หลายวันต่อมา
"แม่ค้าบบ แม่~" เสียงเล็ก ๆ ที่เอ่ยเรียกคนเป็นแม่เสียงดังมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาเกาะขาคนเป็นแม่แน่น
"พี่ฝุ่นแม่บอกหลายครั้งแล้วว่าห้ามวิ่ง" ทอฝันที่เห็นลูกวิ่งเข้ามาหาก็เอ็ดลูกเสียงดุ เธอกลัวว่าลูกอาจจะหกล้มเอาได้ง่าย ๆ เธอถึงไม่อยากจะให้ลูกวิ่งไปมา แม้จะอยู่ในบ้านก็เถอะ
"ขอโทษค้าบบบ~" ไต้ฝุ่นรีบยกมือไหว้ขอโทษพร้อมกับก้มหัวโค้งตัวลงต่ำอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
"แล้วเมื่อกี้เรียกแม่ทำไมครับ" ทอฝันที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่หันมาถามด้วยความสงสัยว่าเมื่อกี้ลูกชายเธอจะพูดอะไร
"พี่ฝุ่น… พี่ฝุ่นอยากกินติมคับ" ไต้ฝุ่นพูดออกไปด้วยความเก้กังกลัวว่าจะถูกคนเป็นแม่ว่าเอา พูดจบก็ส่งสายตาออดอ้อนให้เป็นการปิดท้าย
"พี่ฝุ่นเป็นเด็กดีหรือเปล่าครับ ตอนคุณยายไปรับไปส่งที่โรงเรียนดื้อกับคุณยายไหม" ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอไม่ได้ไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนเลย เพราะตัวเองไม่สบาย แถมยังต้องรีบตามงานกับเพื่อน ๆ เพราะขาดเรียนไปหลายวันทำให้หน้าที่คอยรับส่งลูกไปโรงเรียนจึงเป็นแม่ของเธอรับหน้าที่แทน
"ม่ายคับ ม่ายดื้อ! คูมยายบอกแม่ดื้อคนเดียว" ไต้ฝุ่นตอบออกไปอย่างไร้เดียงสา ก่อนจะชี้นิ้วไปยังทอฝันแล้วบอกว่าคนที่ดื้อคือเธอต่างหาก
"ความจำดีจังนะเรา งั้นขอแม่ทำการบ้านเสร็จก่อนได้ไหมครับ เดี๋ยวเราไปกินไอติมกัน" ทอฝันยกมือขึ้นยีผมลูกชายอย่างหมั่นเขี้ยว
"ค้าบบบ~" ใบหน้าน้อย ๆ พยักหน้ารับทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินอ้อมมานั่งฝั่งตรงข้ามกับคนเป็นแม่ แล้วนั่งรออยู่เงียบ ๆ ไม่ดื้อไม่ซน
ทอฝันเหลือบมองหน้าลูกชายที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วเผลอยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูลูกชายตัวเอง ที่พอรู้ว่าเธอกำลังทำการบ้าน เขาก็จะอยู่เงียบ ๆ โดยที่ไม่มาก่อกวนเธอเลย หรือถ้าอยากจะเล่นตามประสาเด็ก ไต้ฝุ่นก็มักจะออกไปเล่นที่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านแทนเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงดังรบกวน
@ห้างสรรพสินค้า
หลังจากที่ใช้เวลาทำการบ้านอยู่สักพักใหญ่ ทอฝันก็พาไต้ฝุ่นออกมากินไอติมตามที่ตกลงกันไว้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พามาบ่อยเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ที่มีพ่อแม่คอยตามใจพามาตลอด แต่เธอก็พยายามที่จะพาลูกมาเดินเล่นกินไอติมที่ห้างทุกเดือน ดูแล้วมันอาจจะไม่พอสำหรับเด็กวัยแค่นี้ แต่เพราะเธอต้องเรียนและทำงาน มันทำให้เธอมีเวลาอยู่กับลูกน้อยลงแต่เธอก็พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรไป พยายามให้เขามีทุกอย่างเหมือนเด็กคนอื่น ๆ แม้จะไม่มากแต่เธอก็หาให้ลูกได้มากพอเท่าที่จะทำได้
"แม่! พี่ฝุ่นอยากด้ายนั่น" ไต้ฝุ่นที่เดินจูงมือมากับทอฝันหยุดชะงักดึงมือคนเป็นแม่ไว้ให้หยุดเดิน เมื่อเดินผ่านร้านของเล่นแล้วเห็นหุ่นยนต์ตัวเล็กตั้งเรียงรายกันอยู่ ชี้บอกกับคนเป็นแม่ถึงความต้องการของตัวเอง
"ไปดูกันไหม" ทอฝันมองตามแล้วหันกลับมาถามลูกทันที เพราะสายตาเป็นประกายของลูกชายทำให้เธอไม่กล้าที่จะปฏิเสธลูก เพราะนาน ๆ ทีไต้ฝุ่นถึงจะเอ่ยปากว่าอยากได้ของเล่นพวกนี้
"ปาย ๆ คับ" ซึ่งแน่นอนว่าไต้ฝุ่นเองก็พยักหน้าอย่างดีใจทันทีที่ได้ยินคนเป็นแม่ถามมาแบบนั้น
ทอฝันยืนมองลูกชายที่กำลังจ้องมองหุ่นยนต์อยู่ด้วยความตื่นเต้น แม้จะรู้ว่าของเล่นที่ไต้ฝุ่นอยากได้ราคามันจะไม่ใช่น้อย ๆ เลยก็ตาม
"พี่ฝุ่นอยากได้เหรอครับ" เสียงใสเอ่ยถามลูกด้วยรอยยิ้มบาง ก่อนจะนั่งย่อตัวลงข้าง ๆ เพื่อให้ตัวเธอกับไต้ฝุ่นอยู่ในระดับเดียวกัน
"แพงมั้ยคับ" ไต้ฝุ่นเอียงคอหันกลับมาถามคนเป็นแม่ ด้วยประโยคที่ทำเอาทอฝันถึงกับสะอึก ที่เด็กตัวแค่นี้รู้จักถามอะไรแบบนี้
"พี่ฝุ่นอยากได้ตัวไหนครับ" ทอฝันส่ายหน้าไปมายิ้ม ๆ ก่อนจะถามความเห็นของลูกต่อ
"ตัวนี้ด้ายมั้ยคับ" ไต้ฝุ่นชี้นิ้วไปยังหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่ตั้งเรียงกันอยู่เป็นเซ็ต
"เอาตัวนี้ด้วยไหม จะได้เป็นเพื่อนกันไงครับ" ทอฝันชี้ไปยังหุ่นยนต์ตัวข้าง ๆ กัน แล้วหันไปถามลูกด้วยรอยยิ้ม
"ด้ายหย๋อคับ"
"ได้สิครับ งั้นเอาสองตัวนี้เนอะ" พูดจบทอฝันก็บอกพนักงานให้นำไปจ่ายเงินทันที ก่อนจะจูงมือไต้ฝุ่นไปที่เคาน์เตอร์คิดเงิน
"ได้แล้วค่ะ" พนักงานพูดขึ้น พร้อมกับยื่นถุงที่มีหุ่นยนต์ให้กับไต้ฝุ่นเป็นคนถือเอง
"ขอบคุณค้าบบบ~" ทันทีที่ได้ของเล่น แววตาของไต้ฝุ่นก็เป็นประกายและดูจะดีใจมาก จนพนักงานที่มองอยู่ต่างก็พากันยิ้มให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของไต้ฝุ่นไม่หยุด
"ทีนี้เราก็ไปกินไอติมได้หรือยังครับ"
"เย้ ๆ แม่จายดีที่สูดดด~"
"ไหนขอรางวัลให้แม่ชื่นใจหน่อยได้ไหมครับคนเก่ง" ทอฝันนั่งย่อตัวลงข้าง ๆ ไต้ฝุ่นอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะเอียงแก้มไปหาลูก ส่วนไต้ฝุ่นเองก็ไม่รอช้าที่จะหอมแก้มคนเป็นแม่ไปฟอดใหญ่ซ้ายขวา
ฟอดด ฟอดดด~
"ชื่นใจจริง ๆ " ทอฝันเอ่ยพร้อมกับยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข
ก่อนที่สองคนแม่ลูกจะจูงมือกันเดินออกมาจากร้านของเล่นอย่างอารมณ์ดี โดยที่ไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอกำลังมีคนจ้องมองอยู่ไม่ห่าง จากอีกมุมหนึ่งของห้าง ที่อยู่ใกล้ ๆ กับร้านขายของเล่นเด็ก
"นายจะตามไปไหมครับ" อีธานเอ่ยถามขึ้นมาทันที ที่เห็นว่าทอฝันกับลูกเดินออกไปไกลแล้ว แต่คริสเตียนกับยังคงยืนมองอยู่นิ่ง ๆ
"ทำไมต้องตาม" น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยถามกลับขึ้นมา เขาก็แค่อยากรู้เรื่องราวเบื้องลึกที่เกี่ยวกับเธอนิดหน่อย ต่อให้ตามเธอไปมันก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี ที่เขาตามมาวันนี้ก็เพื่อมาดูให้เห็นชัด ๆ ว่าเด็กคนนั้นหน้าตาเหมือนเขาจริง ๆ อย่างที่เจอก่อนหน้านี้ไหม และรูปถ่ายที่ได้มาใช่การตัดต่อมาอีกทีหรือเปล่า เขาก็แค่มาดูให้เห็นกับตาตัวเองชัด อ ๆ
"แต่เด็กคนนั้นหน้าเหมือนนายมาก..."
"กลับ!"
ยังไม่ทันที่ลูกน้องคนสนิทอย่างอีธานจะพูดจบประโยค เสียงนิ่ง ๆ ที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจของคริสเตียนก็เอ่ยขึ้นมาด้วยคำสั้น ๆ แต่เด็ดขาดทันที
"ครับนาย" อีธานรีบก้มหัวรับคำอย่างไม่ได้พูดอะไรต่อ แม้จะอยากพูดก็คงพูดไม่ได้ แต่เมื่อกี้ที่ได้เห็นเด็กคนนั้นชัด ๆ อีกครั้ง เขาก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาเหมือนกันว่าใบหน้าเด็กคนนั้นจะคล้ายคลึงกับเจ้านายหนุ่มของเขาขนาดนี้ มันเหมือนกันมากจนเขาเองยังคิดว่าเป็นพ่อกับลูกกัน
คริสเตียนเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดกลับมาที่รถทันที ยิ่งเขาจ้องมองหน้าตาของเด็กที่ชื่อไต้ฝุ่นอะไรนั่น เขาก็เหมือนยิ่งเห็นตัวเองตอนเป็นเด็กไม่มีผิด ตอนแรกที่เห็นรูปเขาก็แอบตกใจไม่น้อย แต่พอมาเจอกับตาตัวเองชัด ๆ อีกครั้ง เขาถึงกับอึ้งไปเลยเหมือนกัน และมีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเขาไม่หยุด มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เด็กคนนั้นจะหน้าตาเหมือนเขาได้ขนาดนี้ แถมดวงตาที่ทอประกายสีเดียวกับดวงตาของเขานั่นอีก ตั้งแต่ที่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับทอฝันและลูกมาเพิ่มเติมในหัวของเขาก็เอาแต่ตั้งคำถามไม่หยุดหย่อน และคนที่จะสามารถตอบคำถามพวกนั้นได้ก็คงมีแต่เธอ แต่มันก็ติดอยู่ที่ว่า เขาจะต้องทำยังไงให้เธอยอมพูด เพราะเขาพยายามคิดแล้วแต่ก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่าตัวเองเคยพลาดทำผู้หญิงท้องด้วยเหรอ ทั้ง ๆ ที่เขาก็ป้องกันอย่างดีทุกครั้ง หรือมันจะเป็นแค่ความบังเอิญ ที่เด็กคนนั้นจะหน้าตาเหมือนพ่อ แล้วพ่อเด็กก็หน้าตาใกล้เคียงกับเขา?
"นายจะเอายังไงต่อครับ" อีธานเองก็สงสัยไม่แพ้กัน และหวังว่าเด็กคนนั้นคงจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอกนะ เพราะถ้าใช่เรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่ เขารู้จักนิสัยของคริสเตียนดีกว่าใคร
"มึงแน่ใจนะว่าเมื่อหลายปีก่อนไม่เคยพาเธอมาให้กู" คริสเตียนหันไปถามลูกน้องคนสนิทเสียงเครียด
"แน่ใจครับนาย ผมเพิ่งจะเคยเจอเธอที่ร้านกาแฟวันนั้นเป็นครั้งแรกครับ" อีธานที่คอยเป็นคนจัดหาผู้หญิงมาให้เขาตลอดจำได้ดีว่าผู้หญิงที่เขาพามาสนองกามอารมณ์ให้ผู้เป็นนาย ไม่เคยมีทอฝันมาก่อนอย่างแน่นอน
"ผมว่ามีโอกาสเกินกว่าครึ่ง ที่...เขาจะเป็นลูกของนายนะครับ" อีธานเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พลางเหลือบไปมองคริสเตียนว่าจะมีสีหน้ายังไง
"ไม่มีทาง! กูมั่นใจว่าไม่เคยทำใครท้องแน่นอน" คริสเตียนปฏิเสธขึ้นมาทันที อยู่ดี ๆ เขาก็มีลูกไม่รู้ตัวแบบนี้นะเหรอ? หึ! แค่คิดก็ตลกสิ้นดี
"สมมติว่าใช่ล่ะครับ นายจะทำยังไงต่อ"
"..."
เป็นคำถามที่ทำเอาคริสเตียนถึงกับนิ่งเงียบขึ้นมาอีกครั้ง นั่นสิ... ถ้าเกิดสมมติว่าใช่ลูกเขาขึ้นมาจริง ๆ เขาจะทำยังไงต่อ
"คืนนี้เธอไปทำงานที่ผับไหม" คริสเตียนเลือกที่จะไม่ตอบ แล้วถามกลับเมื่อนึกอะไรได้บางอย่าง
"ผู้จัดการร้านบอกว่าเธอไม่ไปทำงานได้อาทิตย์หนึ่งแล้วครับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อยู่ดี ๆ ก็หายไปเลย"
"แล้วร้านกาแฟที่มึงเจอล่ะ" คริสเตียนยังคงถามต่อ เพราะเขาต้องการหาคำตอบเรื่องของเด็กคนนั้นจากเธอ ไม่งั้นเขาอาจจะได้เป็นบ้าแน่ เพราะยิ่งมองเขายิ่งเห็นตัวเองในตัวเด็กคนนั้น
"ยังทำอยู่ครับ" อีธานตอบกลับไปเมื่อจัดการสืบเรื่องของเธอมาลึกพอสมควร ว่าเธอทำงานที่ไหนยังไงบ้าง
คริสเตียนพยักรับในคำตอบของลูกน้องคนสนิท ก่อนจะหลับตาลงพิงศีรษะไปกับเบาะรถ ในหัวก็ยังคงคิดเรื่องของเด็กคนนั้นไม่ตก ไหนจะความรู้สึกที่ได้สัมผัสกับร่างกายของเธอวันนั้นอีก ความรู้สึกของเขามันบอกอย่างคลับคล้ายคลับคลา ว่าเคยสัมผัสกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างกายของเธอมาก่อน แต่เขาก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี ตั้งแต่วันที่มีอะไรกับเธอเขาก็พยายามหาคำตอบให้ตัวเองมาตลอด แต่ก็ยังคงหาไม่เจอสักที จนบางครั้งมันก็ทำให้เขาหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย ที่คนอย่างเขาต้องมานั่งหัวเสียกับแค่กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างกายของเธอ ที่รู้สึกว่ามันจะติดฝังลึกอยู่ในโสตประสาทของเขา ไหนจะเรื่องลูกของเธอที่หน้าตาคล้ายคลึงกับเขาราวกับเป็นพ่อลูกกันนั่นอีก
"โธ่โว้ย!"
คริสเตียนสถบออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อหลับตาลงภาพของทอฝันในคืนนั้นก็ฉายชัดในหัว ทำเอาอีธานกับลูกน้องที่ทำหน้าที่ขับรถถึงกับสะดุ้ง ที่อยู่ ๆ เจ้านายหนุ่มก็สถบออกมาอย่างหัวเสียแบบนั้น
"ให้จัดให้สักคนไหมครับ" อีธานเอ่ยถามอย่างรู้งาน เมื่อเห็นอารมณ์ของเจ้านายหนุ่ม
"ไม่ต้อง!" คริสเตียนปฏิเสธเสียงเข้มทันที
อีธานเหลือบมองผ่านกระจกมองหลังเงียบ ๆ อย่างไม่ได้พูดอะไรต่อ ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กับความสับสน ที่ยังคงหาคำตอบไม่เจออยู่แบบนั้นต่อไป