เจียวเหม่ยยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ
“ข้าต่างหากที่ควรจะตกใจกับเรื่องน่าอายของเจ้า”
เยี่ยนเหนียงแกล้งถลึงตาใส่สาวใช้ให้รู้ว่านางมีความผิด
“ข้า… คือ… ข้าจะไม่ทำอีก ขอฮูหยินได้โปรดอภัยข้า”
เจียวเหม่ยก้มลงแทบพื้น
“ถ้าจางเยี่ยนเฟยสามีข้ารู้ว่าเจ้ากล้าพาผู้ชายมาสมสู่กันถึงในบ้าน… เจ้าจะโดนไล่ออกแน่”
“ฮืออ… ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอีก”
เสียงของเจียวเหม่ยสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้
“ข้าจะไม่เอาความเจ้าก็ได้… แต่เจ้าต้องบอก ความจริงกับข้าว่าชู้รักของเจ้าเป็นใคร”
เยี่ยนเหนียงเข้าใจหัวอกผู้หญิงเช่นกัน เจียวเหม่ยไม่ใช่สาวโสด นางมีสามีแล้ว แต่สามีของนางเป็นชาวนา ทุกวันนี้ทำนาอยู่บ้านนอก ต้องแยกกันอยู่กับเจียวเหม่ยเพราะนางมาเป็นสาวใช้ ด้วยความห่างไกลกับสามีทำให้เจียวเหม่ยเกิดความเหว่ว้าในอารมณ์ เรื่องนี้เยี่ยนเหนียงรู้ดี
“ชายผู้นั้นคือเหวินคัง… เป็นลูกชายพ่อค้าในตลาด”
เจียวเหม่ยไม่กล้าปิดบัง
“เหวินคังเป็นลูกใคร… ”
ความอยากรู้… เร่งเร้าให้เยี่ยนเหนียงต้องถาม คำพูดของเหวินคังตอนหนึ่งที่ได้ยินเมื่อคืน ยังติดอยู่ในหูของนาง…
เยี่ยนเหนียงนึกย้อนไปถึงตอนนั้น
“ซี้ดดด… อูย… แค่นี้ข้าก็เสียวจะตายอยู่แล้ว อูย… เจ้าช่างเป็นผู้ชายมากราคะเหลือเกิน แล้วของเจ้าก็ใหญ่มาก”
เจียวเหม่ยกล่าวเสียงกระเส่า
“ของข้าใหญ่กันทั้งตระกูล… นี่ถ้าเจ้าได้เห็นของพ่อข้าเจ้าจะตะลึงยิ่งกว่านี้… พ่อข้าขึ้นชื่อในเรื่องความเจ้าชู้ ลีลาสุดมหัศจรรย์พันลึกจนผู้หญิงหลงใหลแอบมาหาที่บ้านบ่อยๆ”
“ถีงว่าสิ… เจ้าร้อนแรงเหลือเกิน”
“ข้าชอบเรื่องแบบนี้… ”
“ใครคือพ่อของเหวินคัง”
เยี่ยนเหนียงเร่งเร้าอยากรู้จนแทบทนไม่ไหว
“เหวินจางเจ้าค่ะ… ชายผู้นี้เป็นเจ้าของร้านขายเครื่องกังไสลายครามอยู่ในตลาด”
เจียวเหม่ยรีบบอกความจริง ด้วยกลัวว่าฮูหยินจะเอาความ
“เหวินจาง… ”
ฮูหยินกระพือพัดที่ถืออยู่ในมือ ทวนชื่อที่ได้ยินจากปากของสาวใช้
“ข้าจะลงโทษยังไงดีนะ… กับเรื่องที่เจ้ากล้าพาชายชู้เข้ามาสมสู่ถึงในบ้าน”
ฮูหยินทำทีครุ่นคิด
“ก็ไหนฮูหยินบอกว่าจะไม่เอาความ… ถ้าข้ายอมพูดความจริง”
“ข้าจะไม่เอาความเจ้าก็ได้… ถ้า… ”
พัดในมือกระพือถี่ หรี่ตามองสาวใช้แล้วขยับเข้าไปกระซิบใกล้หู
“ห๊ะ… นี่ฮูหยินไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม”
เจียวเหม่ยตกใจแทบช็อก กับคำพูดที่ได้ยิน
“ข้าพูดจริง… ทำตามที่ข้าสั่งแล้วข้าจะไม่เอาความเรื่องที่เจ้าแอบพาชู้รักเข้ามาสมสู่ถึงในบ้าน เรื่องนี้ถ้ารู้ถึงหูนายท่านเจ้าโดนไล่ออกแน่ๆ… ”
เยี่ยนเหนียงกำชับเสียงเข้มพร้อมกับขึงตาขู่
“เจ้าค่ะฮูหยิน… เจ้าค่ะ… ข้าจะทำตามที่ท่านสั่ง… ”
อีกสองวันต่อมา
ตอนค่ำ เจียวเหม่ยชักชวนเหวินคังมาที่ห้องของนาง เมื่อมาถึงก็ชักชวนให้ดื่มสุราจนเหวินคังเริ่มมึนเมา
“วันนี้เจ้ามาแปลกนะเจียวเหม่ย… ”
เหวินคังโอบกอดร่างของเจียวเหม่ยที่นั่งอยู่บนตัก สอดมือล้วงคอเสื้อของนาง บีบเคล้นเต้านมไปพลางขณะมืออีกข้างถือจอกสุรา
“ก็ข้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ… นี่เจ้าเริ่มมึนแล้วใช่ไหม… ”
เจียวเหม่ยถาม
“ใช่… ตอนนี้ข้าเริ่มมึนแล้ว แต่ยิ่งมึนข้ายิ่งมีอารมณ์ สุราทำให้เอ็นข้ายิ่งแข็ง… เดี๋ยวข้าจะแทงให้เจ้าร้องขอชีวิตเลยคอยดู”
เหวินคังวางจอกสุราลงบนโต๊ะแล้วลงมือกอดจูบเจียวเหม่ยอย่างหื่นกระหาย
“ข้าไม่ไหวแล้ว… มาเถอะ… ข้าอยากกระแทกเจ้าเหลือเกิน”
เจียวเหม่ยยอมให้เหวินคังอุ้มขึ้นมาวางนอนลงบนเตียง เหวินคังเอามือรูดผ้าม่านคลุมเตียง จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนเปลือยเปล่า กระเสือกกายขึ้นมากอดปล้ำเจียวเหม่ย
“วันนี้ข้าอยากทำมืดๆ… ข้าขอดับตะเกียงนะ เราลองทำกันมืดๆ บ้างนะ… ”
เจียวเหม่ยกระซิบเสียงกระเส่าข้างหู
“วันนี้เจ้ามาแปลกนะ ได้สิถ้าเจ้าอยากได้ความเร้าใจ”
เหวินคังไม่ขัด…
เจียวเหม่ยรีบแหวกม่ายออกมา คว้าตะเกียงโคมที่ตั้งเอาไว้ข้างฝามาถือ
ค่อยๆ ดับตะเกียงพร้อมๆ กับมือของเยี่ยนเหนียงที่ผลักบานประตูเข้ามาอย่างระมัดระวังจนแทบไม่มีเสียง
เยี่ยนเหนียงแหวกม่าน พาร่างอรชรขึ้นมาทอดร่างนอนบนเตียง
เหวินคังที่นอนรออยู่แล้ว… รีบขยับขึ้นทาบทับกอดจูบเยี่ยนเหนียงอย่างหื่นกระหายเพราะเข้าใจว่าเป็นเจียวเหม่ย
“วันนี้เหมือนนมเจ้าใหญ่ขึ้นมาก… ใหญ่จนล้นมือข้า… ”
เสียงของเหวินคังกระเส่าไปด้วยความตื่นเต้น รีบถอดเสื้อผ้าออกจากร่างของฮูหยินจนเปลือยเปล่าล่อนจ้อนไม่ต่างกัน
จ๊วบๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เหวินคังครอบริมฝีปากดูดนมสลับไปมา
“ใหญ่… นมเจ้าใหญ่ขึ้นมาก”
เหวินคังแปลกใจที่วันนี้ปทุมถันของเจียวเหม่ยใหญ่โตผิดปกติ นึกสงสัย… แต่ก็คิดว่าอาจเป็นเพราะความมึนเมาสุราที่ดื่มเข้าไปหลายจอก
ซึ่งฮูหยินก็เตรียมการรอบคอบ เพื่อกลบความสงสัยนางจึงไม่ลืมใช้เครื่องหอมของเจียวเหม่ยซึ่งเป็นกลิ่นที่เหวินคังคุ้นเคยจดจำได้
“เสียวมากใช่ใหม่… อ่า… วันนี้หัวนมเจ้าชูชันสู้ลิ้นข้าดีจัง โดนข้าดูดจนแข็งโด่เชียว… ”
จ๊วบๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เหวินคังชอบใจ ดูดเลียกินนมจากเต้าอย่างหิวกระหาย ฮูหยินบิดตัวไปมา เสียวซ่านจนต้องแอ่นสองเต้าให้ชู้รักของสาวใช้เชยชม แผ่นหลังขยับยกขึ้นด้วยความสยิว นางเอื้อมมือลงมาลูบคลำแท่งหยกแห่งความเป็นชายของเหวินคัง ตั้งลำผงาดขึ้นมาขนานกับ