...สิบกว่าปีมาแล้วที่เขาซื้อที่ดิน ในที่ราบผืนเล็กๆ แห่งนี้
ขณะนั้นเขายังเป็นกรรมกรเร่ร่อนและมาทำงานก่อสร้างขยายถนนเส้นทางสายนี้ มันยาวไกลและจุดตรงนี้ เหมือนจะเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสองจังหวัดใหญ่ทั้งสอง มันอยู่ห่างระหว่างกันราวร้อยกิโลเมตรพอๆ กัน คันฝายดินที่สูงตระหง่านกั้นลำห้วยนั้นทำให้เจ้าของที่ดินที่จับจองเดิมคิดว่ามันจะถูกน้ำท่วมจมมิด จึงขายที่แปลงนี้ให้เขาในราคาที่แสนถูก โดยเจ้าของเดิมคาดการณ์เอาไว้ว่าระดับน้ำจะทำให้เขาสูญเสียมันไปโดยที่ไม่ได้อะไรเลย เงินหกพันบาทบวกกับความรู้สึกที่ว่า ตนเองเป็นคนที่กลบเกลื่อนและคดโกง ทำให้เจ้าของที่แทบไม่ต้องคิดมากเลยในตอนนั้นที่ตัดสินใจขายมัน
แต่มาจนบัดนี้ระดับน้ำก็ยังไม่เคยเอ่อท้วมถึงครึ่งหนึ่งของคันดินและที่ดินผืนนั้นก็ยังห่างจากขอบระดับน้ำของหนองน้ำอีกไกล แม้ระดับน้ำจะไหลบ่าเข้ามาในทุกๆ ปีแต่มันก็ถูกปล่อยออกในหน้าแล้งเช่นกัน
ชายอายุเลยวัยกลางคนคนนี้ เขาหยุดการเร่ร่อนและหอบเอาทรัพท์สมบัติที่มีอยู่เพียงไม่กี่ชิ้นรวมทั้งเมียของเขาเข้ามาอยู่ บุกเบิกแผ้วถางดงสาบเสือ สับรากเหง้าของหญ้าคาและขุดเอาตอไม้ใหญ่ขึ้นมาเผา ยกท้องร่องขุดเติมเสริมแต่ง ปรับให้มันราบเตียน จนมันเป็นรูปเป็นร่างของสวนที่สมบูรณ์ แต่ทว่าไม้ใหญ่ที่เขาปลูกลงมันกลับไม่เป็นระเบียบ มันถูกปลูกขึ้นทีละกิ่ง ทีละกอและทีละเมล็ด ต่างวันต่างเวลากันไป
ดงกล้วยป่าและกล้วยน้ำว้า ลำไย มะม่วง มะพร้าว ขนุน มะไฟ กลุ่มของกอชาใบใหญ่ กอไผ่และต้นไม้อื่น ๆ จนถึงเดี๋ยวนี้มันเป็นกลุ่มไม้ที่สูงชะลูด แน่นขนัดแข่งกันแทงยอดขึ้นเพื่อรับแสงแดด เป็นป่ารกที่ปลูกโดยมือคน เป็นหย่อมเขียวจุดเล็ก ๆ ของเทือกเขาดงดอยที่ไม่มีไม้ใหญ่อยู่เลย แต่เขาก็กันพื้นที่ตรงหน้ากระท่อม ให้เหลือเป็นที่ว่างโล่งสำหรับปลูกผักสวนครัวและทำให้มองเห็นหนองน้ำได้ตลอดทั่วทั้งบริเวณ
ในตอนแรกที่เข้ามาเพิงพักถูกสร้างอย่างง่ายๆ บ่อน้ำถูกขุดขึ้นมาก่อนเพื่อที่จะใช้น้ำอาบกิน อยู่มาได้สักระยะตัวบ้านก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้น บ้านที่ยกพื้นขึ้นระดับเอว มีบันไดสามขั้น มุงด้วยหญ้าคา ไม้ไผ่และเหล่าไม้ประดามีที่เขาเข้าไปตัดฟันและแบกมันออกจากป่า ถูกตีประกอบกันขึ้นที่ละนิดละหน่อยจนเป็นตัวบ้าน
เขาดำรงชีพอยู่ได้ด้วยงานรับจ้างทั่วไป ตามเรือกสวนไร่นาแล้วแต่ฤดูกาล งานก่อสร้างเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาพอมีฝีมืออยู่บ้างและการเผาถ่านขาย แต่เวลาส่วนมากจะหมดไปกับการแผ้วถางพลิกฟื้นผืนดิน ดูแลต้นไม้และปลูกผักสวนครัว กะหล่ำ คะน้า ผักบุ้ง ผักกาด มะเขือ พริก ถั่วและผักกินได้อื่นๆ หมุนเวียนปลูกไปเกือบตลอดทั้งปี เล้าไก่และไก่ฝูงเล็ก ซุกตัวอยู่ในหมู่ไม้ทางด้านตะวันตกของตัวบ้าน สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาเป็นอาหารและขายบ้างบางส่วน เพื่อที่จะนำเงินไปซื้อ พวกกะปิ น้ำปลา ผงชูรสฯ ยาเส้นและเหล้าขาวรสแรงบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งคนในหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากที่นี่เกือบสามกิโลเมตร หมัก ต้มและกลั่นมันขึ้นมาขาย
เมียเขาตัวอ้วนเตี้ย หน้าและหัวกลมดิกตั้งอยู่บนลำคอที่เป็นชั้นของไขมัน นางหายใจแรงเหมือนคนที่ผ่านการวิ่งมาสักสี่ร้อยเมตรและไม่พูดมาก มีแต่คำสบถและแช่งด่าที่ไม่ไม่มีความหมายอะไร นอกจากนางจะเปล่งเสียงมันออกมา เหมือนกลัวลืมภาษามนุษย์ที่เขาใช้พูดกันก็แค่นั้น
แต่นางก็ขยันขันแข็งกับงานที่จำเป็น หุงหาอาหาร ซักผ้า ช่วยรดน้ำแปลงผัก ถอนหญ้าและเก็บเกี่ยวพืชผลเข้าไปขายยังตลาดเล็กๆ ของหมู่บ้านที่ห่างไกลนั้น ซึ่งโดยมากพืชผักที่นางหาบคอนไปนั้นจะเหลือเกือบครึ่งของตะกร้าที่นางนำไป ได้เงินพอที่จะใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นเพียงเล็กน้อยและพืชผักที่เหลือ ก็จะถูกแจกจ่ายให้กับผู้คนในหมู่บ้านที่อยู่กันอย่างกันดารแต่ก็ไม่ถึงกับอดอยากแห่งนั้น เพราะส่วนมากแต่ละครอบครัวก็ต่างมีแปลงผักเล็กๆ เช่นเดียวกับที่สามีนางปลูกเช่นกัน
ลำเทียนแท่งเล็กส่งเปลวไฟพลิ้วไหว พอให้มองเห็นภายในห้องนอน ที่ถูกกั้นออกจากชานหน้า ฟูกนอนถูกคลุมด้วยผ้าปูที่เก่าคร่ำจนมองไม่เห็นถึงลวดลายของดวงดอก ผ้าห่มและผ้านวมมอซอ ถูกพับวางบนหมอนสองใบ มุ้งที่ยังไม่ได้กางถูกตลบขึ้นม้วนเก็บ ด้านท้ายห้องมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า พาดยาวตลอดความยาวห้อง เสื้อผ้าที่ยังไม่ได้สวมใส่ถูกพาดทับจนเต็มราวและก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้ซักกองสุมกันตรงมุมห้อง อีกมุมหนึ่งมีบรรดาเหล่าสัมภาระทั้งที่ใส่ลังกระดาษและวางซ้อนกันดูรก กองหนังสือพิมพ์เก่าข้ามปี ที่ถูกวางซ้อนโดยนิตยสารหลายสิบเล่มมีทั้งนิตยสารดารา การเมือง พระเครื่องและอีกหลายเล่มที่เขาเก็บสะสมมันมา
มีหนังสือวางซ้อนกันห้าหกเล่ม หนังสือออกสีน้ำตาลเข้ม บางเล่มปกหลุดลุ่ย เล่มที่หนาสุดคือ ชีวประวัติของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระเกจิชื่อดังของอีสาน
อีกเล่ม “เสียงแห่งเสรีภาพ”ของ นอร์ดี รีดเดอร์ แคมเปี้ยน ที่พิมพ์ทั้งสองภาษาทั้งไทย-อังกฤษเล่าถึงการต่อสู้และประวัติของ แพทริก เฮนรี่ ที่ต่อสู้ให้อเมริกาได้รับเสรีภาพจากอังกฤษ “บันทึกจากใต้ถุนสังคม”พ็อคเก็ตบุคส์เล่มเล็กที่ปกมันหลุดลุ่ยและกระดาษมันเกือบจะหลุดแยกออกจากกันทั้งเล่มของ ฟิโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี้ เรื่องชุด “สามเกลอ” ของพล นิกร กิมหงวน ของ ป. อินทรปาลิตอีกสองเล่ม
และเล่มอื่นๆ บางส่วนมีไม่ถึงครึ่งเล่มและปกหายไป ยังมีหนังสือสังคมศึกษาของประถมหกอีกเล่ม กระบอกไม้ไผ่ใส่ปากกาและดินสอ พวกมันถูกวางซ้อนกันอย่างมีระเบียบ ซึ่งนาน ๆ ครั้งเขาจะหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างจริงจังและเขียนอะไรต่อมิอะไรลงในสมุดอีกยี่สิบกว่าเล่มที่วางซ้อนกันอยู่อีกที่
อีกมุมหนึ่งของห้องเป็นที่ตั้ง ของท่อนไม้ทำฐานสำหรับตั้งลำเทียน หยดน้ำตาจากลำเทียนมันพอกนูนหนาและเลื่อมเป็นเงาวาว ขวดน้ำอัดลมขนาดลิตร อีกสามขวดที่ใช้ใส่น้ำเปล่าและจอกพลาสติกสีมอ ๆ อีกสองใบ ปึกซองยาแก้ปวด ขวดยาและกระปุกเล็กกระปุกน้อย กล่องเปล่าสังกะสีของขนมคุ๊กกี้ กลมมนขนาดใหญ่สำหรับใส่ยาเส้นและกระดาษมวน
เหนือขึ้นไปตรงหัวนอน มีรูปปฏิทินเก่าซีดของหลวงปู่แหวนและรูปของพระยันตระ
ถ้ายกลำเทียนออกมานอกห้องนอน ก็จะเห็นชานโล่ง ไม่มีซี่ไม้กั้น มีเพียงราวจับไม้ไผ่เล็ก ๆ สำหรับทางลงบันไดทั้งสามขั้น เดินเลี้ยวไปทางซ้ายมือจะเห็นครัวเล็กๆ โต๊ะกินข้าว เก้าอี้สองตัวตั้งอยู่กลางห้อง มีชั้นวางกระปุกเกลือ กะปิ ขวดน้ำปลา เต้าเจี้ยว ซองผงชูรสและซอสอะไรอีกสองสามขวด เตาอั้งโล่ตั้งอยู่บนเนินดินที่ทำพูนไว้ กองขี้เถ้าสีขาว ลังไม้ใส่ฟืน
หากเดินเลยเข้าไปก็จะเป็นห้องน้ำ มีถังพลาสติกสีดำขนาดสูงระดับเข่าหากนั่งยองๆ บนโถส้วม ใส่น้ำไว้เต็ม มีขันน้ำสเตนเลสก้นรั่วคว่ำอยู่ ถังสีฟ้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ล่างชั้นวางสบู่ ยาสีฟัน แชมพูและแปรงสีฟัน เขาต้องตักน้ำมาใส่ถังทั้งสองให้เต็มแต่หัววัน เพราะบ่อน้ำอยู่ไกลจากตัวบ้านพอสมควร เลยออกมาเป็นที่สำหรับล้างถ้วยชามและชั้นวางเล็ก ๆ ส่วนที่เป็นชายคาด้านหลัง จะต่อยาวยื่นออกมามากกว่าด้านอื่น มีจักรยานคันโตของจีนแดงจอดอยู่ตรงนั้น
ในแต่ละคืนลำเทียนจะถูกจุดไปไม่ถึงครึ่งเล่ม มันจะถูกโบกให้ดับลง เมื่อมุ้งถูกกางเสร็จสรรพ ตัวกระท่อมจะถูกความมืดมิดเข้าครอบคลุม มีเงาทะมึนของไม้สูงอยู่รายรอบ สิ่งที่พอจะสะท้อนให้เห็นรูปร่างของมันก็คือแสงดาวในคืนเดือนมืดและก็แสงเดือนในยามที่พระจันทร์นวลใสได้สาดส่องให้เห็น
สองสามีภรรยาเข้านอนกันเร็วเพียงย่ำค่ำ ปล่อยให้หริ่งหรีดเรไรและหมู่แมลงกลางคืนกรีดร้องระงมขับกล่อม บางวันเขาก็หลับลงอย่างง่ายดายด้วยความอ่อนเพลีย และบางคืนเขาก็จะเข้าคลุกเคล้าฟ้อนเฟ้น เติมแต่งอารมณ์ไปกับร่างที่อ้วนเผละ เปลือยเปล่าของเมีย ส่งเสียงลมหายใจฟืดฟาดหอบถี่กระชั้น จนกามราคะนั้นมอดดับลง...