ต่อไปนี้เจ้าต้องรับใช้อยู่ข้างกายข้า

1709 Words
ที่ด้านนอกบริเวณโซนห้องหนังสือทางขวามือจะมีมุมจิบชา สตรีที่มีรูปโฉมไม่เป็นรองใครกำลังนั่งจัดเตรียมน้ำแกงด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม โดยมีหลิวหมัวมัวช่วยอยู่ด้านข้าง เมื่อเฉินอ๋องเสด็จออกมาก็เดินออกมาพร้อมโฉมสะคราญที่เดินติดตามอยู่ด้านหลัง จ้าวฉีอิ่งที่หันไปส่งยิ้มให้ญาติผู้พี่ แต่ก็ต้องยิ้มค้างเมื่อเห็นว่ามีสตรีเข้าออกในเขตหวงห้ามนั่นได้ หลิวหมัวมัวคอยสังเกตสีหน้าและแววตาของทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งสตรีตระกูลเย่ด้วย “ฉีอิ่ง ความจริงเจ้าไม่ต้องลำบากก็ได้” บุรุษองอาจเดินเข้ามาแล้วนั่งลง ส่วนเย่ฟางหรูได้แต่ยืนตัวลีบอยู่ข้างกันกับเขา จ้าวฉีอิ่งส่งยิ้มให้ญาติผู้พี่แล้วหันไปสบตากับสตรีแปลกหน้า “ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อนเลย นางกำนัลคนใหม่หรือ” เย่ฟางหรูกำลังเหม่อลอยไม่ทันได้ฟังคำถามของท่านหญิงตระกูลจ้าว ทุกคนมองมาที่นางเป็นตาเดียว “มะ ไม่ใช่เพคะ” เย่ฟางหรูตอบไปตามจริง และนั่นก็ทำให้เฉินอ๋องไม่ค่อยพอใจนัก ทว่าเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำเพียงจิบชาแล้วกระแทกถ้วยชาลงกับจานรองอย่างแรง “หลิวหมัวมัวรีบพานางไปเปลี่ยนชุด แล้วก็มอบหมายงานให้ทำเสีย” จากนั้นก็หันไปสนใจน้ำแกงที่จ้าวฉีอิ่งทำมาให้ ไม่ได้หันมามองเย่ฟางหรูอีกเลย หลังจากออกมาจากห้องหนังสือแล้ว เย่ฟางหรูก็พยายามพูดอ้อนวอนหลิวหมัวมัว “ท่านช่วยส่งข้าไปทำงานที่เรือนอื่นได้ไหมเจ้าคะ” เพราะไม่อยากเห็นหน้าบุรุษคนนั้น เขาเกลียดตระกูลเย่มากขนาดนั้น แล้วจะให้นางมาอยู่ใกล้หูใกล้ตาทำไมกัน นางกำนัลอาวุโสมองสำรวจสตรีโฉมสะคราญตรงหน้าก็บังเอิญไปเห็นรอยขบกัดที่เฉินอ๋องทิ้งเอาไว้ ก็พลันเข้าใจเรื่องทุกอย่าง “คุณหนู ท่านไปทำงานที่อื่นไม่ได้ ยกเว้นทำงานที่นี่ตามรับสั่งของท่านอ๋อง” จากนั้นชุดนางกำนัลชุดใหม่ก็ถูกยัดใส่มือสตรี “รีบไปเปลี่ยนชุดเถิด” หลิวหมัวมัวพูดเสียงเรียบ สีหน้าไร้อารมณ์จากนั้นก็เดินนำเย่ฟางหรูมาที่ห้องว่างห้องหนึ่ง สุดท้ายนางก็จำต้องเดินก้มหน้าเข้าไปเปลี่ยนชุดใหม่ ที่จวนอ๋องเจ้าเมืองแห่งต้าเยี่ยนนั้น ชุดนางกำนัลมีเนื้อผ้าบางมาก ขนาดว่าสวมชุดทับกันหลายชั้นก็ยังสามารถมองเห็นทะลุไปถึงเอี๊ยมตัวในได้ แต่โชคดีที่ชุดใหม่มีขนาดพอดีตัว แม้ช่วงหน้าอกจะคับแน่นเล็กน้อยก็ตาม มิหนำซ้ำชุดยังมีสีขาวสลับดำอีกด้วยซึ่งเป็นสีที่สตรีไม่ค่อยชอบสักเท่าไร “เสร็จแล้วเจ้าค่ะ” ไม่นานมากนัก เย่ฟางหรูก็เดินออกมาจากห้องที่เข้าไปเปลี่ยนชุด ตอนนี้นางอยู่ในชุดไว้ทุกข์ไม่มีผิด ไม่เหมือนนางกำนัลคนอื่นที่สวมชุดสีฟ้าอ่อนดูสดใส ส่วนทรงผมนั้นเพื่อตัดความรำคาญจึงรวบขึ้นเป็นมวยสูงผูกด้วยผ้าแถบซึ่งใช้ผูกผมสีขาวไม่ได้ปักปิ่น แต่ความงดงามนั้นกลับทำให้แม้จะสวมชุดธรรมดาก็ดูเฉิดฉันอย่างมาก ขนาดว่าหลิวหมัวมัวก็ยังตกตะลึงไปไม่น้อย “หลิวหมัวมัว ข้าแต่งตัวเสร็จแล้วเจ้าค่ะ” เย่ฟางหรูจำได้ว่าทุกคนเรียกนางกำนัลอาวุโสด้วยคำเรียกนี้ “อะ เอ่อ คุณหนูตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ” หลิวหมัวมัวกะพริบตาอยู่หนึ่งหน จากนั้นก็รีบเดินนำเย่ฟางหรูไปที่เรือนกลางและมอบหมายให้นางทำความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในห้องนั้น แล้วให้นางกำนัลคนอื่นจับตาเอาไว้ ส่วนตนเองก็กลับไปปรนนิบัติท่านอ๋องและท่านหญิงตามเดิม ณ ห้องหนังสือ หลังจากดื่มน้ำแกงเติมเต็มกระเพาะแล้ว เฉินอ๋องก็เดินหมากเล่นเป็นเพื่อนญาติผู้น้อง จ้าวฉีอิ่งคอยสังเกตสีหน้าและอาการของญาติผู้พี่ ในใจนางมีคำถามมากมายแต่ก็เกรงว่าถ้าถามออกไปจะดูไม่ค่อยเหมาะสม “เจ้ามีเรื่องอะไรอยากพูดก็พูดมาเถิด” มีหรือว่าเฉินอ๋องจะมองไม่ออกว่าจ้าวฉีอิ่งสงสัยเรื่องสตรีตระกูลเย่คนนั้น “จริง ๆ แล้วนางเป็นใครหรือเพคะ” จ้าวฉีอิ่งถามด้วยความว้าวุ่นใจแต่พยายามรักษาสีหน้าและอากัปกิริยา ที่นางต้องถามเช่นนี้ก็เพราะเคยถูกวางตัวไว้ให้เป็นพระชายาเฉินอ๋องในอนาคต ทว่าตอนนั้นเสด็จย่าของท่านอ๋องไม่ทรงยินยอม ต้องการให้ตระกูลจางและตระกูลเย่หมั้นหมายกันตามสัญญาหมั้นหมายเดิมที่ทำขึ้นในสมัยที่สองตระกูลนี้ยังรักใคร่ปรองดองกันดี “สตรีตระกูลเย่” จางหย่งเฉินตอบโดยไม่สะทกสะท้าน สำหรับเขาแล้วสตรีตระกูลเย่ไม่ได้มีความหมายอะไร เย่ฟางหรูที่เขาเข้าใจว่าเป็นเย่เหมยหลินนั้นยังพอมีประโยชน์ ดังนั้นนางยังตายไม่ได้ในตอนนี้ ทว่าคำพูดประโยคนั้นเป็นดั่งฝันร้ายของจ้าวฉีอิ่ง แต่นางก็คิดว่าตนเองเหนือกว่า เฉินอ๋องไม่มีทางรักสตรีจากตระกูลเย่คนนั้นแม้ว่านางจะมีรูปโฉมงดงามล่มเมืองก็ตาม “แล้วให้นางไปเป็นนางกำนัลเช่นนั้นจะดีหรือเพคะ” จ้าวฉีอิ่งแกล้งถาม แม้ว่าในใจจะรู้สึกว่าสมควรแล้วก็ตาม “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเข้ามายุ่ง หมากตานี้ข้าเดินชนะแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ” จากนั้นจางหย่งเฉินก็วางหมากสีขาวลงบนกระดาน ปิดทางรอดของจ้าวฉีอิ่งทำให้นางต้องพ่ายแพ้ไป “หม่อมฉันขออภัยเพคะ” จ้าวฉีอิ่งรู้ว่าตนนั้นถูกตำหนิ จึงไม่เซ้าซี้อีก รีบลุกขึ้นแล้วย่อกายลงทำความเคารพแล้วก็เดินออกจากห้องหนังสือไป เมื่อเฉินอ๋องอยู่ตามลำพังแล้ว หลิงหาวก็เดินเข้ามารายงานข่าวเรื่องที่ส่งคนไปสืบข่าวที่เมืองเนี่ยโจวทันที “รายงานพ่ะย่ะค่ะ” กระดาษแผ่นหนึ่งถูกส่งถึงมือบุรุษองอาจ เขารีบคลี่มันออกดูแล้วก็อ่านรายงานที่อยู่ในนั้นทั้งหมด ประกายตาคมเข้มแวววับขึ้นเพียงแวบเดียว “หึ” เขาถอนลมหายใจแค่นั้น แล้วสั่งให้หลิงหาวส่งคนไปสืบข่าวมาอีก จากนั้นก็กลับไปนั่งอ่านฎีกาต่อ ไม่ได้สนใจเย่ฟางหรูที่ถูกใช้งานหนักอยู่ที่เรือนกลาง ตกเย็นแล้วเย่ฟางหรูเพิ่งจะได้พัก ตอนนี้นางเริ่มมีอาการตัวร้อนอีกแล้วเนื่องจากยังไม่หายไข้ดีก็ถูกใช้งานหนักก่อน หลังจากทำความสะอาดในห้องโถงกลางเสร็จแล้ว ก็ถูกหัวหน้านางกำนัลอีกคนเรียกไปตักน้ำในบ่อเพื่อใส่ให้เต็มตุ่ม คนที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อนก็ถึงขั้นไม่มีเรี่ยวแรงเหลือ ฝ่ามือแตกจนจับสิ่งใดไม่ได้ เพราะไม่เคยทำงานหนักมาก่อน ตามปกติตอนที่อยู่จวนเจ้าเมืองเหลียนโจวไม่เคยต้องลงมือทำสิ่งใดเอง ทำเพียงคอยชี้นิ้วสั่งงานผู้อื่น ดูแลผู้เป็นมารดาที่สุขภาพไม่แข็งแรงบางครั้ง แล้วก็ทำงานเย็บปักถักร้อยบ้าง ส่วนใหญ่จะได้เรียนหนังสือกับครูที่บิดาหามาให้เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ดังนั้นนางจึงชอบอ่านหนังสือและสนใจศึกษาตำราอย่างมาก สตรีเดินกลับมาที่เรือนหมู่ตานในสภาพที่ดูไม่ค่อยได้นัก โชคดีที่นางยังจำทางกลับได้ หลินหลินที่เดินไปเดินมาเหมือนกำลังรอคอยใครสักคน เมื่อเงยหน้ามาเห็นเย่ฟางหรูก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที “คุณหนู ท่านหายไปไหนมาเจ้าคะ” และเมื่อมองสำรวจดูก็ต้องตกใจหน้าซีดเผือด “คุณหนู ...มือแตกนี่เจ้าคะ” หลินหลินโวยวาย แต่ก่อนที่จะพยุงตัวคุณหนูคนนี้เข้าเรือน หมิงเอ๋อร์ก็วิ่งหน้าตั้งมาก่อน “คุณหนู ท่านอ๋องทรงตามตัวอยู่นะเจ้าคะ ท่านรีบไปเถอะ” หมิงเอ๋อร์มีสีหน้าร้อนรน เพราะที่เรือนซีซวนกำลังลุกเป็นไฟ ส่วนเย่ฟางหรูนั้นไม่ได้สนใจสิ่งที่สาวใช้พวกนั้นพูดเลยสักนิด นางไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยงเลยเกิดเวียนศีรษะจนเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน ท่ามกลางความแตกตื่นของพวกสาวใช้ที่ถูกส่งให้มาดูแลคุณหนูตระกูลเย่ “ข้าอุ้มไม่ไหว ใครก็ได้มาช่วยหน่อย” ระหว่างที่หลินหลินและหมิงเอ๋อร์ช่วยกันพยุงตัวคุณหนูตระกูลเย่ขึ้นมานั้น ก็เป็นช่วงเดียวกับที่เฉินอ๋องเสด็จมา “เย่ฟางหรู! เจ้าหายไปที่ใดมา” แน่นอนว่าจางหย่งเฉินรู้ชื่อจริงนางแล้วจากรายงานเมื่อเช้านี้ รู้แม้กระทั่งเรื่องที่นางไม่ใช่คู่หมั้นของเขาด้วยซ้ำ “ทะ ท่านอ๋องเพคะ!” หลินหลินและหมิงเอ๋อร์ รวมทั้งซินซินที่กำลังจะวิ่งมาช่วย ต่างก็รีบหยุดทำความเคารพท่านอ๋องทันที สีหน้าถมึงทึงนั้นทำให้ทุกคนขนอ่อนลุกชันไปทั้งตัว บุรุษองอาจเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วก็ใช้แววตาสำรวจ “นี่มันอะไรกันหลิวหมัวมัว” หลิวหมัวมัวที่ทำคนหายไปนั้นก็อดสะดุ้งตัวตกใจไม่ได้ เมื่อถูกถามถึงสาเหตุ เพราะสภาพเย่ฟางหรูดูแทบไม่ได้เลย เนื้อตัวมอมแมมสกปรก กระทั่งที่ใบหน้ายังเปื้อนคราบเขม่าดำอีกด้วย “มะ หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ” นางกำนัลอาวุโสรีบคุกเข่าลง “ไปสืบข่าวมาว่านางไปที่ใดบ้าง แล้วถูกใครใช้งานจนกลายเป็นเช่นนี้” จางหย่งเฉินมองหน้าเย่ฟางหรูด้วยสายตาดุดัน หลิงหาวรีบไปทำตามคำสั่งทันที “หลิวหมัวมัวไปตามหมอมา” “ส่วนพวกเจ้ารีบพยุงนางเข้าเรือน” เฉินอ๋องพูดเพียงเท่านั้นก็เดินเข้าเรือนหมู่ตานไปพร้อมกับบ่าวรับใช้คนอื่น ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD