมันออกเพื่อรับลม เขารู้ดีว่าห้องบ้านตรงข้ามไม่มีใครอยู่ เพราะตนเองเปิดดูอยู่ทุกวัน เผื่อบางทีอาจจะเห็นเด็กสาวคนที่ตนเฝ้าคิดถึงก็ได้ สาวบ้านตรงข้ามชะงักมองภาพเบื้องหน้าด้วยความตกใจ ดวงตาเรียวสวยไหววูบ เห็นชายรูปร่างกำยำยืนพิงขอบหน้าต่างเช็ดผมอย่างขมักเขม้นภายใต้ผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบเพียงผืดเดียว เขา... ไม่ได้สนใจว่ามีใครอยู่อีกฝากหนึ่งเลยสักนิด มิลันดาเม้มริมฝีปากร่างกายสั่นเทา หล่อนไม่อยากให้เขาเห็น ต้องหนีให้เร็วที่สุด แต่ทว่าหนุ่มข้างบ้านกลับหยุดเช็ดผมแล้วหันมาพอดี ดวงตาสบกัน คมฉณัฐขมวดคิ้วมองสาวข้างบ้านด้วยความงุนงง “ใครกัน หน้าตาสะสวย แต่ทำไมถึงดูคุ้นตานัก” เขาคิดในใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD