Born to be
: 2 :
พี่สองเด็กศิลป์
“มาทำไมไม่ทราบ เราเลิกกันแล้วปะ”
“เธอทำแบบนั้นมันหยามหน้าฉันเกินไปปะวะเคลียร์”
“อ๋อ แล้วที่แกกับอีจีจี้แอบไปสมสู่กัน ไม่หยามหน้าฉันเลยว่างั้น?” ขึ้นเสียงใส่ไอ้โดมที่เดินสาวเท้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว พลางกระชากแขนอย่างแรงจนของในมือตกบนพื้นกระจัดกระจาย “ฉันเจ็บ”
“เจ็บเหรอ? ที่เธอตบหน้าฉันจนปากแตก ฉันไม่เจ็บหรือไง”
“น้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่แกทำกับฉัน” เชิดหน้าขึ้นตวาดใส่ไอ้โดมจนมันจ้องหน้าฉันนิ่ง “ไปซะ แล้วอย่ามาเหยียบที่นี่อีก ที่นี่ไม่ต้อนรับแกเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว โอเค?”
“ฉันก็ไม่ได้อยากจะมาหรอกนะ แต่สิ่งที่เธอทำมันส่งผลกระทบกับฉันไง!”
“กระทบยังไง อ่า หมายถึงว่าโดนตราหน้าว่าเป็นไอ้หน้าตัวเมียนอกใจแฟนไปนอนกับอีตัวน่ะเหรอ”
“เคลียร์!”
“ฉันพูดความจริง มีอะไรผิดก็ค้านมาสิ” กระตุกยิ้มมุมปากจนไอ้โดมกัดฟันกรอด สีหน้าดูยุ่งเหยิง ผมสีน้ำตาลเข้มที่ตัดเข้าทรงไถข้างให้ดูเกรียนด้านบนปล่อยยาวเพื่อที่จะใช้มือเสยผมขึ้นไปได้ เท่นะ... เท่กว่าหมานิดนึง “เพราะฉันไม่ง่าย เล่นด้วยยากสินะถึงได้ตาต่ำไปกินอีจีจี้”
“ถ้าไม่อยากเลิกกับฉันก็บอกมาดีๆ ดิ”
“เหอะ”
“แค่นอนถ่างขาให้ฉันเย็ด”
“!”
“ฉันจะเลิกยุ่งกับจีจี้ เอาแบบนั้นไหมล่ะ?” ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคำพูดของแฟนเก่าที่เคยพูดจาคะขากับฉัน เรียกที่รักแบบนั้นแบบนี้ กลับกลายเป็นว่ามันแปรงร่างเป็นปีศาจร้ายที่พูดจาหยาบคายจนฉันโกรธจนร้อนอก “ได้เปิดซิงจีจี้แล้ว เหลือแค่เปิดซิงเธอ”
“เสียดายว่างั้น” ฉันแสยะยิ้มพลางดันฝ่ามือหนาให้ออกจากการบีบข้อมืออย่างแรงจนเจ็บถึงกระดูก “ไปนอนฝันเปียกก่อนนะ เพราะสำหรับฉันเลิกคือเลิก ไม่กลับไปกินเศษขยะเน่าๆ อย่างแกแน่”
“จริงๆ เธอก็แอบเสียดายฉันสินะเคลียร์ ใช่สิ ฉันน่ะฮอตที่สุดในคณะวิศวฯ ใครเห็นก็อยากได้ ขนาดเธอยังอยากได้ฉันเลยไม่งั้นคงไม่คบกันมาสามเดือนหรอก”
“ตอนนั้นฉันมันตาต่ำไง แต่ตอนนี้ฉันตาสูงล่ะ ถึงได้มองเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูสูงส่งกว่าแก ดูดีกว่าแกล้านเท่า”
“ใคร?” เค้นเสียงลอดไรฟันจนฉันจ้องหน้ามันตาเขม็ง
“อย่ามาทำห่วงก้างแถวนี้หน่อยเลย เลิกกันแล้วก็ให้จบไปดิ” ฉันกดเล็บบนผิวเนื้อไอ้โดมแต่มันก็ด้านเกินคน ไม่มีเจ็บเลยสักนิดทั้งที่เล็บของฉันก็ยาวพอควรนะเพราะไม่มีเวลาตัด ปกติฉันตัดเล็บตลอดไว้พร้อมสำหรับออกแบบงานกับทำโมเดล “ปล่อยฉันนะ”
“มันเป็นใคร!” โดมตวาดใส่ฉันดังลั่นจนโถงทางเดินตอนนี้ไร้ซึ่งผู้คนที่เดินสวนกันไปมา
“นายเสือกอะไรด้วยวะ ฉันจะคบกับใครหลังจากนี้ยุ่งอะไรด้วย กลับไปหาเมียแกนู้นดิ”
“หรือจริงๆ แล้วที่เธอเลิกกับฉันเพราะมีคนอื่นอยู่ก่อนแล้วเหรอวะเคลียร์”
“ฉันไม่ได้ชั่วแบบนาย ไม่มีวันทำอะไรลับหลังหรือทำเรื่องระยำแบบที่แกกับอีจีจี้ทำหรอก!” ยังคงด่าทอมันเสียๆ หายๆ และพยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดจากการกอบกุม แต่ยิ่งทำแบบนี้ไอ้โดมก็ยิ่งบีบแรงขึ้นจนฉันใช้วิธีสุดท้ายด้วยการจะเตะอัดไข่มัน หากแต่ว่ามันรู้ตัวถึงได้เอี้ยวตัวหลบ “ปล่อย ฉันเจ็บ!”
“ไม่ปล่อย วันนี้ยังไงก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”
“ไม่มีอะไรต้องคุยแล้ว ไอ้เวร ฉันเจ็บนะ!”
“มึงจะปล่อยมือเคลียร์ดีๆ หรือจะให้กูกระทืบมึง”
“!”
น้ำเสียงแหบพร่าปะปนไปด้วยความเย็นยะเยือก ทำให้ฉันกับไอ้โดมหยุดต่อสู้กันและค่อยๆ หันไปมองด้านหลังฉัน เสียงที่คุ้นเคยแบบนี้บอกเลยว่าไอ้โดมแม่งชะตาขาดของจริง เพราะว่าตอนนี้ร่างสูงใหญ่ที่สวมเสื้อช็อปเด็กช่างสีเทากำลังยืนจ้องมองมาที่เราสองคนตาเขม็งพร้อมเพื่อนอีกสองคนที่ยืนขนาบข้าง ไอ้โดมมึงตายห่าแน่...
“ไม่มีอะไร กูแค่มาเคลียร์กับพี่สาวมึง”
“จำเป็นต้องฉุดกระชากลากถู?” คิงเอ่ยถามพลางเดินมาหยุดข้างฉัน ใช้สายตามองมาที่ข้อมือจนไอ้โดมยอมปล่อยแถมทำท่ากวนบาทาจนคิงดันฉันไปยืนด้านหลัง “จะทำอะไรหัดให้เกียรติพี่กูบ้าง”
“หึ มึงเสือกอะไรด้วย เรื่องผัวเมีย”
“ผัวเมียอะไร ฉันกับเลิกกับแกแล้ว” ตวาดใส่ไอ้โดมที่ยังคงอ้างว่าฉันกับมันเป็นผัวเมียกัน ทั้งที่เป็นแค่แฟนเองและที่สำคัญก็คือเลิกกันแล้วไง มันลืมหรือไม่มีสมองกันแน่วะ “เลิกมารังควานฉันสักที ไปหาอีเมียใหม่ของนายนู้น”
“ฉันจะเคลียร์กับเธอเรื่องนี้ มาคุยกัน” ไอ้โดมไม่ยอมหยุดโน้มตัวหวังจะคว้าตัวฉัน หากแต่ว่าคิงกลับผลักอกมันอย่างแรงจนไอ้โดมโมโห “เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ! กูจะคุยกับพี่มึง”
“เคลียร์ไม่มีอะไรคุย มึงควรกลับไปได้แล้ว”
“กูไม่กลับ มานี่ดิ!”
หมับ
“คะ คิง”
“มึงจะไปดีๆ หรือจะให้กูกระทืบมันจริงๆ ไอ้โดม” ฉันตกใจสุดขีดที่คิงกระชากคอเสื้อไอ้โดมพลางง้างหมัดเตรียมซัดเข้าที่ใบหน้ายียวนของไอ้โดม แน่นอนว่าไอ้โดมเองก็ไม่ยอมหรอกนะกระชากคอเสื้อของคิงพร้อมง้างหมัดขึ้นเช่นเดียวกัน “เคลียร์เลิกกับมึงแล้ว เลิกมาวุ่นวายที่ห้องกูไม่งั้นกูไม่ปล่อยมึงไว้แน่”
“คิงหยุด” รีบคว้าต้นแขนน้องชายไว้เพื่อให้หยุดการกระทำของตัวเองในตอนนี้ ฉันรู้ดีว่าน้องชายตัวเองเลือดร้อนพอตัวพร้อมต่อยพร้อมตีเมื่อเพื่อนหรือใครมีอันตราย คิงใส่ใจคนรอบข้างและเห็นเพื่อนสำคัญที่สุด ถึงฉันจะเป็นพี่สาวก็ใช่ว่าคิงจะสนใจนะบางเรื่องเขาก็ไม่สน แต่บางเรื่องเช่นเรื่องนี้ที่เห็นฉันถูกไอ้โดมมันกระชากลากถูก คิงไม่เคยปล่อยให้ฉันเป็นอันตรายเลย ถึงปากจะบ่นว่าฉันชอบยุ่งกับชีวิตของเขาก็ตามที “พี่ขอ”
“...” น้องชายหันมามองฉันแวบหนึ่งก็คลายมือออกจากคอเสื้อไอ้โดม
“นายเองก็ไปได้แล้ว จำไว้นะฉันเลิกกับนายแล้ว”
ไอ้โดมมองหน้าฉันพลางกระตุกยิ้มมุมปากมองสบตากับคิงที่มองหน้ามันไม่วางตา แถมเดินชนไหล่เพื่อนของคิงคือหม่องอีกต่างหาก จนหม่องตรงจะเข้าไปซัดหน้าเขาแต่เพื่อนอีกคนของคิงก็คว้าตัวไว้ ให้หลังไอ้โดมมันเดินจากไปฉันก็ถอนหายใจพลางเก็บอุปกรณ์การเรียนเข้ามาในห้อง
“ทำไมถึงเลิกกับมัน?”
“มันนอกใจพี่ ก็เลยประจานมันกับชู้ที่มหาลัย มันคงโกรธนั่นแหละแต่พี่เจ็บใจไงเลยทำแบบนี้”
“เอาตัวไปเสี่ยงกับคนแบบนั้นทำไม”
“คนมันแค้น โดนสวมเขามาตั้งนานไม่ให้พี่ทำอะไรเลยหรือไง?”
“ผมไม่ได้บอกว่าไม่ให้เคลียร์ทำอะไร แต่ไอ้โดมนิสัยมันเหี้ยจะตาย” คิงรู้ดีสิเพราะเห็นมันควงกับผู้หญิงบ่อย แต่ด้วยเพราะเรื่องของฉันน้องก็เลยไม่ก้าวก่าย หากแต่ว่าถ้าใครมาทำอะไรฉันก็ตามที่เห็นเลย “ดีแล้วที่เลิกกับมันได้”
“อืม” ตอบคิงพลางใช้มือลูบไล้ตรงข้อมือที่เป็นรอยแดงเพราะมันบีบแบบโกรธฉันด้วยไง ได้ปั่นหัวมันเรื่องฉันมีผู้ใหม่ที่ดีกว่ามันไปแล้วก็ยังไม่หายแค้นเรื่องที่มันทำกับฉันอยู่ดีนั่นแหละ ทางเดียวที่จะหายได้คือคบกับผู้ชายที่ดีกว่ามัน หล่อกว่ามันและดีกว่ามันล้านเท่า หาจากที่ไหนได้บ้างล่ะตอนนี้? ไม่เลย พี่สองเองก็ไม่รู้ว่าจะมีแฟนหรือยัง เฮ้อ หรือฉันควรอยู่เฉยๆ ปล่อยให้เรื่องนี้มันผ่านไปและโฟกัสแค่เรื่องเรียนดีนะ
“มึงไม่เอาผ้าเย็นมาประคบข้อมือให้พี่เคลียร์ล่ะไอ้คิง” ฉันหันไปสบตากับเพื่อนของคิงที่หน้าตาคุ้นมาก เขามีใบหน้าหล่อเหลาและผิวสีแทนคมเข้ม ผมสีดำก็ตัดไถข้างขึ้นไปทรงเดียวกับไอ้โดมแต่เพื่อนคิงคนนี้ดูดีและหล่อกว่าไอ้โดมล้านเท่า เอาจริงปะแก๊งเพื่อนคิงมีแต่คนหน้าตาดีๆ ทั้งนั้น เด็กสมัยนี้นอกจากจะโตเร็วยังหล่อลากดินอีกต่างหาก ยัยเกี๊ยวถึงได้หลงเคลิ้มและใช่ ฉันก็เคยเคลิ้มไปเหมือนกัน
“อือ” คิงพยักหน้ารับก่อนจะเดินตรงเข้าไปในครัว
“พี่เคลียร์จำผมไม่ได้เหรอครับ?”
“คุ้นหน้านะ” ฉันจ้องหน้าเขาที่ฉีกยิ้มกว้างให้ตอนนี้หม่องออกจากไปสูบบุหรี่ตรงระเบียงห้อง “อ๋อ จำได้แล้วนายคือแต้งท์”
“ดีใจจังที่พี่เคลียร์จำผมได้”
“นายหายหน้าไปเลย” จำได้ว่าแต้งท์เพื่อนของคิงคนนี้เคยเจอกันตั้งแต่ตอนอายุสิบหกได้มั้ง ตอนนั้นก็คือมาทำแผลที่ห้องจากโดนตีโดนไล่ต่อยจากสถาบันอื่นนี่ล่ะ ตอนนั้นฉันต้องกลายเป็นพยาบาลภาคสนามเลยล่ะ เด็กพวกนี้ตีกันยังกับจะไปรบกันเลย สภาพคือยับเยิ่นอะบอกได้แค่นี้ “นึกว่าจะกลายเป็นเด็กดีไม่ต่อยตีซะแล้ว”
“ผมเพื่อนไอ้คิงนะครับ ใครมีปัญหาอะไรก็พร้อมลุย”
“รักษาชีวิตตัวเองบ้างก็ดี”
“เป็นห่วงผมเหรอครับ?”
“ห่วงทุกคนนั่นแหละ พูดไปก็เท่านั้นพวกนายมันหัวรั้น” แต้งท์อมยิ้มก่อนจะมองคิงที่เดินกลับมาพร้อมผ้าเย็นให้ฉันประคบตรงข้อมือที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่เจ็บนิดหน่อยตรงที่มันบีบอย่างแรง “พี่เข้าห้องก่อนแล้วกัน มีงานต้องทำ”
“อือ”
ฉันขนของเข้ามาในห้องปิดประตูพลางทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ส่งข้อความคุยไลน์กลุ่มกับเกี๊ยวและฟินน์เรื่องที่ไอ้โดมมันมารังควานส่งผลให้ฟินน์โกรธจนโมโห ไม่ใช่แค่ฟินน์หรอกนะที่โมโหน้องชายฉันเกือบจะยำมันคาตีนแล้วถ้าไม่ห้ามไว้นะ มีหวังได้โดมไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่ มันคงคิดว่าคิงเป็นเด็กช่างที่ต่อยตีไปเรื่อยจะสู้กับมันไม่ได้เหรอ ขอบอกเลยว่ามันโคตรจะคิดผิดเพราะว่าคิงไม่สนหน้าไหนทั้งนั้นล่ะ
ถอนหายใจวางมือถือลงจากนั้นก็อาบน้ำออกมาทำงานออกแบบนั่งเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะเขียนแบบและทีสไลด์ที่มหาลัยจะมีแบบนี้ แต่ป้าวิไลซื้อไว้ให้ฉันสำหรับทำงานในห้องหนึ่งตัว โต๊ะเขียนแบนจะมีกระจกดวงไฟอยู่ใต้โต๊ะทำให้การเขียนแบบสะดวกมากยิ่งขึ้น ฉันกะว่าจะขึ้นโครงออกแบบภายในไว้ก่อนพรุ่งนี้เข้าคลาสเรียนค่อยทำใหม่ อาจารย์จะได้ช่วยดูด้วย แต่วันนี้ขอนอนก่อนนะ... มีแต่เรื่องราวให้เหนื่อยใจมาทั้งวันแล้ว
[30%]
*--------------------------------------------------*