แอบมอง

1631 Words
   ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นเธอนะ ว่าแล้วไงเซนส์ผมแรง เหมือนว่าเราจะได้เจอกันอีกเรื่อยๆ ขณะที่ร่างบางเดินผ่านโต๊ะที่ผมพวกผม กำลังนั่งทานมื้อเช้า         " เฮ้ย..! " เสียงของไอ้กรดังขึ้น          !! ใช่!! คนที่เราเจอที่ผลับวันก่อน ไม่วะ" ไอ้กรขณะที่จะตักข้าวเข้าปาก มันถึงกับตกใจที่เห็นร่างบางอันคุ้นตา เดินผ่านโต๊ะพวกผมไป ไม่ใช่แค่มันหรอกผมเองก็ด้วย ในใจคิดว่าเธอมาทำอะไรที่นี้ เป็นคนไข้ของที่นี้เหรอ ดูแล้วไม่น่าจะใช่          จากการแต่งตัว ดูท่าเหมือนเธอจะทำงานที่นี้นะ ถ้าผมเดาไม่ผมผิด เพราะดูเธอแต่งตัวดูเรียบร้อย และยังมากลับกลุ่มพนักงานที่นี้ด้วย         !! โหย สัสเว กูก็ว่าอยู่ มันนั่งมองใคร สาวคนนั้นนี้หว่า วันนี้กับวันนั้นยังกะคนละคนกัน แต่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม          " วันนี้ ดูเหมือนคนที่มันกำลังเอ่ยถึง จะไม่ได้แต่งหน้ามากมากอะไร ผมเธอก็ดูรวบเก็บอย่างเรียบร้อย แต่ผมว่าก็น่ารักไปอีกแบบ          "แม่ง !  โลกกลมจริงๆเลย ดูถ้าเหมือนน้องเขาจะทำงานที่นี้นะ เห็นมากับพวกพี่บิ๊ก" ไอ้ณัฐเอ่ยขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะพี่บิ๊กที่มันเอ่ยถึงทำอยู่ฝ่ายบัญชีในส่วนของโรงพยาบาล แกอยู่มานานแล้วพวกผมรู้จักดี ผมรู้จักทุกคนแหละที่ทำงานที่นี่   เพราะผมคือผู้ชายเจ้าของโรงพยายบาลครับ     "น่าจะเป็น เช่นนั้น" ไอ้กรเอ่ยขึ้นมาหลังจากนั่งเงียบไปนาน เธอเดินออกไป ส่วนไอ้ทีกับไอ้ณัฐ รวมทั้งผมก็มองตามหลังรางบางที่เดินออกจากโรงอาหาร         "น้องเขาทำงานที่นี้เหรอวะ กูไม่เคยเห็นเลยวะ" ไอ้กรถามพวกผม         "หรือว่าจะเป็นพนักงานใหม่" ไอ้ณัฐที่นั่งอยู่ก็เอ่ยขึ้นมา  ผมเองก็คิดแบบมัน ทำไมผมไม่เคยเห็นเธอที่นี้          "ไม่แปลกที่พวกผมจะเพึ่งห็นเธอที่นี้ ก็ช่วงนี้พวกผมไม่ค่อยได้เข้ามาโรงพยาบาลเพราะพวกผมออกไปเรียนกัน นานๆจะเข้ามาที แต่หลังจากนี้ไปพวกผมก็เข้าบ่อยขึ้นแล้วละ เพราะต้องเข้ามารักษาคนไข้ งั้นรายงานตัวก่อนกันละครับ          ผมเป็นทันตแพทย์ ของโรงพยาบาลSB ครับ ตอนนี้ และเป็นทั้งลูกชายของ โรงพยาบาล SB และเจ้าของโรงพยาบาลทันตกรรม SB ตอนนี้ผมกำลังเรียนโท ไปด้วย โรงพยาลผมก็มีการแจกทุนให้คุณหมอท่านอื่นที่ทำงานที่นี้ ที่อยากจะเรียนต่อก็มีให้นะครับ ผมและเพื่อนๆ จึงออกไปเรียนต่อโท เรียนเฉพาะทาง พวกผมจึงเลือกเรียน ศัยลกรรมในช่องปาก ครับ          และผมยังรับตำแหน่งรองประธาน บริษัท Dental ของครอบครัวด้วยครับ แต่บริษัทผมก็เข้าไปบ้าง แต่ตอนนี้คุณพ่อเป็นคนบริหารอยู่ครับ เพราะครอบครัวผมเป็นหมอฟันกันทั้งบ้าน ส่วนคุณแม่ท่านก็เป็นผู้บริหารของโรงพยาบาล ดูแลทั้งหมด ด้วยครับ ผมมีน้องสาวคนนึ่งชื่อวีนัส ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ก็เรียนทันตะเหมือนกันนี้แหละครับ  หลังจากทานข้าวเสร็จพวกผมทั้งสี่คนก็เข้าไปที่แผนก เพราะเห็นว่า วันนี้เก้าโมงครึ่งมีประชุม เรื่องสัมมนาใน อาทิตย์หน้าที่จะถึงนี้ สถานที่ๆพวกเราจะไปกันนั่นก็คือหัวหินครับ ไม่ใช่พวกผมเลือกหรอกนะ แต่เป็นทุกคนในโรงพยาบาลโหวตกันมาครับ ก็จะมีการจัดอบรม การทำเวิร์คช็อป และก็มีการเล่นเกมต่างๆ กิจกรรมเราจะจัดขึ้นทุกๆปี เพื่อกระชับความสามัคคีของทุกๆ คน ช่วงที่ไปสัมมนาเราจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่ม เอ และกลุ่มบี จะสลับกันไปครับ คนละ 3 วัน 2 คืน             ใช้เวลาในการประชุมครึ่งวันเช้า ผมพักเที่ยงจนถึงบ่าย 2 ห้องแผนกของผมอยู่ชั้น9 จากนั้นผมก็ลงมาดูนักศึกษาปี 5 ที่ทำการรักษาคนไข้อยู่ นักศึกษาปี 5 ปี ก็จะลงปฎิบัติจริงแล้วครับ ทำฟันให้คนไข้จริง โดยราคาก็จะถูกลงมากว่าทำกับหมอ ลืมบอกไปว่าโรงพยาบาล มีแผนกการเรียนการสอนด้วย เป็นโรงพยาบาลในเครือของมหาลัย S เป็น มหาลัยของพ่อไอ้ณัฐ ครับ มันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ ผมกับไอ้ณัฐเราโตมาด้วยกัน ส่วนไอ้กรกับไอ้ที เป็นเพื่อนเรียนเ้วยกันมาตั้งแต่มัธยม จึงทำให้พวกผมนั้นสนิทกันมาก              พอผมมาถึงก็มีอาจารย์หมอ และหมออีกหลายท่านและพวกเพื่อนๆ ผม ที่นั่งรอตรวจคนไข้ที่นักศึกษากำลังทำการรักษาอยู่ ผมก็คอยดูเท่านั้นแหละครับ และรอเช็นเอกสารจากนักศึกษา และตรงนี้ก็จะมีคนเยอะหน่อยทั้งผู้ช่วยที่เตรียม เครื่องมือให้กับนักศึกษา อาจารย์ และก็เจ้าหน้าการเงิน ที่ทำการเก็บเงินคนไข้ที่มาใช้บริการ ราคาไม่ได้แพงมากเหมือนกับคลีนิกด้านนอก         "พอผมนั่งลงได้ซักพัก ผมพึ่งสังเกตว่าตรงนี้มีร่างบางของคนผมสงสัยอยู่ ผมกำลังมองเธอที่เก็บเงินและคุยกับนักศึกษา คนสองคน แต่เธอก็ไม่ได้มองมาทางผมหรอกครับ  ตอนนี้เธอกำลังดูยุ่งๆ อยู่ อาจเป็นเพราะวันนี้คนมาใช้บริการค่อยข้างเยอะด้วย ใบหน้าขาวใสที่ด้านบนมีกรอบแว่นตาหนาขนาดใหญ่ปิดบังใบหน้าสวยอยู่ นั้น ผมรวบยาวไว้ด้านหลัง ยิ่งมองเธอในลุคนี้ก็แปลกตาดีครับ ดูเธอน่ารักแบบ. เนริดๆ ดีนะ          ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนเด็ก ดูเหมือนเธอจะเด็กกว่าพวกผมนะ          " เฮ้ย... !  คนที่แอบมองนั้นถึงกลับสะดุ้ง เมื่อเพื่อนเขานั้นเอาศอกกระทุ้งที่ท้องของจิระเมศทำให้คนที่มองร่างบางอยู่นั่นรู้สึกตัวทันที         "มองขนาดนี้เดินเข้าไปหาเขาเลยไหม" ณัฐพลนั่นแอบหมั่นใส้เพื่อนไม่ได้ มีอย่างที่ไหน เขามาแล้วไม่ทันใครซักคน เล่นมองแต่น้องการเงินคนนั้นไม่หยุด          "ก็มองไปเรื่อย" คนโดนว่าได้แต่เฉไฉไปเรื่อย         "ดูท่าคู่แข่งมึงเยอะวะเพื่อน ดูเด็กเราดิ ตอนนี้ต่อแถวกันจ่ายตังกันไม่ว่างเลย" อย่างที่ณัฐพลบอกนั้นแหละ ที่นักศึกษาหลายคน พยายามชวนเธอคุยโน้นคุยนี้ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่เล่นด้วยเท่าไหร่         "พี่ชื่อพิมพ์นัดดา เหรอครับ " นักษาชายคนนึ่งที่ชวนเธอคุย และส่งยิ้มหวานมาให้เธอ เพราะเขาเห็นเธอเซ็นเป็นชื่อจริงของเธอบนใบเสร็จ         "ค่ะ" ร่างบางตอบไปตามมารยา          "ชื่อเพราะจังเลย แล้วพี่ชื่อเล่นว่า ไรเอ่ย" และนี้ก็ไม่ได้มีแค่สองคน มีคนที่รอจ่ายตังอีกหลายคนที่ยื่นอยู่ แต่ดูถ้านายนี้จะไม่เลิกถามเธอง่ายๆแน่น         "ซิน ค่ะ" ร่างบางเลยตัดปัญหาโดยการบอกชื่อตนไปให้จบๆ          " แล้วอายุเท่าไหร่ครับ ดูหน้าแล้วเด็กมาก น่าจะไม่เกิน 25" คนที่อยากจะรู้จักนั่นไม่ระความพยายาม ร่างบางนั่นไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด ออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ         "ถ้าเสร็จแล้วก็คนด้านหลังเข้ามาคะ เขายื่นรอนานแล้ว" เธอไม่ได้ตั้งใจจะไล่คนตรงหน้า แต่คนอื่นรอคิวอยู่หลายคน แต่คนนั่นก็ยังไม่มีถ้าทีจะเลิกถามเธออีก ยังคอยหยอดคำเธอมาเรื่อยๆ และคอยชวนคุย การทำงานของซินนั่นอยู่ในสายตาของจิระเมศตลอด เขารู้สึกไม่พอใจที่เธอนั่นมีคนเข้าหามากมายแบบนี้ และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ทั้งนักศึกษาของเขาและพนักงานที่นี้ เขาชวนเธอคุยด้วยไม่ขาดสาย         "นี้ กูเป็นไรวะ ชื่อเธอเขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ จะรู้ก็แต่ชื่อจริงของเธอนี้แหละ ที่นักศึกษาต้องเอาใบเสร็จมายื่นกับอาจารย์ผู้สอน ว่าเคสนี้เป็นอันผ่าน คนที่เซ็นจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่การเงินเท่านั้น พิมพ์นัดดา เหรอ เขาได้แต่อ่านชื่อเธอในใจ"         ร่างบางเองก็ก้มหน้าทำงาน จนไม่รู้เลยว่ามีคนเฝ้าแอบมองเธออยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง เพราะห้องนี้เป็นห้องใหญ่ ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นสัดส่วน เรียกได้ว่ามีเกือบทุกแผนกรวมอยู่ชั้นนี้ด้วย เวลาล่วงเลยอีก 30 นาทีจะถึงเวลาเลิกงาน เธอต้องรวบรวมเงินและเอกสารส่งให้กับฝ่ายบัญชี งานเธอจะเสร็จประมาณบ่ายสี่โมงจากนั้นเธอก็มีเวลาพักจนถึงเวลาเลิกงาน เธอจะเลิกงานเวลา สี่โมงครึ่ง          ร่างบางเหลือบมองนาฬิกาที่ตอนนี้บ่ายสี่โมงห้านาทีแล้ว นั้นเท่ากับว่าวันนี้เธอส่งเอกสารช้าไป 10 นาที ถ้าช้ากว่านี้เธอต้องโดนหัวหน้าฝ่ายบัญชีดุอีกแน่ ซินจึงเก็บเอกสารและรีบไปที่ลิฟต์ทันที่ เพื่อจะขึ้นไปที่ ชั้น 10 เธอออกมาก็รีบตรงไปที่ลิฟต์ที่กำลังจะปิด  " รอ ด้วยคะ"  ฝากกดไลท์ ฝากคอมเม้นติให้กำลังไรท์ด้วยนะคะ ฝากหมอเว กับ น้องซิน ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ ด้วยนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD