เมียดาราของคุณไท่หรง 2.1

1669 Words
เมียดาราของคุณไท่หรง 2.1 เมื่อได้รับข้อความจากพี่ติณห์มาแบบนั้น จันทร์เจ้าขาก็บอกลาเฟื่องแล้วเดินทางเข้าบริษัททันที พอไปถึงผู้จัดการคนเก่งก็บอกให้เธอเข้าไปนั่งรอในห้องรับรองด้านหน้าห้องของพี่อ้อ เพราะฝ่ายนั้นติดประชุมอยู่ แน่นอนว่าหญิงสาวยินดีรออย่างใจเย็น เธอรอโอกาสที่ตัวเองจะได้เฉิดฉายขึ้นบ้างมาหลายปี ให้รอแค่ไม่กี่นาทีแค่นี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ให้รอสักสองชั่วโมงสามชั่วโมงก็ได้ หวังเพียงพี่อ้อจะหยิบยื่นสิ่งที่ให้ลลิตามาตลอดให้กันบ้าง “อ้าวน้องเจ้าขา มาเร็วดีจริง ขอโทษทีนะพอดีพี่ติดประชุมโปรเจ็คใหม่อยู่” ทว่าขณะที่กำลังคิดว่าอาจต้องรอนานเหมือนที่เคย จู่ๆหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านในห้อง ตามด้วยทีมงานจำนวนหนึ่ง “สวัสดีค่ะพี่อ้อ” จันทร์เจ้าขาลุกขึ้นยกมือไหว้อีกฝ่าย สายตามองไปยังทีมงานสองสามคนที่เดินผ่านไปเหมือนไม่เห็นว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้ ก่อนจะละสายตากลับมาหาหญิงสาวผมยาวประบ่าเข้ากับการแต่งตัวเรียบๆ หากไม่ได้ทำงานด้วยกันเธอคงคิดว่าพี่อ้อเป็นคนใจดีและมีความยุติธรรมมาก แต่เพราะทำงานใต้การดูแลของทีมพี่อ้อมานานจึงได้รู้ว่าภาพลักษ์ผู้ใหญ่ใจดีของอีกฝ่ายมันเชื่อไม่ได้เลย “สวัสดีจ้ะ ปะ เราไปคุยธุระของเรากันดีกว่า ตามพี่มาเลย” ฝ่ายนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินนำหญิงสาวเดินไปที่ลิฟต์ จันทร์เจ้าขาแปลกใจเล็กน้อยที่สถานที่คุยไม่ใช่ห้องทำงานของพี่อ้ออย่างที่เธอคาดเอาไว้ “คืนนี้มีไปไหนไหม พี่ลืมบอกให้ติณห์แจ้งหนูว่าวันนี้คงยาวหน่อยเพราะจะมีฟิตติ้งด้วย” “ไม่ได้ไปไหนค่ะพี่อ้อ หนูอยู่ได้ยาวๆเลยเหมือนกันค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มประจบให้กับคนอายุมากกว่าขณะที่เดินตามไปต้อยๆจนกระทั่งถึงห้องแต่งตัวซึ่งอยู่ชั้นบนเกือบสุด แม้ปกติการฟิตติ้งจะต้องเข้าไปทำในสตูดิโอ ทว่าจันทร์เจ้าขาก็พยายามจะไม่คิดอะไร ด้วยเธอเองก็ได้ยินเสียงของทีมงานอยู่ที่ชั้นนั้นเหมือนกัน จึงคิดว่าที่พี่อ้อไม่พาเธอไปอาจเป็นเพราะสตูดิโอไม่ว่าง และการฟิตติ้งครั้งนี้ก็คงทำเป็นการส่วนตัวด้วย เพราะดูท่าแล้วน่าจะเป็นการหาคนมายัดใส่บทใดบทหนึ่งในโปรเจ็คที่กำลังขาดตัวแสดงมากกว่า ถึงจะบอกว่าเป็นบทดีๆแต่เธอเองก็ไม่ได้เชื่อนักว่ามันจะดีขนาดนั้น ต่อให้เป็นบทที่ดีจริงๆพี่อ้อก็น่าจะให้เธอเพราะไม่มีทางเลือกนั่นแหละ อาจเพราะเป็นแบบนั้น ทุกอย่างจึงดูรีบเร่งไปหมด “นั่งรอเลย เดี๋ยวพี่เอาบทมาให้พิจารณา” เมื่อเข้ามาถึงห้องแต่งตัวหญิงสาววัยใกล้กลางคนก็เดินหายออกไปจากห้องปล่อยให้จันทร์เจ้าขายืนเก้ๆกังๆอยู่ที่ด้านหน้ากระจก และเมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ารอ ร่างระหงจึงหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกล รออยู่พักใหญ่พี่อ้อก็เดินกลับมาพร้อมกับบทละครที่เป็นกระดาษเอสี่เย็บมุม จันทร์เจ้าขามองมันอยู่ชั่วครู่แต่ก็รับมาแม้ไม่ได้เข้าใจเหตุการณ์นัก “นี่เหรอคะบทละครเรื่องที่พี่อ้อจะให้หนูเล่น” ความแปลกประหลาดหลายอย่างในตอนนี้ทำให้หญิงสาวเอ่ยถามออกไป ด้านพี่อ้อเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าแล้วเดินอ้อมมาที่ด้านหลังเก้าอี้ อีกฝ่ายจับที่พนักก่อนหมุนเก้าอี้ให้หันหน้าเข้าหากระจกบานใหญ่ ดวงตากลมหางตกมีประกายบางอย่างที่ทำให้จันทร์เจ้าขาเกิดหัวใจกระตุกด้วยความกลัวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ “ใช่ เรื่องนี้แหละที่พี่ตั้งใจจะให้เจ้าขาเล่น หนูเป็นคนสวยมากนะ ไม่ได้สวยแบบเด็กสาวอย่างลิตาแต่สวยแบบผู้หญิงที่มีมาดความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ตัวละครตัวหลักในเรื่องก็มีบุคลิคแบบนี้แหละ” “เอ่อ…เห็นพี่ติณห์บอกหนูว่าเป็นบทที่ดีมากเลยเหรอคะ” “เป็นบทเด่นในโปรเจ็คใหญ่เลยเชียวล่ะ ลองเปิดอ่านดูสิ” เมื่ออีกฝ่ายพูดแบบนั้นมือเรียวจึงได้บรรจงเปิดหน้ากระดาษที่มีรอยเปิดอยู่เล็กน้อย หูได้ยินเสียงพี่อ้อเปลี่ยนที่จากด้านหลังมานั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆกันกับเธอ แน่นอนว่าหน้าแรกที่จันทร์เจ้าขาเลือกเปิดเป็นหน้าที่เขียนรายชื่อตัวละครเอาไว้ เพราะปกติแล้วในบทละครของทีมนี้มักเขียนชื่อเล่นของนักแสดงเอาไว้ด้านหลังชื่อตัวละครตั้งแต่ก่อนเอาบทไปถ่ายเอกสารแจก รายชื่อทุกชื่อมีการเขียนชื่อเล่นนักแสดงกำกับเอาไว้หมดแล้ว มีเพียงสองชื่อซึ่งอยู่ในกลุ่มของนักแสดงหลักเท่านั้นที่ยังไม่ได้เขียน ชื่อนั้นมีชื่อหนึ่งที่วงเล็บเอาไว้ว่าเป็นชื่อนางเอก ส่วนอีกชื่อไม่ได้มีวงเล็บต่อท้าย หัวคิ้วของเธอดึงดูดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างห้ามไม่ได้ในตอนที่กำลังจะวางบทละครนั้นลง มุมของแสงไฟหน้ากระจกกลับทำให้เธอเห็นรอยอะไรบางอย่างบนกระดาษ ซึ่งเหมือนว่าจะถูกลบรอยดินสอไปแล้ว เห็นอย่างนั้นจันทร์เจ้าขาจึงเปิดไปที่หน้าเรื่องย่อ กวาดตาอ่านแบบเร็วๆ ทว่ายังอ่านไม่ทันจบหน้ากระดาษก็โดนมือของพี่อ้อมาบังเอาไว้ ไม่เพียงแค่บังแต่ยังแย่งไปจากมือและเอาไปวางอีกฝั่ง “เข้าไปอาบน้ำอาบท่าด้านหลังนะ สระผมด้วยล่ะเดี๋ยวพี่ให้เด็กเข้ามาช่วยแต่งตัว” “ช่วยแต่งตัวเหรอคะ” จริงๆจันทร์เจ้าขาอยากถามว่าทำไมต้องอาบน้ำสระผมมากกว่า แต่เธอก็กลัวอีกฝ่ายจะหาว่าถามมากความแล้วจะพาลเปลี่ยนความคิดไม่ให้เธอเล่นละครเรื่องนี้ เธอเองก็ไม่ใช่ลูกรักที่พี่อ้อง้อเสียด้วยสิ เรื่องเล็กน้อยก็อาจทำงาโอกาสอันดีได้ “ใช่ ก็ฟิตติ้งชุดของจริงนั่นแหละ พี่เตรียมเอาไว้ให้แล้ว” สิ้นคำพูดนั้นพี่อ้อก็ขอตัวเดินออกไปด้านนอกห้อง ทิ้งหญิงสาวเอาไว้กับความสงสัยที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงอย่างนั้นด้วยความที่อยากได้เล่นบทดีๆสักครั้ง จันทร์เจ้าขาจึงเข้าไปอาบน้ำอาบท่า ในตอนที่ทำทุกอย่างเสร็จพอเดินออกมาด้านนอกก็เห็นว่ามีช่างผมกับช่างแต่งหน้ารออยู่แล้ว ทุกคนล้วนไม่ใช่ช่างที่เธอเคยทำงานด้วยมาก่อน เรียกได้ว่าไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเลยด้วยซ้ำ เหมือนไม่ใช่ช่างที่ทำงานอยู่ในบริษัทนี้อย่างนั้นแหละ “สวัสดีค่ะ” “คุณจันทร์เจ้าขานั่งเลยค่ะ” “โอเคค่ะ” แต่แม้ว่าจะรู้สึกแปลกและมีคำถามมากขนาดไหนจันทร์เจ้าขาก็ยังคงไม่ได้พูดอะไร เธอนั่งลงบนเก้าอี้แล้วให้ทั้งสองคนนั้นทำผมและแต่งหน้าจนกระทั่งเสร็จ เมื่อเสร็จแล้วพี่อ้อที่หายไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ก็กลับมาพร้อมชุดเดรสและรองเท้าส้นสูง ชุดนั้นเป็นชุดสีแดงเข้มและเป็นผ้าลื่นแหวกสูงจนน่ากลัวว่าหากนั่งไม่ระวังคงเห็นอะไรๆเข้าแน่ๆ “อ้าวเสร็จแล้วเหรอ สวยจริงๆ นี่…ลองเอาไปเปลี่ยนดูนะเจ้าขาว่าดูเป็นยังไงบ้าง” พี่อ้อยื่นชุดนั้นมาให้เธอ ด้านจันทร์เจ้าขาก็รับมาแบบงงๆอีกเหมือนเดิม เธอไม่รู้ว่าเหตุการณ์ตอนนี้มันคืออะไรกันแน่แต่ก็ยังเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดนั้นด้วยความหวังที่อ่อนแสงลงมาเล็กน้อย สุดท้ายก็เดินออกมาด้วยชุดสีแดงที่ขนาดพอดีเป๊ะเหมือนตัดมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ และพบว่าในห้องตอนนี้เหลือแค่พี่อ้อเพียงคนเดียว ส่วนช่างแต่งหน้าทำผมสองคนนั้นไม่อยู่แล้ว “อ้าว ช่างสองคนไปไหนแล้วละคะ หนูยังไม่ได้ขอบคุณเลย” “พี่ให้เขากลับไปแล้วล่ะ เราเองก็ออกจากห้องนี้กันเถอะ ไปนั่งคุยกันอีกห้องดีกว่าว่าจะเอายังไงกันดี” พี่อ้อตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงคล้ายไม่ใส่ใจ ก่อนจะคว้าเอาบทละครเดินนำออกไปจากห้อง ด้านจันทร์เจ้าขาที่มีคำถามมากมายเมื่อเห็นแบบนั้นจึงรีบคว้ากระเป๋าเดินตามออกไป เพราะตั้งแต่ต้นจนจบเธอเจอแต่เรื่องที่มันดูไม่ค่อยมีเหตุผล และทำความเข้าใจไม่ค่อยได้ รู้สึกตามไม่ทันว่าพี่อ้อกำลังคิดทำอะไรอยู่กันแน่ และดูเหมือนเรื่องมันยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะจากเดิมที่คิดว่าอีกฝ่ายคงพาเธอไปลองถ่ายรูปที่สตูดิโอสักห้องในตึก ทว่าพี่อ้อกลับพาเธอลงไปที่ชั้นจอดรถแทน “เอ่อ เราจะไปไหนกันเหรอคะพี่อ้อ” “เราจะไปใช้สตูดิโอที่ตึกอื่นน่ะ พอดีว่าสตูดิโอในตึกเต็มหมดแล้ว” อีกฝ่ายว่าอย่างนั้นก่อนจะเปิดประตูให้จันทร์เจ้าขาขึ้นไปนั่ง แม้ความสงสัยจะมากยิ่งกว่าตอนที่อยู่ด้านบนแต่เธอก็ยังยอมขึ้นรถไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD