หนีเมืองกรุง

2761 Words
“ตัดสินใจดีแล้วเหรอเทวิกา ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลถามเธออีกครั้ง ก่อนที่จะเซ็นอนุมัติ ใบลาออก เธอเสียดายฝีมือของเทวิกามาก ผู้หญิงคนนี้เก่ง ทำงานเก่งไม่พอ ในเรื่องของอารมณ์ เทวิกาก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่ว่าจะเจอลูกค้าแบบไหน เธอจัดการได้หมด ทำได้ทุกอย่าง ไม่เคยบ่น ไม่เหลวไหล แถมหน้าตาสวยมาก แต่นั่นแหละเพราะหน้าสวย และรูปร่างดีของเทวิกา ถึงทำให้หญิงสาวลำบาก ตำแหน่งรองผู้จัดการร้านอาหารใหญ่ในกรุงเทพฯ เงินเดือนสูง มีสวัสดิการทุกอย่าง หญิงสาวจำต้องตัดสินใจลาออก เพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง แถมไม่บอกด้วยว่าได้งานใหม่ที่ไหน “วิกาตัดสินใจแล้วค่ะพี่นุช ไม่ไหวค่ะ ทำงานไม่อิสระ กดดัน วิกาไม่ชอบอะไรแบบนี้ สู้วิกาถอยดีกว่า จะได้ไม่มีเรื่อง ถ้าวิกาไม่อยู่ทุกอย่างจะได้ไม่มีปัญหา ไม่ใช่แค่องค์กรอย่างเดียวนะคะ รวมถึงคนอื่นด้วย ขอร้องพี่นุชนารถ นะคะว่า อย่าเพิ่งบอกใครว่าวิกาลาออก วิกายอมไม่รับเงินเดือนในเดือนที่ทำมา ให้วิกาขนของออกจากที่พักให้หมดก่อน น่าจะพรุ่งนี้ค่ะ แล้วยังไงวิกาจะโทรบอกพี่นุชนะคะ หลังจากที่โทรบอกพี่นุชแล้ว วิกาจะเปลี่ยนเบอร์” นุชนารถถอนหายใจ ” เกิดมาสวยนี่มันก็ลำบากเนาะ โชคดีนะที่พี่ไม่สวย ถ้าสวยคงไม่รอดเหมือนวิกาแน่ๆ ดีแล้วที่ไม่สวย พี่ไม่อยากไปถูกใจถูกตา คนใหญ่คนโตเหมือนวิกา ไม่งั้นคงปวดหัวน่าดู ก็ได้พี่จะทำตามที่วิกาขอร้อง เงินเดือนไม่เอาแน่นะ มันเยอะอยู่นะพี่ว่า ไม่เสียดายเหรอ แต่อย่างว่าแหละ วิกาไม่มีภาระอะไร ออกไปก็ไม่ลำบาก ลูกผัวก็ไม่มี คนมีความสามารถแบบเทวิกา หางานแป๊ปเดียวก็ได้แล้ว พี่ขอให้วิกาโชคดีนะ อย่าหนีเสือปะจระเข้ล่ะ” สุดท้ายเมื่อยื้อหญิงสาวไว้ไม่ได้ นุชนารถก็ต้องเซ็นอนุมัติใบลาออกให้เทวิกา" “ขอบคุณมากค่ะพี่นุชนารถที่เข้าใจ วิกาลาเลยนะคะ” จบสิ้นกันเสียที ขออย่าให้ได้พบได้เจอ เรื่องที่น่ารังเกียจแบบนี้อีกเลย ภาพของผู้หญิงสูง หน้าตาสวย ปล่อยผมยาว ใส่หมวกแก๊ปสีขาว สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า พอดีตัว ติดกระดุมเม็ดบนสุด ปล่อยแขนเสื้อยาวติดกระดุมที่ปลายแขนเช่นกัน สวมกางเกงยีนต์ขายาวสีเข้ม ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ข้างหลังแบกเป้สีดำใบใหญ่ ไม่พอ ข้างหน้ายังมีเป้ใบย่อม สำหรับใส่ของใช้กระจุกกระจิก มือถือกีตาร์โปร่ง หนึ่งตัว ลงจากรถแท็กซี่ มุ่งหน้าเดินเข้าไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เทวิกาเริ่มรู้สึกตัว ว่ามีคนสะกดรอยตาม หญิงสาวแวะเข้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่จะเข้าไปนั่งรอรถไฟ โชคดีที่สมัยนี้ในร้านสะดวกซื้อมีที่ให้นั่งดื่มกาแฟ เธอนั่งอยู่ภายในร้านนั้นเกือบสามสิบนาที “เอาไงดี คุณเทวิกา เข้าไปซื้อของ นายเฝ้าก่อนได้ไหม ข้าปวดฉี่ ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนึง น่าจะกินกาแฟ ดูเวลาแล้วอีกเกือบชั่วโมงกว่า รถไฟเที่ยวที่คุณเทวิกาจองไว้จะมา คงนั่งอีกนาน เฝ้าไว้ก่อนนะ เดี๋ยวมา" “รีบไปรีบมานะพี่ ผมหิวข้าวแล้ว” ผู้ชายอีกคนไปเข้าห้องน้ำแล้ว ส่วนอีกคนเฝ้ามองหญิงสาวที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้าม ผ่านไปเกือบสามสิบนาที ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ยอมลุก คนไปเข้าห้องน้ำก็ยังไม่มา ขอสูบบุหรี่หน่อยล่ะกัน คนมีเคราก้มหน้าก้มตาหาไฟแช็ค และบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อ เจอแล้วเขาก็จุดบุหรี่สูบอย่างสะบายใจ ตาเหม่อมองออกไปข้างหน้า ผู้หญิงคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม นี่ใกล้เวลารถไฟจะมาแล้ว ทำไมไม่รีบลุกเข้าไปในชานชลา “เฮ้ย...เป็นไง ขอโทษที ปวดท้องเข้านานไปหน่อย เป็นไงบ้าง สบายใจเลยนะเอ็ง” “คุณเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมนะพี่ ไม่เห็นรีบเข้าไปข้างในเลย นี่ก็ใกล้เวลารถไฟจะมาแล้ว “ “ดูท่าจะไม่ปกติแล้ว ไปดูด้วยกันเลยดีกว่า” ผู้ชายสองคนรีบเดินข้ามถนนตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้าม “แย่แล้ว เห็นไหมว่าอะไร” ภาพตรงหน้า ไม่ใช่เทวิกา แต่เป็นหุ่นดาราโฆษณากาแฟ หุ่นนั้นอยู่ในท่านั่งดื่มกาแฟแบรนด์ดัง พนักงานนำมาตั้งบังอยู่ตรงที่เทวิกานั่งพอดี มองมาไกลๆ จะคิดว่าเป็นคนนั่งดื่มกาแฟ แม่งโดนหลอกแล้วมึง แล้วจะตามที่ไหนได้ล่ะทีนี่ ทั้งสองคนรีบออกจากร้านสะดวกซื้อ เดินตรงไปที่ชานชลา ยังมีเวลาเหลืออีกสิบนาที ผู้หญิงคนนั้นน่าจะนั่งรอขึ้นรถไฟอยู่แถวนั้น "หึ....รอไปเถอะ ฉันไม่อยู่ให้ตามติดได้ง่ายๆ หรอก" เทวิกาลงจากแท็กซี่ แล้วก้าวขึ้นรถทัวร์ทันที เธออุตสาห์วางแผนมาตั้งนาน ตามเธอไม่ทันหรอก คิดไว้แล้วเชียว ว่าจะต้องถูกตาม นายถาวรนั่น ไม่ยอมปล่อยเธอง่ายๆ คราวนี้รอดได้ คราวต่อไปล่ะ ลาออกก็ใช่ว่าจะรอดง่ายๆ เทวิกาหน้าเครียดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดถึงตรงนี้ แม่กับน้องชายเธออีก เงินที่เก็บสะสมมา ยังพออยู่ได้อีกประมาณสองปีหลังจากนี้ แต่ต่อไปเธอจะทำมาหากินอะไร ที่พอจะมีรายได้เพิ่มเข้ามา น้องชายเธอยังต้องเรียนหนังสือ อีกสองปี ตอนนี้ไม่มีปัญหา แต่อนาคตถ้าเธอยังหางานไม่ได้มีหวัง ลำบากกันทั้งสามคนแน่ๆ “พี่นุชคะ ตอนนี้วิกาเดินทางแล้ว อย่างที่คิดไว้เลยค่ะ มีคนสะกดรอยตามวิกา สองคน แต่วิกาหลบมาได้ ไม่รู้จะหนีได้อีกนานขนาดไหนนะคะพี่นุช ขอบคุณพี่นุชมากนะคะ ไว้มีโอกาสค่อยเจอกันค่ะ เท่านี้นะคะพี่ สวัสดีค่ะ” นุชนารถ ถอนหายใจโล่งอก ก่อนหน้านี้ เลขาของคุณถาวร โทรมาเชิญเธอให้เข้าไปพบ เธอตอบปฏิเสธ ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เธอรู้ว่าฝ่ายนั้นไม่เชื่อเธอนัก แต่จะทำยังไงได้ เธอไม่ชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว โล่งใจที่เทวิการอดไปได้ ดีใจที่ตัวเธอรอดมาได้ เพราะความอ้วนดำของตัวเอง “แม่ขา วิกากำลังเดินทางกลับบ้านนะคะแม่ พรุ่งนี้สายๆ คงถึงค่ะ มารถทัวร์ คุณถาวรส่งคนตามมาค่ะ แต่วิกาหลบมาได้ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องห่วง แม่กับน้องสบายดีนะคะ คิดถึงจังเลย ไม่กวนแม่แล้วพักผ่อนเถอะค่ะแม่ แค่นี้นะคะ แล้วพบกันค่ะ” หญิงสาววางสายจากแม่ ถอนหายใจอย่างโล่งอก ครั้งนี้รอดไปได้ เธอเชื่อว่าพวกเขาจะตามหาครอบครัวเธอไม่เจอ เทวิกา ประกาศขายบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วซื้อคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยของน้องชาย เพื่อเอาไว้ให้น้องชายอยู่ เมื่อต้องกลับมาเรียน ก่อนหน้านี้เธอกลับไปรีโนเวทบ้านที่ต่างจังหวัดใหม่่ เพื่อกลับไปอยู่ ที่มรดกของแม่ เป็นมรดกของยายยกให้ เดิมเธอให้เขาเช่า ทำสวน โชคดีที่คนเช่าทำไร่ต้องไปอยู่กับลูกที่กรุงเทพฯ ที่ดินของแม่เธอก็ว่าง และเมื่อถึงเวลา เทวิกาส่งแม่กับน้องกลับไปอยู่บ้านล่วงหน้าก่อน น้องชายเธอเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 แล้ว ช่วงนี้ปิดเทอม ไม่น่าห่วง เพราะเป็นผู้ชาย เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมา เธอเลือกที่จะลาออกดีกว่า ไหนจะภรรยาของคุณถาวรอีก เธอไม่เสี่ยง บางคนอาจยอมรับได้ แต่ไม่ใช่เธอแน่ ชีวิตนี้เธอไม่ได้อยากเป็นอีกคนของใคร ถ้าไม่มีแฟน ก็ไม่ได้เสียหายอะไร อยู่กับแม่กับน้องสบายใจดีออก หญิงสาวหลับตา ต่อไปเธอหวังว่าจะไม่เหนื่อยไปมากกว่านี้ ถ้าพ่อยังอยู่ ครอบครัวเธอคงจะสบายกว่านี้มาก ถาวรคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทฯ ที่เธอทำงานอยู่ เขาเป็นพี่ชายของเจ้านายของเธออีกที เจ้าชู้มาก มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว แต่เป็นที่รู้กันว่า พนักงานสาวๆสวย ๆ ไม่มีทางรอดจากเขาได้สักคน เขาเสนอให้บ้าน ให้รถ ให้เงินเดือนกับเธอ แต่เธอต้องยอมเป็นน้อย ไม่ต้องทำงาน ให้อยู่บ้าน รอเขามาหา ไปเที่ยวต่างประเทศกับเขา เวลาที่เขาไปดูงาน จะไม่ให้มีปัญหากับภรรยา เทวิกา ถือว่า เป็นการดูถูกเธอมากที่สุด เธอไม่อยากได้สิ่งที่เขาเสนอให้ มันทำให้ตัวเธอไร้ค่าเกินไป และเธอก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น ยังมีสมองที่จะทำงานหาเงินได้มากกว่าที่จะยอมเป็นน้อยของใคร ลำพังเขาวนเวียนถามเธอบ่อยๆ ยังพอหลีกเลี่ยงได้ แต่นี่เขาเล่นไม่ซื่อ พยายามล่อลวงเธอเพื่อที่จะมอมยาเธอ ดีที่หญิงสาวไหวตัวทัน พี่นุชนารถอีกนั่นแหละที่เป็นคนที่คอยช่วยเหลือส่งข่าวบอกเธอตลอด ทำให้เธอรอดพ้นจากเงื้อมมือชายชั่วบ้าตัณหานั่น เทวิกา เก็บผม ใส่หมวกกันน็อค ขับมอเตอร์ไซค์วิบากที่เพิ่งซื้อจากโชว์รูม เดินทางกลับบ้าน อีก 20 กิโลเมตร เธอตั้งใจเอาไว้ใช้ในไร่อยู่แล้ว เหมือนเดิม ช่วงที่เข้าไปดูรถในโชว์รูม เจ้าของร้าน และพนักงานขายผู้ชาย พยายามสอบถามว่าเธอ อยู่ที่ไหน มาทำอะไร ทำงานอะไร มีแฟนหรือยัง น่าเบื่อมากๆ เธออุตสาห์หนีคนพวกนี้มา ก็ยังไม่วายต้องเจอ หญิงสาวแวะตลาด เพื่อหาซื้อของใช้จุกจิก ต่าๆ ส่วนอาหารคิดว่าค่อยออกมาหาซื้อกับน้องชาย ทีหลัง เผื่อเธอได้พาแม่ออกมาเปิดหูเปิดตาบ้าง รู้สึกสบายใจ มากๆ ที่แห่งนี้ ไม่มีใครรู้จักครอบครัวของพวกเธอ จากถนนสายหลัก เทวิกาเลี้ยวรถมอเตอร์ไซค์ เข้าซอยเข้าไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ภาพตรงหน้าที่เทวิกาเห็นไกลลิบนั่นเริ่มชัดขึ้น บ้านปูนหลังขนาดกำลังพอดี ปลูกอยู่บนเนินดินที่ถมสูง ในเนื้อที่ เกือบ 20 ไร่ ต่างจังหวัดแบบนี้ ถือว่ากำลังดี เป็นความโชคดี ของครอบครัวเธอ ที่แม่มีที่ผืนนี้ มันจะเป็นที่สุดท้าย และปลอดภัย เรื่องที่จะทำมาหากินอะไรนั้น ค่อยว่ากันอีกที แถบนี้ส่วนมากเป็นสวนผลไม้ สวนผักที่ปลูกส่งโรงงาน หญิงสาวไม่ได้คิดว่าจะมาทำไร่เต็มตัว แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำมาหากิน อะไร หลังจากนี้ เธอคิดว่าทำอะไรดีที่ไม่ต้องลงทุนมาก สามารถแปลงเป็นเงินได้ เร็ว ให้มีรายได้พออยู่กันได้สบายๆ สามคนแม่ลูกก็พอ ทวี น้องชายเธอวิ่งออกมาเปิดประตูรั้วหน้าบ้านให้หญิงสาว เธอบิดคันเร่งพารถวิบากคันสูงไปจอดหน้าบ้าน น้องชายวิ่งมารับเป้จากพี่สาว “สวัสดีครับพี่วิกา โห นี่ซื้อแล้วขับมาเลยเหรอครับ สุดยอดเลยพี่วิกา เหมาะกับบ้านเรามากเลย ผมชอบ ขี่เข้าไร่ได้ด้วย แต่แม่คงขึ้นยากนะครับ” “ก็เวลาพาแม่เข้าไร่ก็ใช้ซาเล้งได้ ไม่มีปัญหาหรอก สบายดีนะ วี” “สบายดีครับ ไม่มีใครตามมาแน่นะครับพี่วิกา” ทวีมองไปบนถนนที่ผ่านหน้าบ้าน ถนนเส้นนี้ยาวไปไร่ของคนอื่น และเป็นทางลัดเข้าเมืองอีกทาง “ไม่หรอก ปลอดภัย ถ้าที่นี่ไม่ปลอดภัย ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนแล้ว “ สองพี่น้องช่วยกันยกของเข้าบ้าน โชคดีอีกที่บ้านหลังนี้ยังใช้ได้ดี คนเช่าเก่าดูแลดีมาก บ้านหลังนี้ พ่อกับแม่เธอช่วยกันสร้าง เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน แต่หลังจากที่สร้างเสร็จได้ไม่นาน พอเธอก็เสียชีวิต แม่เธอทำใจไม่ได้ ประจวบกับที่เธอเรียนจบและได้ทำงาน เลยพาแม่กับน้องเข้าไปอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ ที่นี่ก็ปล่อยให้เช่า และได้กลับมารีีโนเวท ให้น่าอยู่มากขึ้น หญิงสาวเข้าไปกราบนางทิวาพร ผู้เป็นแม่ “เจริญๆ นะลูกสาวแม่ ปลอดภัยแล้วนะลูก ต่อไปก็ไม่ต้องหวาดระแวงอะไรอีกแล้ว ถึงบ้านเราแล้วลูก รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ แม่ทำกับข้าวไว้แล้ว เดี๋ยวจะได้มากินข้าวด้วยกัน คืนนี้จะได้พักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะลูก” “ค่ะแม่ วิกาขออาบน้ำสระผมแป๊ปเดียวนะคะแม่ หิวข้าวมากเลย” “ผมตั้งสำรับเลยนะครับแม่ พี่วิกาอาบน้ำเสร็จจะได้กินเลย” “ตั้งเลยลูก กินเสียตั้งแต่หัววัน จะได้ไม่แน่นมาก” นางทิวาพร มีฝีมือในการทำอาหารทั้งไทยและฝรั่ง สมัยเป็นสาวนางทำงานเป็นเชฟที่โรงแรมใหญ่ทางใต้ หลังแต่งงาน และตั้งท้อง นางเลือกที่จะลาออกจากงาน มาอยู่บ้านเลี้ยงลูกทั้งสองคน นางเป็นคนทันสมัย เลี้ยงลูกให้เป็นคนธรรมดา ทั้งเทวิกา และทวี ลูกทั้งสองคนของนาง ก็ไม่เกเร บอกง่าย เชื่อฟังนางทุกอย่าง ถือว่าเป็นบุญของนาง ที่มีลูกดีทั้งสองคน “น้ำพริกของแม่อร่อยที่สุดเลยค่ะ กากหมูนี่ก็ด้วย แม่ขา วิกาคิดออกแล้วว่าจะทำอะไรดี วิกาจะช่วยแม่ทำแคปหมูขาย อาจมีน้ำพริก แม่ทำได้หลายอย่าง แต่วิกาจะไม่ให้แม่เปิดร้านแล้วนะคะ แม่อายุมากแล้ว ทำแค่ไม่เหงาก็พอ” “แม่คิดไว้เหมือนกันลูก อยู่ที่นี่ไม่ไกลเมืองมากนัก เดี๋ยวนี่มีสื่อโซเชียล ขายง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก ทำอะไรก็โพส คนก็สนใจ แต่ว่าวิกาจะกลัว ไหมล่ะลูก ว่าจะมีคนเห็นเวลาที่ลูกโพส” “แม่ของวิกาทันสมัยจังเลย รู้จักการขายของออนไลน์ด้วย ก็โพสแบบไม่ให้เห็นหน้าไงคะแม่ แม่เคยเห็นเพจหนึ่งไหมคะ ที่เขาทำอาหาร คนไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย เห็นแต่มือที่ทำอาหาร คนติดตามเป็นล้าน ได้เงิน ถ้าเราจะทำบ้าง ก็ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ วิกาคิดว่าไม่ยากค่ะแม่ แต่ตอนนี้ขอกินข้าวฝีมือแม่ก่อนนะคะ มาอยู่ที่นี่วิกาอ้วนแน่ๆเลย” “อย่าว่าแต่พี่วิกาเลยครับ ผมนี่อ้วนแล้ว ต้องออกวิ่งทุกวันเลย ทวีพูดไปกินข้าวไปอย่างมีความสุข” เทวิกามองแม่และน้อง ที่นั่งกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข แบบนี้แหละที่เธอต้องการ มีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัว ไม่ต้องหรูหราอะไร เธอไม่ได้อยากมีชีวิตที่หรูหรา รวยล้นฟ้า แต่เธอต้องการชีวิตครอบครัวแบบนี้ รอให้น้องชายเธอเรียนจบ ชีวิตก็จะสมบูรณ์ แต่ก็ต้องตามใจเขา เผื่อเรียนจบ เขาอยากทำงานที่กรุงเทพฯ ส่วนตัวเธอก็จะขออยู่กับแม่แบบนี้ตลอดไป ระหว่างที่สามคนแม่ลูกนั่งกินข้าวกันที่เฉลียงหน้าบ้าน ไม่มีใครสังเกตุว่ามีใครบางคนที่แอบซุ่ม อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ฝั่งตรงข้าม โชคดีที่ถนนผ่านไร่เส้นนี้ ยังไม่มีไฟที่ติดตามถนน ทำให้รอบข้างมืดสนิท อำพรางตัวได้ดี วิศาลค่อยๆ เดินออกจากที่ซ้อน หลังจากที่บ้านบนเนินนั่น ปิดประตูหน้าต่าง เหลือเพียงไฟที่เปิดไว้ส่องสว่างที่หน้าบ้าน และที่รั้ว และโชคดีอีกอย่างคือ เจ้าของบ้านไม่ได้เลี้ยงหมาไว้เลยสักตัว ไม่งั้นเขาคงไม่อยู่ได้นานหลายชั่วโมงแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD